ก.ท่องเที่ยว จับมือเอกชนเร่งฟื้นความเชื่อมั่นหัวหิน


ก.ท่องเที่ยว จับมือเอกชนเร่งฟื้นความเชื่อมั่นหัวหิน

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จับมือ 20 องค์กรเอกชนด้านการท่องเที่ยว หารือถึงสถานการณ์และมาตรการดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความเชื่อมั่นในการแถลงสถานการณ์และมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และสมาคมด้านการท่องเที่ยว 20 องค์กรเอกชน ว่า เชื่อมั่นว่าในปีนี้ ไทยจะยังคงทำรายได้ท่องเที่ยวได้ 2.41 ล้านล้านบาทตามเป้าหมาย ประกอบกับครั้งนี้หน่วยงานภาครัฐได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายภาคเอกชน ในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบมากขึ้น เป็นผลมาจากประสบการณ์รับมือภัยก่อการร้ายที่แยกราชประสงค์ในปีที่ผ่านมา

โดยหลังจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนจะร่วมมือจัดกิจกรรมฟื้นฟูความเชื่อมั่นในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนัก เช่น อำเภอหัวหิน ให้ได้เร็วที่สุด เช่น จัดเป็นการแข่งขันวิ่งมาราธอนในถนนเส้นที่เคยเกิดเหตุการณ์ระเบิด ตอกย้ำให้เห็นว่าคนไทยไม่หวั่นต่อสถานการณ์และเชิญชวนให้ต่างชาติร่วมกิจกรรม

ทั้งนี้ เชื่อว่าวิกฤตครั้งนี้ จะไม่กระทบกับการท่องเที่ยวในไตรมาส 3 ปีนี้ เนื่องจากมีมาตรการรับมือในระดับภูมิภาครองรับ ซึ่งเป็นการปรับใช้จากบทเรียนครั้งก่อน มีการประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เข้มแข็งมากขึ้น ขณะเดียวกันตำรวจท่องเที่ยว ที่อยู่ในสังกัดของกระทรวง ก็ได้รับการจัดสรรอัตรากำลังคนเพิ่มเต็ม 1,700 นายเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี

สำหรับความคืบหน้าในการดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 คนที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้ มี 3 คนที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว และอีก 7 คนอยู่ระหว่างรักษาตัว และคาดว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ภายใน 7-10 วัน ซึ่งจากการพูดคุยบางรายยืนยันพร้อมเดินทางท่องเที่ยวต่อทันที โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท.เตรียมจัดแคมเปญเพื่อเชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นแขกพิเศษของประเทศ

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ย้ำถึงการเป็นเจ้าภาพงานวันท่องเที่ยวโลกว่า  ไทยยังคงยืนยันความพร้อมการเป็นเจ้าภาพวันท่องเที่ยวโลก ซึ่งเป็นงานระดับนานาชาติรายการสำคัญ ที่รวมบุคคลชั้นนำด้านการท่องเที่ยวทั่วโลก มาไทย ในวันที่ 27 ก.ย.นี้ โดยได้รับการยืนยันจากนายทาเล็บ รีฟาย เลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลก (ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ) ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์งานว่า พร้อมจะใช้เวทีดังกล่าวที่กรุงเทพฯ เป็นการสื่อสารให้ทั้งโลกรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อต่อต้านการกระทำรุนแรง