ครบทุกเรื่องบ้านและคอนโด ปล่อยฟรี ไม่มีนายหน้า


คุณณัฐพล อัศว์วิเศษศิวะกุล  CEO Z My Home เปิดเผยในรายการตอบโจทย์ SMEว่า ที่ผ่านมาตนเองเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์มา 10 กว่าปี ทำให้พบปัญหาสำคัญของคนไทยคือ การสอบถามราคาขาย/เช่า เป็นจำนวนและไม่มีข้อมูลพอที่จะสรุปและให้คำแนะนำได้เลย จึงได้ทำการศึกษาตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในเมืองไทย เนื่องจากพื้นที่ บริเวณ มีความเฉพาะเสมือนกับหุ้น โดยข้อมูล (Data) ของต่างประเทศมีข้อดีจำนวนมาก (Multiple listing System) เช่น ความแม่นยำ ความถูกต้อง เป็นต้น โดยประเทศที่พัฒนาแล้วจะใช้เวลาในการขายบ้าน/คอนโด 30-80 วัน เช่น อเมริกา 40-50 วัน , ออสเตรเลีย 30-40 วัน , อังกฤษ  70 วัน เป็นต้น แต่ประเทศไทยใช้ระยะเวลาขาย 1ปี และ 20%ที่ทำการสำรวจพบว่า 20% เกิน 2 ปี  นอกจากนี้ บทบาทนายหน้าของต่างประเทศต้องมีไลเซ่นต์ต้องรักษาผลประโยชน์ของเจ้าของบ้าน/คอนโด และทำสัญญาร่วมกัน แต่ตรงข้ามกับของประเทศไทย

Z my home (ซีมายโฮม) เป็นเว็บไซต์ที่ให้เจ้าของประกาศขาย/เช่าฟรี โดยจำกัดไว้ 4 ประเภทที่เป็นที่อยู่อาศัย คือ 1.บ้าน 2.คอนโด 3.ทาวน์เฮ้าส์ และ 4.ตึกแถว โดยผู้ขายนั้นต้องเป็นเจ้าของเท่านั้น เพื่อให้ได้ข้อมูลถูกต้อง ไม่ซ้ำกัน และข้อมูลไม่ล้าสมัย ส่วนกระบวนการใช้บริการนั้น เริ่มด้วย

1.ถ่ายรูปบ้าน โดยหากเจ้าของบ้าน/คอนโดไม่มีความสามารถสามารถเรียกใช้บริการผ่าน Z my home โดย 80% ถ้ารูปสวยจะถูกรับชมมาก

2.หลักฐานที่แสดงความเป็นเจ้าของบ้านด้วยเอกสารการครอบครองทรัพย์สินนั้น เช่น โฉนด สัญญาซื้อขาย เป็นต้น

3. คลิ๊กที่ประกาศฟรีได้เลย และทำตามขั้นตอนที่เหลือ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเท่านั้น หลังจากระบบจะทำการตรวจสอบความถูกต้องในความเป็นเจ้าของ ส่วนในกรณีการเช่านั้นก็ทำเหมือนเช่นเดียวกัน และระยะเวลาการเช่าต้องไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

ส่วนมิติของผู้ที่ต้องการซื้อ/เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น สามารถเข้า Z my home เพื่อค้นหาตามจุดที่ตนเองต้องการได้ เช่น เลือกโซนรถไฟฟ้า โซนที่มีโรงเรียนนานาชาติ โซนที่ติดกับห้างสรรพสินค้า เป็นต้น เมื่อเลือกบริเวณที่สนใจแล้ว ระบบจะให้ผู้ซื้อ/เช่าโทรหาเจ้าของได้โดยตรงเลย

นอกจากนี้ Z my home ยังมีบริการนายหน้าในการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในระบบ Z my home มีนายหน้าประมาณ 300-400 รายที่ลงทะเบียน และยังให้โอกาสนายหน้านำข้อมูลที่อยู่บนเว็บไซต์ด้วยการนำระบบ(Multiple listing System)ที่ถูกต้องแม่นยำของเจ้าของบ้านจริงๆ เพื่อให้กับผู้ซื้อที่ไม่มีเวลาในการซื้อ และในอนาคตอันใกล้จะมีการให้นายหน้านำอสังหาริมทรัพย์นำขึ้นมาขาย/เช่าได้ด้วยเช่นกัน ส่วนระบบหลังบ้านของ Z my home จะให้ผู้ปล่อยขาย/เช่าได้เห็นข้อมูลที่อัพเดตเสมอผ่านข้อความแชทในเฟซบุ๊ก ทั้งราคาอัพเดต หรือการขาย เป็นต้น

โดยบริเวณที่มีราคาสูงที่สุด ณ ขณะนี้ คือ ย่านราชดำริและเพลินจิต ด้วยราคา 3 แสนบาท/ตารางเมตรขึ้นไป และโครงการแสนสิริในพื้นที่นี้ 6 แสนบาท/ตารางเมตร , ย่านพร้อมพงษ์และทองหล่อด้วย 3 แสนบาท/ตารางเมตร,สาทรและสีลม เริ่มต้นที่1 แสน- 2 แสนกว่า/ตารางเมตร เป็นต้น ซึ่งการเช่าในบริเวณเหล่านี้จะมีแต่ชาวต่างชาติที่เดินทางมาทำงานในเมืองไทย เนื่องจากมีกำลังทรัพย์มากพอ ส่วนวิธีการหารายได้ของ Z my home คือ รายได้จากการโฆษณา โดยเก็บจากเจ้าของที่ต้องการให้คนเข้าชมจำนวนมากๆและเกิดการตัดสินใจซื้อที่ง่ายขึ้น โดยการเข้าชมครั้งหนึ่งจะคิดเป็น 1 เหรียญ

ทั้งนี้ คุณณัฐพล ได้แนะนำด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องเน้นเมืองเศรษฐกิจที่จีดีพีของจังหวัดมีการเติบโต เช่น นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ หัวเมืองการท่องเที่ยว เป็นต้น , ชุมชนอยู่อาศัยจำนวนมาก เช่น มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น