บทความจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ
เป็นระยะเวลา 3 ปี ติดต่อกันที่กัมพูชาสูญเสียการครองแชมป์ในการประกวดข้าวดีเด่นหรือ “the World’s Best Rice” โดยในปีนี้กัมพูชาได้อันดับสองรองจากประเทศไทย
นาย Hun Lak รองประธานสภาข้าวแห่งกัมพูชา กล่าวว่า ประเทศผู้นำการผลิตข้าวรายใหญ่กว่า 7 ประเทศได้เข้าร่วมการแข่งขันดังกล่าวที่มาเก๊า ประเทศจีน ซึ่งมีข้าวกว่า 21 สายพันธุ์ ที่เข้าร่วมประกวด
ข้าวของกัมพูชาพันธุ์ “ผกา ลำดวน” (Phka Rumdoul) ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ตัดสิน รวมถึงได้รับการยอมรับและได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางในระหว่างการแข่งขัน จึงมีผู้ซื้อจากประเทศจีนและเวียดนามสนใจซื้อข้าวกัมพูชาเป็นจำนวนมาก แต่สืบเนื่องจากประเทศไทยมีการนำเสนอข้าวที่แข็งแกร่ง โดยเชื่อมโยงพระมหากษัตริย์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เข้ากับประวัติศาสตร์ข้าว ซึ่งเป็นที่สนใจของผู้ชมในงานประกวด
ในการประกวด “World’s Best Rice” ใช้เกณฑ์การตัดสิน 5 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านกลิ่น รสชาติ ความเหนียวนุ่ม ความชื้น และ รูปร่างลักษณะของข้าว วิธีที่ใช้ตัดสินคือ ไม่ให้กรรมการทราบว่าข้าวแต่ละสายพันธุ์เป็นข้าวของประเทศใด แล้วลงคะแนนตัดสิน ซึ่งคะแนนมาจากพันธุ์ข้าวที่หุงแล้วและยังไม่หุงให้สุก
ข้าวพันธ์ “ผกา ลำดวน” ของกัมพูชาเคยคว้ารางวัลข้าวที่ดีที่สุดในโลกติดต่อกันมาเป็นเวลา 3 ปี ในระหว่างปี 2012 ถึง 2014 แต่พบว่าในปี 2015 ข้าวของกัมพูชาแพ้ข้าว “คาลิฟอเมีย โรส” (California Rose) ซึ่งเป็นข้าวจากสหรัฐฯ และแพ้ให้กับข้าวหอมมะลิไทยอีกครั้งในปีที่ผ่านมา
นาย Chray Son รองผู้อานวยการของ Capital Food Cambodia กล่าวว่า แม้กัมพูชาจะพ่ายแพ้ในปีนี้ แต่ตลาดข้าวในกัมพูชาก็ได้รับประโยชน์จากการมีส่วนร่วมในการแข่งขัน ซึ่งจากการที่กัมพูชาได้อันดับสองในการประกวดข้าวก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายแต่อย่างใด เพราะยังดีกว่าการไม่ได้รับรางวัลใดเลย อีกทั้งกัมพูชายังได้รับผลประโยชน์จากการถูกโปรโมทข้าว ซึ่งช่วยให้การส่งออกของกัมพูชาเติบโตขึ้น และจากประสบการณ์ในการแข่งขันครั้งนี้ทำให้กัมพูชาได้เรียนรู้การเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในครั้งต่อไป ทั้งการพัฒนาคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ข้าว การปรับปรุงชลประทาน การเพิ่มผลผลิตการเก็บเกี่ยว และเทคนิคการสีข้าว
นาย Hean Vanhan รองปลัดกระทรวงเกษตรป่าไม้และประมง กล่าวว่า การแข่งขันข้าวดีเด่นเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมคุณภาพข้าวของกัมพูชา แต่วิธีที่ดีสุดในการดึงดูดผู้ซื้อ และเพิ่มชื่อเสียงคือการมุ่งเน้นที่ความพยายามของภาคเอกชน เพราะถึงแม้ว่าข้าวของกัมพูชาจะถูกจัดอยู่ในอันดับสูงในการแข่งขันของทุกปี แต่การส่งออกข้าวยังเพิ่มขึ้นไม่มาก อีกทั้งข่าวลือที่กล่าวว่า ข้าวของกัมพูชามีคุณภาพต่ำ ส่งผลให้ชื่อเสียงข้าวกัมพูชาในต่างประเทศได้รับความเสียหาย
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ เห็นว่า จากการชนะการประกวดดังกล่าว ส่งผลให้ข้าวประเทศไทยมีชื่อสียงและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติและตลาดโลกมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลทำให้ยอดการส่งออกข้าวของไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยควรรักษามาตรฐานในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพราะข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาและเวียดนามถือเป็นข้าวที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับประเทศไทยและเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเช่นเดียวกัน
credit images | medium.com