สภาอุตฯหวั่นแรงงานขาด วอนภาครัฐออกนโยบายกระตุ้นมีลูก


หวั่นแรงงานขาด วอนภาครัฐออกนโยบายกระตุ้นคนไทยมีลูก

นายถาวร ชลัษเฐียร ประธานสถาบันเสริมสร้างขีดความสามารถมนุษย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการส่งเสริมให้แต่งงานและ มีลูก มากขึ้น โดยเฉพาะประชากรรุ่นใหม่กลุ่มรายได้ปานกลางขึ้นไป เนื่องจากสถานการณ์การกำเนิดประชากรในไทยขณะนี้น่าห่วง เป็นผลจากค่านิยมคนสมัยใหม่มีแนวโน้มไม่แต่งงานมากขึ้น ส่วนที่แต่งงานก็ช้า และอีกส่วนหนึ่งแม้แต่งงานแต่ไม่ต้องการมีลูก หรือมีแค่ 1 คน

หากปล่อยให้เป็นสถานการณ์นี้ไปนานๆ จะส่งผลต่อการขาดแคลนแรงงานที่มีคุณภาพในอนาคต ระยะ 10-20 ปี อาจต้องนำเข้าแรงงานที่มีศักยภาพจากประเทศต่างๆ อาทิ ฟิลิปปินส์ มีประชากรกว่า 100 ล้านคน เวียดนาม มีประชากรกว่า 93 ล้านคน

“ภาครัฐควรสนับสนุนให้ประชาชนกลุ่มรายได้ปานกลางขึ้นไป แต่งงานเร็วขึ้น และมีลูกมากกว่า 2 คนขึ้นไป เพราะกลุ่มนี้มีศักยภาพในการเลี้ยงดูบุตร ผลักดันการศึกษาได้ดี แม้ว่าระยะต่อไปคนเริ่มพูดกันว่า ระบบออโตเมชั่นหรือระบบหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่แรงงานคนมากขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ต้องการแรงงานคนเลย เพราะระบบนี้ยังต้องการแรงงานที่มีประสิทธิภาพเข้ามาควบคุมอยู่ ถ้าเราไม่ส่งเสริมให้มีประชากรมากขึ้น อนาคตต้องนำเข้าแรงงานที่มีศักยภาพเข้ามาแทน นอกจากนี้อยากให้ภาครัฐส่งเสริมเรื่องการศึกษาให้เข้มข้นขึ้น เพื่อรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ต้องเร่งพัฒนาศักยภาพแรงงานให้มีคุณภาพ”

ด้านนายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า ต้องการให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนใหม่ พิจารณายกเลิก 10 อาชีพสงวน เพื่อเปิดให้คนต่างด้าวเข้ามาทำได้ เพราะคนไทยไม่นิยมทำแล้ว อาทิ งานกรรมกร งานกสิกรรม งานก่ออิฐ งานเจียระไนหรือขัดเพชรหรือพลอย ฯลฯ เพื่อปลดล็อกให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำได้ ช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการที่ส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอี และป้องกันปัญหาการจ่ายใต้โต๊ะ เพื่อแลกกับการไม่ถูกปรับด้วย

“ขณะนี้ไทยมีแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมายอยู่ในระบบ 1.56 ล้านคน น้อยกว่าที่ก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าจะมีแรงงานต่างด้าวในไทย 3 ล้านคน ดังนั้นต้องตรวจสอบว่า แรงงานต่างด้าวที่หายเกือบ 50% ไปอยู่ที่ใด อาทิ ไม่มีลงทะเบียนหรือไม่ หรือกลับประเทศไปแล้วไม่กลับมาไทยอีก ทำให้ขณะนี้หลายอุตฯ ที่ใช้แรงงานจำนวนมาก มีปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างด้าว”