สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนพร้อมสนับสนุน SME แค่มีเงินลงทุนขั้นต่ำ 5 แสน ก็สามารถลงทุนในอีอีซีได้ เพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล และสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดการส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี ในส่วนของผู้ประกอบการ SME จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
โดยนายนฤตม์ ระบุว่า บีโอไอมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนเป็นพิเศษสำหรับ SME ที่มีบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 และมีสินทรัพย์ถาวรสุทธิหรือขนาดการลงทุนโดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนไม่เกิน 200 ล้านบาท โดยจะผ่อนปรนเงื่อนไขการลงทุนขั้นต่ำเหลือเพียง 5 แสนบาท จากปกติที่กำหนดไว้ 1 ล้านบาท เพื่อเปิดโอกาสให้กิจการ SME สามารถยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนได้ง่ายขึ้น และอนุญาตให้ใช้เครื่องจักรใช้แล้วในประเทศได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท (โครงการปกติจะไม่ได้รับอนุญาต) ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับคือการเพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากปกติร้อยละ 100 เป็นร้อยละ 200
หากมีการลงทุนเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีขั้นสูง การออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น ยังจะได้รับการผ่อนปรนเงื่อนไขสัดส่วนเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่ายในการพัฒนาดังกล่าวโดยลดลงจากเกณฑ์ปกติครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ SME ใช้ประโยชน์จากมาตรการนี้ได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ หาก SME ตั้งโครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และอยู่ในพื้นที่เขตส่งเสริมที่กำหนด ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามมาตรการ EEC อีกด้วย แต่ต้องเป็นการลงทุนในกิจการที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายด้วย
และในส่วนของสิทธิพิเศษด้านภาษีหรือการให้สินเชื่อที่ SME จะได้รับ นายนฤตม์อธิบายว่า แม้บีโอไอไม่ได้มีบริการด้านสินเชื่อ แต่นอกจากสิทธิประโยชน์พิเศษตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนของ SME แล้ว บีโอไอยังได้มีมาตรการสนับสนุนให้ SME ไทยพัฒนาศักยภาพและเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อก้าวสู่ระดับสากล โดยได้ออก “มาตรการส่งเสริมให้ SME จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (MAI)” โดยจะเพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากเดิมร้อยละ 100 เป็นร้อยละ 200 ของเงินลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน ให้กับทุกโครงการของบริษัทที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมก่อนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI โดยต้องยื่นขอรับการส่งเสริมลงทุนภายในสิ้นปี 2563