พังพินาศ! ชัตดาวน์สหรัฐฯ ทำเศรษฐกิจเสียหายกว่า 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ


แม้ว่าสหรัฐฯ จะยุติการชัตดาวน์ลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเริ่มกลับมาทำงาน เข้าสู่สภาวะปกติ แต่หลังเหตุการณ์นี้ได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ เลยทีเดียว

ตามรายงานของ S&P global พบว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการที่รัฐบาลสหรัฐชัตดาวน์ ปิดหน่วยงานที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชา ได้สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจเป็นมูลค่ากว่า 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นเงินที่โดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องจากสภาคองเกรส เพื่อขอสร้างกำแพงกั้นชายแดน

จากสถิติแสดงให้เห็นถึงมูลค่าที่เสียหายทั้งทางตรง และทางอ้อมของการชัตดาวน์ครั้งนี้เฉลี่ยอยู่ที่สัปดาห์ละ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งในส่วนของผลกระทบโดยตรง คือการสูญเสียผลผลิตแรงงานหลายแสนคนที่ไม่ได้รับค่าจ้างตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา

ด้าน ผู้เชี่ยวชาญ ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า การสูญเสียผลผลิตจากแรงงานของรัฐบาล ไม่สามารถกู้คืนความเสียหายให้กลับคืนสู่ปกติได้ โดยปัจจุบันแรงงานของรัฐบาลกลางจะได้รับการค่าชดเชยจากหน่วยงานเมื่อกลับมาทำงานตามปกติ แต่แรงงานอีก 4 ล้านคนในภาคเอกชน ซึ่งตำแหน่งงานขึ้นอยู่กับรัฐบาลกลางจะไม่ได้รับค่าชดเชยแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับนักเศรษฐศาสตร์ที่เคยออกมาเตือนก่อนหน้านี้ว่า การชัตดาวน์จะกระทบต่อการจ้างงานถึง 500,000 ตำแหน่ง ในเดือนมกราคม และทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 4

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนมกราคมมีอัตราต่ำสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากเหตุการณ์ชัตดาวน์ที่เกิดขึ้น

ที่มา: http://www.china.org.cn/business/2019-01/28/content_74416566.htm