กรมควบคุมโรคเตือนอย่า กิน-ดื่ม “โคลนพุ” อันตรายถึงตาย


นพ.กิตติ์พงศ์ สัญชาตวิรุฬห์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่า โรคติดต่อจากการสัมผัสดิน โคลนพุ น้ำ ที่ปนเปื้อนเชื้อโรค โดยเฉพาะโรคติดต่อสำคัญได้แก่ โรคเมลิออยโดสิส หรือ โรคไข้ดิน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในดินและน้ำ จากการสัมผัสเชื้อในดินหรือน้ำ การกินอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน และผ่านทางการหายใจ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีไข้สูง มีอาการคล้ายปอดอักเสบติดเชื้อ โรคเลปโตสไปโรซิส หรือ โรคฉี่หนู ที่สามารถติดต่อสู่คนจากการสัมผัสดิน โคลน น้ำ ที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยเชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังตามรอยแผล รอยขีดข่วน เยื่อบุตา จมูก ปาก หรือผิวหนังปกติที่แช่น้ำเป็นระยะเวลานาน รวมถึงการรับประทานสิ่งที่ปนเปื้อนเชื้อ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคไข้ฉี่หนูจะมีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อโดยเฉพาะน่อง อาจมีเลือดออกใต้เยื่อบุตาขาว เชื้อโรคอาจเข้าไปทำลายอวัยวะภายในเช่น ไต ทำให้ไตวายและเสียชีวิตได้

นพ.กิตติ์พงศ์ สัญชาตวิรุฬห์ กล่าวต่อไปว่า จากกรณีโคลนผุดกลางทุ่งนาแล้วชาวบ้านนำดินโคลนไปพอกตัว รักษาโรคปวดเมื่อย พอกหน้า รวมถึงดื่มกิน ตามความเชื่อว่าเป็นโคลนวิเศษสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้นั้น อาจทำให้ติดเชื้อโรคไข้ดิน โรคไข้ฉี่หนู ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่ทำให้เสียชีวิตได้ ไม่ควรนำมาดื่มกินหรือสัมผัสดินโคลน รับประทานอาหารที่สุก ร้อน สะอาด ดื่มน้ำต้มสุก สวมถุงมือยางและรองเท้าบูททุกครั้งเมื่อจำเป็นต้องสัมผัสดิน โคลน น้ำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ข้อมูลเพิ่มเติม : สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422