กรมปศุสัตว์เดินหน้าแก้ไขปัญหาไข่ไก่ล้นตลาด เตรียมปรับลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงเพิ่มเป็นครั้งที่ 3 อีก 3,000,000 ตัว ชี้ ไม่เกิน มิ.ย.62 อยู่ในภาวะสมดุล
นายสัตวแพทย์สมชวน มังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ดำเนินมาตรการปรับสมดุลปริมาณการผลิตไข่ไก่ให้สอดคล้องกับความต้องการบริโภคและส่งออก โดยการสำรวจข้อมูลทั้งปริมาณการผลิต โครงสร้างราคา รวมถึงปริมาณความต้องการบริโภคของตลาดในประเทศ การแปรรูปและการส่งออก
จัดทำมาตรการทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้น ได้แก่ ปรับลดแม่ไก่ไข่ยืนกรง กรณีราคาไข่ตกต่ำ ครั้งที่ 1 เดือนมกราคม – มิถุนายน 2561 ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรง 857,486 ตัว ครั้งที่ 2 เดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2561 ปลดอีก 1 ล้านตัว และล่าสุดกำลังขอความร่วมมือเจ้าของฟาร์มที่มีแม่ไก่ไข่ยืนกรงตั้งแต่ 200,000 ตัวขึ้นไปรวม 72 ฟาร์ม ปรับลดแม่ไก่ไข่ยืนกรงเพิ่มเติม จากปกติปลดไก่ที่อายุ 78 -80 สัปดาห์รวมกันเดือนละ 3 ล้านตัว โดยให้ปรับเพิ่มที่อายุต่ำกว่านี้อีกร้อยละ 10 ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์และจะปลดให้ครบในเดือนมีนาคม
ล่าสุดสิงคโปร์ได้เปิดตลาดนำเข้าไข่ไก่จากไทย หลังจากหน่วยงาน Agri-food & Veterinary Authority of Singapore (AVA) มาตรวจรับรองฟาร์มไก่ไข่ให้ส่งไปขายรวม 47.4 ล้านฟองต่อเดือน ขณะนี้มีฟาร์มที่ได้รับอนุญาตให้ส่งไข่ไก่ 5 ฟาร์ม แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการนำเข้า กรมปศุสัตว์จึงจะเร่งประสานเพื่อจับคู่ค้าระหว่างฟาร์มและผู้รับซื้อในสิงคโปร์ ทำให้ไข่ไก่ล้นเกินในไทยมีตลาดรองรับเพิ่มขึ้น
ส่วนมาตรการระยะยาว คือ ปรับลดแผนการนำเข้าปู่ย่าและพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ ปี 2562 ตามมติของ Egg Board โดยลดการนำเข้าปู่ย่าพันธุ์จาก 5,500 ตัว เหลือ 3,800 ตัว และพ่อแม่พันธุ์จาก 550,000 ตัว เหลือ 460,000 ตัว
นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มปรับตัวลง เนื่องจากเจ้าของฟาร์มขนาดใหญ่ส่วนหนึ่งเมื่อเห็นราคาไข่ไก่สูงขึ้นช่วงเดือนมกราคมไม่ปลดแม่ไก่ยืนกรงตามอายุ แต่ยืดระยะเวลาปลดออกไป ขณะเดียวกันมีไก่สาวเข้ามาเพิ่มในฟาร์ม ทำให้ขณะนี้ประมาณการณ์ว่ามีแม่ไก่ยืนกรงเพิ่มขึ้นเป็น 53 – 54 ล้านตัว ไข่ไก่จึงล้นตลาด เกิดภาวะขายตัดราคากัน
ซึ่งคาดว่าเป็นการปรับลดลงช่วงสั้น เนื่องจากขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการตามแผนปรับแม่ไก่ยืนกรงเพิ่มอีก 3 ล้านตัว ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์เขต และด่านกักกันสัตว์ รายงานผลการปลดแม่ไก่ของแต่ละฟาร์มและดูแลให้ปลดจนครบในเดือนมีนาคม สำหรับการลดปริมาณปู่ยาพันธุ์และพ่อแม่พันธุ์ส่งผลให้ปริมาณลูกไก่ลดลงตามลำดับ โดยจะเข้าสู่ภาวะสมดุลกับความต้องการบริโภคและการส่งออกในเดือนมิถุนายนอย่างแน่นอน