เข้าฤดูร้อน จ่อขึ้นภาษีน้ำหวาน


นายณัฐกร อุเทนสุต ผอ.สำนักแผนภาษี ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิต เผยว่า สาเหตุที่กรมจัดเก็บภาษีจากเครื่องดื่มได้มากขึ้น เพราะคนมีกำลังซื้อมากขึ้น ประกอบกับไทยเข้าสู่ฤดูร้อนทำให้น้ำอัดลมขายดี

โดยพบว่าในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบ 2562 คือในเดือนตุลาคม 2561 – กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีจากน้ำหวาน ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ในเครื่องดื่มประเภทน้ำสี-น้ำอัดลม เพิ่มขึ้นจากประมาณการ 300 ล้านบาท หรือ 2-3% คาดว่าในปีนี้หลังจากการปรับขึ้นภาษีน้ำหวานอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2562 จะมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีรวม 25,000 ล้านบาทต่อปี จากปีก่อนจัดเก็บภาษีได้ 22,000 ล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม แม้กรมจะขึ้นภาษีน้ำหวานอีกครั้งในเดือน ต.ค.นี้ แต่ผู้ประกอบการยังไม่ค่อยปรับลดปริมาณความหวานลง เพื่อให้สอดคล้องกับภาษีใหม่ โดยพบว่า น้ำอัดลมค่าความหวานเฉลี่ยยังอยู่ที่ 12 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร (มล.) จาก 14 กรัมต่อ 100 มล. แต่น้ำอัดลมสีดำ อย่าง โค้ก และเป๊ปซี่ ยังไม่ได้ปรับสูตร เพราะเป็นสูตรมาตรฐานทั่วโลก จึงต้องคงรสชาติและปริมาณความหวานให้คล้ายคลึงกัน การปรับความหวานลงเฉพาะไทยจึงทำได้ยาก แต่ได้ออกผลิตภัณฑ์ประเภทซีโร่ คือ ไม่มีน้ำตาลผสม แต่ไม่ได้รับความนิยม จึงทำให้เครื่องดื่มกลุ่มนี้ยังมีค่าความหวานในระดับเดิม และต้องเสียภาษีสูงกว่าน้ำสี