ด่วน ! ออกหมายเรียก “ธนาธร” ผิดปลุกปั่นกระด้างกระเดื่อง


ตำรวจออกหมายเรียกธนาธรข้อหา 116 กระด้างกระเดื่องปลุกปั่นยุยงระดับก่อความไม่สงบในแผ่นดิน เจ้าตัวชี้เป็นเพราะอำนาจมืด ย้ำจะเอาเวลาไหนไปปลุกปั่นเพราะลงพื้นที่หาเสียงตลอด ลั่นไปพบตำรวจแน่

ตำรวจสน.ปทุมวัน ออกหมายเรียกนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในข้อหา ร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือด้วยวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดจะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

โดยหมายเรียกยังระบุให้นายธนาธร เข้าพบพนักงานสอบสวนภายในวันที่ 6 เมษายน 2562 เวลา 10.00 น. โดยคดีดังกล่าวปรากฎชื่อว่ามี พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายธนาธร

ทั้งนี้ นายธนาธร ได้เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงหมายเรียกในข้อหาดังกล่าว และยังโพสต์หมายเรียกของเจ้าตัวด้วย โดยข้อความระบุว่า

“เมื่ออำนาจมืดไม่ยอมปล่อยอนาคตใหม่
ผมเพิ่งกลับจากการเดินสายขอบคุณประชาชน 2 วัน 5 จังหวัด เริ่มจากจันทบุรี ตราด ระยอง ต่อด้วยฉะเชิงเทราและสมุทรปราการ ขึ้นรถแห่มาราธอนทั้งวัน แดดร้อนของเดือนเมษายนไม่ได้ทำให้ทีมอนาคตใหม่ย่อท้อ เพราะรอยยิ้มและการโบกมือต้อนรับจากประชาชนเนืองแน่นทุกพื้นที่ สมกับที่ทั้ง 5 จังหวัดเป็นเขตที่อนาคตใหม่ทำคะแนนได้ดีเยี่ยม และได้ ส.ส. เขตรวมกันถึง 7 คน ใน 5 จังหวัด

แต่กลับมาถึงบ้านยังไม่ทันจะได้พัก กลับเจอเรื่องร้อนที่ไม่น่าจะเป็นเรื่อง มีหมายเรียกมารอผมที่บ้าน กล่าวหาว่าผมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และให้ผมไปรายงานตัวที่ สน. ปทุมวัน วันที่ 6 เมษายนนี้ เวลา 10 โมงเช้า ซึ่งผมก็ยังสงสัยอยู่ว่า ผมไปก่อความกระด้างกระเดื่องหรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศตอนไหน ในเมื่อตลอดปีที่ผ่านมา เวลาเกือบทั้งหมดในแต่ละวันของผม ทุ่มไปกับการพบปะประชาชนใน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย แทบจะไม่ได้เจอหน้าลูกๆด้วยซ้ำ

เป็นที่แน่ชัดว่าเกมการเมืองเก่าไม่ใช่แค่ไม่ยอมยุติลงหลังเลือกตั้ง แต่กลับยิ่งเข้มข้นขึ้น เพราะพวกเขากำลังกลัวอนาคตใหม่ กลัวชัยชนะที่เกินความคาดหมายของหลายๆ คน กลัวความจริงที่ว่าการเมืองที่ชูนโยบาย อุดมการณ์ สร้างความเชื่อมั่นศรัทธาได้ สร้างแรงสนับสนุนจากประชาชนได้โดยไม่ต้องใช้เงินหรืออิทธิพล กลัวความจริงที่ว่ามีคนเกือบ 6 ล้าน 3 แสนคนที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ด้วยใจบริสุทธิ์

ผมจะไปตามหมายเรียกครั้งนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพื่อพิสูจน์ว่ากระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยจะไม่ศิโรราบยอมตนเป็นเครื่องมือเผด็จการ ผมไม่มีกฎหมาย ไม่มีอำนาจรัฐในมือ ไม่มีมาตรา 44 ไม่มีปืนหรือคุกตารางไว้จัดการคนที่อยู่ตรงข้าม แต่ผมเชื่อมั่นว่ามีประชาชนหลายล้านคนที่รักความเป็นธรรม ยืนเคียงข้างผม และพร้อมจะแสดงออกว่าพวกเขาไม่ยอมทนกับอำนาจมืดที่จ้องทำลายอนาคตใหม่ แล้วพบกัน”