หลังจากนี้คนกรุงเทพฯ เตรียมเฮ เจอฝนตกถล่มหรือตกหนัก 1-2 ชั่วโมง ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หายกังวลเรื่องน้ำท่วมแบบที่เคยเจอ กับไอเดีย แก้มลิงใต้ดิน BKK นวัตกรรมอ่างเก็บน้ำยักษ์ใต้ดิน แก้ปัญหาน้ำรอระบาย ต้นทุนต่ำสามารถทำได้ทันที
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร และอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดตัวโมเดล“แก้มลิงใต้ดิน BKK” นวัตกรรมแก้ไขปัญหาฝนตกน้ำท่วมสำหรับชาวกรุงเทพฯ ในรูปแบบแทงค์เก็บน้ำใต้ดิน เพื่อลำเลียงน้ำฝนบนพื้นถนน ไปกักเก็บไว้ใต้ดินเพื่อรอระบายไปยังแหล่งน้ำ โดยมีแนวคิดการพัฒนานำร่องในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก อาทิ ลาดพร้าว บางซื่อ รามคำแหง ปทุมวัน เพลินจิต สุขุมวิท โดยเสนอใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์ในการติดตามการทำงานของเครื่องสูบน้ำในจุดต่างๆ ซึ่งสามารถทำได้ทันที มีต้นทุนต่ำ เพื่อให้การระบายน้ำไม่สะดุด และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนกรุงเทพมหานครได้อย่างยั่งยืน พร้อมย้ำ ปัญหานี้ไม่ใช้หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เป็นงานที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่ต้องบูรณาการการทำงานอย่างเป็นระบบ
ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า ปัจจุบันโครงสร้างของกรุงเทพมหานคร มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ระดับถนนต่ำกว่าแหล่งน้ำ ประกอบกับท่อระบายน้ำอยู่สูงกว่าถนน โดยเฉพาะบริเวณซอยที่เป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่น เมื่อถึงช่วงฤดูฝนหรือช่วงที่มีฝนตกชุก จึงทำให้เกิดปัญหาระบายน้ำไม่ทัน และท่วมขังจนกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ถึงแม้ว่ากรุงเทพมหานครจะมี ‘อุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำ’ เพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาน้ำท่วมแล้วก็ตาม แต่ด้วยขีดความสามารถในการระบายน้ำที่จำกัด เช่น ปัญหาเครื่องสูบน้ำขัดข้องไม่พร้อมทำงาน และปัญหาขยะอุดตัน ทำให้ไม่สามารถลำเลียงน้ำไปยังอุโมงค์ระบายน้ำได้ จึงเป็นที่มาของแนวคิดของเทคโนโลยีที่จะนำมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว ก็คือการสร้าง แก้มลิงใต้ดินตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9
โดยแก้มลิงใต้ดิน BKK เป็นนวัตกรรมอ่างเก็บน้ำใต้ดิน ซึ่งใช้วิธีเปิดหน้าดินเป็นแทงค์เก็บกักน้ำ โดยใช้เครื่องมือเจาะคว้านดินด้านในสร้างเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ใต้ดินขึ้น โดยที่ไม่กระทบการใช้ประโยชน์จากผิวหน้าดิน ที่มีจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถทำได้ทันที เช่น บริเวณสวนสาธารณะสวนจตุจักร บึงในพื้นทีโรงงานยาสูบ ซึ่งสามารถใช้เป็นพื้นที่ในการกักเก็บน้ำในช่วงเวลาที่มีฝนตกชุกได้ โดยเฉพาะจุดเสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก ได้แก่ ลาดพร้าว บางซื่อ รามคำแหง ปทุมวัน เพลินจิต สุขุมวิท ซึ่งหัวใจสำคัญของการบริหารจัดการน้ำในช่วงเวลาที่มีฝนตกชุก ที่สามารถเชื่อมโยงการใช้ประโยชน์จากแก้มลิงใต้ดิน BKK คือ การใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก เพื่อระบายน้ำออกไปยังอุโมงค์ใต้ดินที่อยู่ใกล้เคียง ก่อนระบายออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงเวลาที่น้ำทะเลไม่สูง ที่ใช้หลักการระบายน้ำตามกฎของแรงโน้มถ่วง เพิ่มประสิทธิภาพของการระบายน้ำพร้อมเสนอใช้เทคโนโลยีเซนเซอร์ในการติดตามการทำงานของเครื่องสูบน้ำในจุดต่างๆ ซึ่งสามารถทำได้ทันที มีต้นทุนต่ำ เพื่อให้การระบายน้ำไม่สะดุด และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนกรุงเทพมหานครได้อย่างยั่งยืน
“ปัญหาของคนกรุงเทพฯ คือ มักจะคิดว่าฝนตกแล้วน้ำจะท่วม แล้วจะทำให้รถติดชั่วกัลปาวสาน เราห้ามคิดอย่างนั้นเลย เพราะนี่คือสิ่งที่ทำให้เราไม่สามารถหลุดจากวงจรแบบนี้ เพราะคนที่เป็นแบบเราเขาก็สามารถแก้ไขกันได้ เช่น กรุงโตเกียว มีประชากรมากกว่าเรา (เทียบแค่กรุงเทพฯ) เจอทั้งฝนและพายุมากกว่าเรา ทำไมยังแก้ไขได้ เพราะฉะนั้นจงเริ่มที่ตัวกล่าวศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

“อย่าเชื่อว่าเราแก้ไม่ได้ เพราะคนที่หนักกว่าเราแก้ไขมันได้มาแล้วทั้งนั้น”
ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร และอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)