ค่ายรถยนต์ GM – Ford ปรับโครงสร้างลดพนักงาน ปิดโรงงานเพื่อลดต้นทุนธุรกิจ


สถานการณ์ความเคลื่อนไหวของค่ายรถยนต์ในปี 2019 ดูจะไม่ค่อยดีนัก เห็นได้จากค่ายรถยนต์ทั้ง General Motor, Ford Motor ตลอดจนแบรนด์อื่น ๆ ต่างพร้อมใจกันลดพนักงานลงกว่า 1,000 ตำแหน่ง และปิดโรงงานลงจากผลกระทบของยอดขายที่ชะลอตัวจากสภาวะเศรษฐกิจ

ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่ายอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯ จะลดลงไปเหมือนกับปี 2009 ที่ขายได้ 11 ล้านคันหรือไม่ แต่มีการวิเคราะห์กันว่าในปี 2020 ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯ จะลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เช่นเดียวกับยอดขายรถยนต์ทั่วโลกก็มีการมองว่าจะลดลงเหมือนกัน

ดังนั้น ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์หลายรายจึงต้องมีการปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ โดยในปีนี้ทั้ง GM และ Ford ได้มีการลดจำนวนพนักงานกว่า 1,000 ตำแหน่ง รวมถึงประกาศแผนที่จะปิดโรงงาน 12 แห่งทั่วโลก ซึ่งมีโรงงาน 4 แห่งอยู่ในสหรัฐฯ

Mary Barra ซีอีโอของ GM กล่าวว่า เรากำลังดำเนินการเชิงรุกเพื่อปรับปรุงผลการดำเนินงานในธุรกิจหลักให้เกิดประโยชน์ต่อไปในอนาคต รวมถึงป้องกันการชะลอตัว และสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น

การประกาศในครั้งนี้ของซีอีโอ GM นำมาสู่การลดจำนวนพนักงาน 14,000 คน และปิดโรงงาน 7 แห่งทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุนได้ถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ด้าน Jim Hacket ซีอีโอของ Ford เคยพูดในเดือนพฤษภาคมว่า บริษัทยังคงเดินหน้ารัดเข็มขัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจมีความสำคัญ และมีชีวิตชีวา

ตั้งแต่ปี 2017 ที่ Jim Hacket เข้ามารับตำแหน่งก็ได้ดำเนินการประหยัดค่าใช้จ่ายของธุรกิจที่มีทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างที่มีมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนปี 2020 อีกทั้งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Ford ประกาศลดพนักงานที่ทำงานรายชั่วโมงในยุโรปลง 12,000 ตำแหน่ง ภายในปี 2020 รวมถึงประกาศแผนที่จะลดพนักงานอีก 7,000 ตำแหน่งทั่วโลก แบ่งเป็น 2,300 ตำแหน่งในสหรัฐฯ

ไม่เพียงเท่านั้น Ford ยังมีแผนที่จะปิดโรงงานในรัฐมิชิแกน สหรัฐฯ และโรงงานอีก 6 แห่งในยุโรป เพื่อรักษาสมดุลทางธุรกิจให้ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ดี

ที่มา: cnbc

เรื่องที่เกี่ยวข้อง