ทบทวนภาษีเครื่องใช้ไฟฟ้า กระตุ้นผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม


กระทรวงการคลัง สั่งสรรพสามิตเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บภาษี ตามเป้า 6.4 แสนล้านบาท ศึกษาเพิ่มภาษีความเค็ม-เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 หวังกระตุ้นผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

วันที่ 13 พ.ย.63) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายกรมสรรพสามิต ว่า ตนได้ให้นโยบายกรมสรรพสามิตไปดำเนินการ 3 เรื่อง คือ

1.เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีในปี 2564 ให้จัดเก็บให้ได้ใกล้เคียงหรือเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 6.4 แสนล้านบาทมากที่สุด โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ซึ่งปัจจุบันการจัดเก็บภาษีของกรมเป็นการจัดเก็บจากแหล่งผลิต มีการส่งข้อมูลเข้ามาที่กรม ทำให้ไม่มีการรั่วไหล แม่นยำมากขึ้น จากข้อมูลเดือน ต.ค. สามารถจัดเก็บภาษีได้ตามเป้าหมาย โดยหากเศรษฐกิจฟื้นตัว ไตรมาส 1-2/2564 ดีขึ้น มีการใช้จ่ายในประเทศ การจัดเก็บอาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไม่มากนัก

2.วางแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีเพื่อสร้างการจัดเก็บรายได้ที่ยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ภาคอุตสาหกรรม เช่น แต่ไปศึกาษเพิ่มเติมว่าจะสามารถต่อยอดจากส่วนที่มีอยู่ได้อย่างไรบ้าง เพราะปัจจุบันมีทั้งรถยนต์ไฟฟ้า 100 % และรถที่ใช้พลังงานผสมแบตเตอรี่ (ไฮบริด) เพื่อเป็นการจูงใจให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า

ขณะเดียวกัน ให้ทบทวนการจัดเก็บภาษีเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีพิกัดภาษีแต่ไม่ได้จัดเก็บ โดยจากมาตรฐานเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ในปัจจุบันอาจไม่เพียงพอ โดยควรพิจารณาขยับให้เป็น เบอร์ 5 พลัส หรือ เบอร์ 5 ระดับ 1 ดาว 2 ดาว และ 3 ดาว ถึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

ทั้งนี้หากยังไม่มีการปรับเปลี่ยนจากเบอร์ 5 แบบปกติ ผู้ประกอบการจำเป็นที่จะต้องเสียภาษี เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน และลดการใช้พลังงานมากขึ้น โดยเชื่อว่าจะไม่กระทบกับผู้ซื้อ เนื่องจากเทคโนโลยีประหยัดไฟฟ้าดีขึ้น ค่าใช้ไฟฟ้าก็จะถูกลง

สำหรับเรื่องดังกล่าวยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เนื่องจากต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม ทั้งเรื่องจองผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและภาพรวมเศรษฐกิจ โดยหากมีการเก็บภาษีจริง จะต้องให้เวลาปรับตัวกับผู้ประกอบการด้วย

3.ใช้ภาษีสรรพสามิตสนับสนุนสุขภาพ ให้เพิ่มเติมเรื่องการจัดเก็บภาษีความเค็มที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ โดยศึกษาร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติม

ด้าน นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การเก็บภาษีเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 จะต้องไปศึกษา โดยต้องไม่กระทบกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจด้วย ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าติดสลากเบอร์ 5 เป็นส่วนมาก และใช้สลากเบอร์ 5 มานานนับ 10 ปี ปัจจุบันมีเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาว ที่กรมต้องการใช้เป็นมาตรฐานอยู่เพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น