Made in Thailand (MiT) คือ การรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับและโดดเด่นในด้านคุณภาพการผลิต โดยสินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน MiT จะมีโอกาสสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทยมากกว่าสินค้าอื่นๆ ได้อย่างไรบ้าง มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน
แต้มต่อที่ 1 โอกาสทางการค้ากับภาครัฐ
ภาครัฐต้องจัดซื้อสินค้าที่ขึ้นทะเบียน MiT กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จำนวนร้อยละ 60 ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการและสินค้าที่ขึ้นทะเบียนที่จะได้รับโอกาสในการค้ากับภาครัฐ นับเป็นการสร้างโอกาสทางรายได้และการเติบโตของยอดขาย
แต้มต่อที่ 2 โอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ผู้ประกอบการสามารถนำเสนอราคาสูงกว่าคู่แข่งขันที่เป็นผู้ประกอบการต่างชาติ ได้ถึงร้อยละ 3 ของราคาต่ำสุดที่ผู้ประกอบการต่างชาติได้นำเสนอ นั่นหมายถึง โอกาสในการได้ผลตอบแทนสูงกว่าคู่แข่งขันจากต่างประเทศ
แต้มต่อที่ 3 โอกาสสำหรับผู้ผลิตเหล็ก
การก่อสร้างในประเทศถูกกำหนดให้ใช้เหล็กที่ผลิตในประเทศก่อน โดยคิดเป็นร้อยละ 90 ของมูลค่าหรือปริมาณเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างทั้งหมด
แต้มต่อที่ 4 โอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้แบรนด์
โอกาสในการสร้างแบรนด์สินค้าที่ผลิตจากประเทศไทยไปยังตลาดต่างประเทศที่มีความเชื่อมั่นและต้องการสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทย รวมไปถึงโอกาสอื่น ๆ ที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนพร้อมให้การสนับสนุนสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย
โดยในอนาคตจะเกิดความร่วมมือและการส่งเสริมจำนวนมาก เพื่อทำให้ผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรอง MiT ได้รับการยอมรับเป็นวงกว้าง เช่น การสร้างการรับรู้กับกลุ่มผู้บริโภค กิจกรรมสนับสนุนทางการตลาด การยกระดับสินค้าให้มีคุณภาพและมาตรฐานสากล และนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐที่มีนโยบายต้องจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการที่ผ่านการรับรอง MiT ร้อยละ 60 ของการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งธุรกิจที่มีโอกาสและอยู่ในขอบเขตการจัดซื้อจัดจ้างจากภาครัฐ ได้แก่
• วัสดุครุภัณฑ์สำนักงาน
• ครุภัณฑ์การศึกษา
• จอมอนิเตอร์
• เฟอร์นิเจอร์
• ชุดยูนิฟอร์ม
• อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
• เครื่องปรับอากาศ
• อุปกรณ์ไฟฟ้าและพลังงาน
• ผลิตภัณฑ์ยาง
• วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในงานก่อสร้าง อาทิ เหล็ก, ปูนซีเมนต์, แกรนิต
การสนับสนุนผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน MiT ให้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดซื้อจัดจ้างในห่วงโซ่อุปทานของการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ตลอดจนการขยายโอกาสทางการค้าไปยังต่างประเทศ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการก้าวไปสู่การเติบโตของผู้ประกอบการไทย
ขั้นตอนการขอรับรองมาตรฐาน MiT สามารถลงทะเบียนได้บนระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ ผ่านทาง www.mit.fti.or.th ได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 ลงทะเบียน
เข้าเว็บไซต์ เลือกเมนู “เข้าสู่ระบบ” ตามด้วยเลือก “ลงทะเบียน” เพื่อลงทะเบียนผู้ใช้งาน
ขั้นตอนที่ 2 กรอกรายละเอียด
กรอกรายละเอียดข้อมูลและอัปโหลดไฟล์เอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนที่ 3 ยืนยันการลงทะเบียน
ภายหลังจากลงทะเบียนเสร็จสิ้น ระบบจะส่งจะนำส่งอีเมลเพื่อยืนยันตัวตนและสร้างรหัสผ่านใหม่ หลังจากนั้นการลงทะเบียนจึงสมบูรณ์
หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ท่านสามารถกรอกรายละเอียดข้อมูลสินค้า เพื่อขอขึ้นทะเบียนการรับรอง MiT ได้ทันที ทางเจ้าหน้าที่จะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อทำการอนุมัติ และเมื่อได้รับอนุมัติเรียบร้อย สินค้าของท่านจะถูกแสดงในฐานข้อมูลผลิตภัณฑ์ MiT
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ขอเชิญชวนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชนเข้ารับการรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการในการเข้ามาเป็นคู่ค้ากับทางภาครัฐ
ผู้สนใจสามารถกรอกรายละเอียดเบื้องต้นได้ทาง https://forms.gle/eE8EBXhGpdWj4X9d8
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-202-4526 / 02-202-4524 E-mail : [email protected]
และติดตาม Facebook Fanpage กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่ออัพเดตข้อมูล ความรู้ ข่าวสาร และโครงการดี ๆ สำหรับ SMEs ได้ใน https://www.facebook.com/dipromindustry หรือสอบถาม เพิ่มเติมได้ที่ LINE: @diprom (มี @ ด้วยนะคะ)