ถ้าจะพูดถึงการลงทุน หรือการนำเงิน ไปต่อยอดเงินนั้น การลงทุนในตลาดหุ้น เป็นการลงทุนที่คุ้นชินที่สุด สำหรับชาวไทย เพราะตลาดหุ้น เมืองไทยมีมานาน สมัยก่อน ตลาดหุ้น คนไทยถือว่าเป็นเรื่องของคนรวย ดั่งคำที่ว่า คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น เมื่อผ่านยุคสมัยที่ดิจิทัล มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก บวกกับเศรษฐกิจบ้านเราก็ซบเซา ทำให้ไม่เพียงเฉพาะคนจนเท่านั้นที่เล่นหวย แต่คนรวยมีฐานะ ก็มาหวังผลกำไรกับตรงนี้ด้วยเช่นกัน
และด้วยความที่สมัยนี้อินเตอร์เน็ต เข้าถึงได้ง่ายทุกหย่อมหญ้า Crypto Currency หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า เหรียญคริปโต เริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อหลายปีก่อน ความหวือหวาในค่าเงินที่ดิ่งสุด ขึ้นสุด ทำให้คนสนใจกันมากขึ้น ความเข้าใจในเทคโนโลยีแห่งอนาคต เริ่มทำให้ผู้คนทั่วโลก หันมาจับตาสกุลเงินใหม่ ที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีอย่างแท้จริง เรียกว่า เพชรนิลจินดา น้ำมัน และแร่ธาตุ หาได้ตามผืนแผ่นดิน และสภาพภูมิประเทศ แล้วแต่ว่า ประเทศไหนโชคดี ที่มีทรัพยากรในดิน มากกว่ากัน
แต่ Crypto Currency นั้นก้าวข้ามไปอีกขั้น ด้วยถือกำเนิดมาจาก มันสมองของมนุษย์ ที่คิดค้นขึ้นมาจากสมการคณิตศาสตร์ชั้นสูง บวกกับเทคโนโลยีที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้คิดค้นเริ่มต้น ได้เห็นช่องทางที่จะสร้าง คริปโต ขึ้นมาใช้ และคาดว่าจะใช้กันแพร่หลาย และเป็นสิ่งจำเป็น ในโลกไร้พรหมแดน ที่เป็นสังคมไร้เงินสด ในอนาคต
.
.
เมื่อเวลาผ่านไป บิทคอยน์เป็นที่ยอมรับมากขึ้น คนเริ่มใช้บิทคอยน์ในแวดวงเทคโนโลยี เพราะมีความน่าเชื่อถือกว่ากระแสเงินสด เนื่องจากไม่มีความผิดพลาดจากระบบในการคำนวน และยังสามารถมองเห็นธุรกรรมได้ทุกอย่างตั้งแต่ต้นสายไปยังปลายสาย ว่าเงินเหล่านี้ถูกส่งผ่านจากบัญชีใครไปบัญชีใคร (โดยไม่ได้แสดงชื่อ แต่แสดงที่มาจากการกำหนดรหัสผุ้ใช้) ทำให้ธุรกรรมที่เกิดจาก บิทคอยน์ ไม่มีความเสี่ยง และมีความน่าเชื่อถือมาก ผู้คนที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ จึงมองเห็นศักยภาพที่จะเป็นผู้ถือครองในสกุลเงินที่ตัวเองสามารถสร้างขึ้นมาได้บ้าง จึงมี คริปโต มากมายในท้องตลาด คล้ายกับเงินสดในโลก จากประเทศต่างๆ และมีราคาซื้อขายกัน ตามแต่ความต้องการในตลาดขณะนั้น ราคาต่อ 1 เหรียญ จึงมีความแตกต่างกันไปคล้ายสกุลเงินแต่ละประเภท Crypto Currency จึงถูกเรียกในฐานะ กลุ่มสกุลเงินดิจิทัล โดยมีค่าเงินแปรผันสูง เนื่องจากถูกกำหนดจากความพึงพอใจและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
ถ้าเปรียบกับ ตลาดหุ้น เราต้องเอาเงินสดเราไปซื้อ ไปลงทุนในธุรกิจนั้นๆจริง ซึ่งนั่นหมายถึงตลาดหุ้นมันคือสิ่งที่จับต้องได้ แปรผันตามเศรษฐกิจ หากแต่ คริปโต เป็นสิ่งที่อยู่ในเทคโนโลยีที่เรามองไม่เห็นแต่รู้ว่ามีอยู่ (ยกเว้นคุณมีความรู้ด้านเทคโนโลยี คุณก็จะมองเห็นมัน) ดังนั้น ค่าเงินของ คริปโต แปรผันจากความต้องการอย่างแท้จริง ใครที่เป็นคนสร้างสกุลเงิน คริปโต นั้น และสามารถทำให้สกุลเงินนั้น ได้รับความนิยม จนเกิดการนำ คริปโต สกุลเงินนั้นไปใช้ได้อย่างแพร่หลาย สกุลเงินนั้นก็จะมีราคามาก ดังเช่น บิทคอยน์ ที่เคยมีราคาสูงถึง 1 เหรียญ ต่อ 650,000 บาท เลยทีเดียว แต่ความแปรผันผวนของสกุลเงินมีมาก ชนิดทีว่า คืนเดียว สามารถร่วงลงมาที่ 2 แสนกว่าบาทได้เช่นกัน
ดังนั้นการเก็งกำไรในสกุลเงินคริปโต จะต้อง ใจถึงพึ่งได้ อย่างแท้จริง หากคุณใช้เงินเย็นที่หากเสียไปก็ไม่ได้นึกเสียดาย มาลงทุนเงินพวกนี้ คุณซื้อขายระยะสั้น อาจทำกำไรได้สูงมาก หรือขาดทุนมากได้เช่นกัน แต่ถ้าคุณถือระยะยาว ความเสี่ยงเดียวที่จะแบกรับก็คือการเลิกใช้สกุลเงินนั้น เพราะยิ่งคุณถือยาว ค่าเงินไม่มีตก มีแต่จะแพงขึ้น แต่ถ้าวันใด สกุลนั้นถูกยกเลิก คุณจะไม่ได้อะไรเลย
.
.
หาแนวทางของตนเองว่าถนัดการลงทุนแบบไหน
– สายเทรด ซื้อ-ขายเหรียญคริปโต ด้วยการเปิดพอร์ต และเริ่มต้นซื้อ-ขายกับเว็บค้าเหรียญคริปโตฯ โดยในปัจจุบันนับได้ว่าไทยเรามีทางเลือกที่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ดังจะเห็นได้จากจำนวนบริษัทที่เข้ามาสนับสนุนผู้ต้องการลงทุนเหรียญสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งในไทยมีอยู่ 4 เว็บหลักที่นิยมกัน ประกอบด้วย Bitkub เว็บนี้คนไทยนิยมใช้กันเยอะมาก เพราะที่ผ่านมาเขามีการโปรโมทกันหนักหน่วงและเข้าถึงคนส่วนมากได้ในเวลาอันรวดเร็ว Satang เว็บนี้เป็นเว็บเจ้าแรกๆ ของเมืองไทยที่ให้บริการด้านเงินดิจิทัล ปัจจุบันมีสกุลเงินดิจิทัลในเครือกว่า 108 สกุลด้วยกัน Zipmex เว็บไซต์นี้เป็นเจ้าใหม่ของคนไทยที่ถ้าเป็นเว็บไซต์ของเมืองนอกที่ดังๆ ก็มี Binance เจ้านี้ถือว่าดังที่สุดแล้ว มีคนนิยมเข้าไปซื้อ-ขายกันเยอะมาก มีบริการอยู่เยอะมากเช่นกัน และมีบริการเป็นภาษาไทยด้วย และสุดท้าย bitazza กระดานเทรดบิทคอยน์น้องใหม่ ที่ใช้งานง่าย มีอนาคต และที่สำคัญมีเหรียญเป็นของตนเอง มีระบบ Token เป็นของตนเองนั้นมีผลต่อการเติบโตของกระดานเทรดอย่างมาก เพราะช่วยให้เจ้าของแพลตฟอร์มนั้น มีกิจกรรมให้ผู้ใช้งานเล่นมากขึ้น
การซื้อขายเหรียญคริปโตกันโดยวิธีนี้ มักจะเป็นสิ่งแรกสุดที่นักลงทุนหน้าใหม่จะเข้ามาเรียนรู้เป็นช่องทางแรกๆ เพราะเหล่าเทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องซื้อขายหรือถือครองเหรียญคริปโต และที่สำคัญคือคุณสามารถเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลงคุณก็สามารถทำกำไรได้ทั้งคู่ หากคุณเข้าใจหลักการซื้อขายตราสารอนุพันธ์คุณจะเข้าใจดีถึงวิธีการเทรดในลักษณะนี้นั่นเอง
การเทรดในลักษณะนี้ยังมีข้อดีอีกอย่างนั่นก็คือเราไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมากเพราะไม่ใช่การเข้าซื้อขายตัวเหรียญคริปโตโดยตรง วิธีการนี้จึงเหมาะเป็นอย่างมากกับนักลงทุนในรูปแบบของการเก็งกำไรในระยะสั้น เพราะสามารถเทรดได้รวดเร็วและใช้เงินลงทุนน้อยนั่นเอง
.
.
– สายฟาร์ม หรือเรียกว่า DEFI (Decentralized Finance) ซึ่งเป็นแนวคิดทางการเงินแบบใหม่ที่อาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชนมาทำหน้าที่บันทึกและดำเนินธุรกรรมแทนตัวกลางอย่างสถาบันการเงิน ธนาคาร หรือศูนย์รับแลกเปลี่ยนต่างๆ สามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเหรียญคริปโต
การที่จะเทรดได้เราต้องมี Wallet ก่อน โดยผ่าน Metamask กระเป๋าเงินคริปโตฯส่วนตัว โดยสามารถดูวิธีการใช้งานจากวิดีโอได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ ซึ่งในปัจจุบันมีการสาธิตการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย สิ่งสำคัญสำหรับสายนี้คือควรศึกษาให้ละเอียดรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุนในสกุลเงินนั้นๆ
โดยก่อนที่คุณจะทำการซื้อขายได้คุณจำเป็นต้องมีบัญชีซื้อขายเหรียญคริปโต และ wallet เสียก่อน เพื่อเข้าไปทำการซื้อขายได้โดยตรง เหรียญคริปโตที่คุณซื้อเข้ามาจะถูกเก็บไว้ใน wallet ข้อดีของวิธีการนี้คือคุณจะได้เป็นเจ้าของคริปโตจริงแบบ 100% และคุณสามารถทำการซื้อขายเหรียญในครอบครองเมื่อไหร่ก็ได้ตามความต้องการของตนเอง ซ้ำยังเป็นวิธีการครอบครองคริปโตที่รวดเร็วกว่าการรอขุดมากทีเดียว แต่กระนั้นก็ใช่ว่าวิธีการนี้จะไม่มีข้อเสีย เพราะเนื่องด้วยมูลค่าบิทคอยน์ในปัจจุบันที่สูงมาก จึงอาจจะไม่เหมาะกับนักลงทุนรายย่อยที่มีเงินทุนไม่มากพอ เพราะการซื้อขายในลักษณะนี้จะต้องทำการชำระเงินให้จบภายในครั้งเดียว ไม่สามารถทำการผ่อนชำระค่าบิทคอยน์ได้ครับ และการซื้อขายในลักษณะนี้จะต้องเสียค่าคอมมิชชั่นที่สูงจึงอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่หวังทำกำไรระยะสั้นจากบิทคอยน์ครับ
.