“เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา” สินค้าที่ช่วยฟอกอากาศบริสุทธิ์ ให้กับผู้คนรักสุขภาพ มีแววเห็นอนาคตสดใส กับอัตราโตเฉลี่ยกว่า 12% ในอีก 10 ปีข้างหน้า


เครื่องฟอกอากาศแบบพกพานับเป็นตลาดโอเชี่ยนที่มีแนวโน้มสดใสทั่วโลก อัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12.10% ในอีก 10 ปีข้างหน้า สำหรับในไทยมีอัตราการเติบโตเมื่อต้นปีโตที่ผ่านมาอยู่ที่ 60-70% และยังคงมีแนวโน้มโตต่อไปได้ ตราบเท่าที่โควิดและมลพิษยังเป็นปัญหาใหญ่

จากรายงานของ Market Insight Reports เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมาได้รายงานเรื่อง “แนวโน้มตลาดเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาทั่วโลกระหว่างปี 2019-2028” โดยคาดว่าตลาดเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาทั่วโลกจะมีอัตราการเติบโตที่ดีเฉลี่ยโดยประมาณ 12.10 % ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ระหว่างปี 2019-2028 โดยเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมามีมูลค่าประมาณ 8,273.01 ล้านเหรีญสหรัฐและคาดว่าจะมีมูลค่าตลาด 16,713.3 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2025

ปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างน่าสนใจ เกิดจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับคุณภาพอากาศที่ไม่ดี การเพิ่มขึ้นของความผิดปกติด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศกำลังขยายตลาดเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาทั่วโลก

นอกจากนี้ความต้องการอากาศบริสุทธิ์ที่เพิ่มขึ้นในภาคการดูแลสุขภาพ และความต้องการตัวกรองอากาศอัจฉริยะที่เพิ่มขึ้นกำลังเพิ่มแรงฉุดอย่างมากต่อการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม

โดยถ้าให้แยกตามประเภทผลิตภัณฑ์ ตลาดเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาทั่วโลกแบ่งออกเป็นเครื่องกรองควัน เครื่องกรองเขม่าและฝุ่น และเครื่องกรองชนิดอื่นๆ

ในด้านช่องทางการจัดจำหน่ายของตลาดเครื่องกรองอากาศ สามารถแบ่งออก เป็นร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต และบนแพลตฟอร์มตลาดอี-คอมเมิร์ซที่ก็นับได้ว่าเป็นตลาดหลักของแวดวงนี้

ในส่วนที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีการกรอง ในอุตสาหกรรมการผลิตโดยส่วนใหญ่ จะแบ่งออกเป็นการกรองด้วยถ่านกัมมันต์ หรือแผ่นกรองอากาศแบบอนุภาคประสิทธิภาพสูง (HEPA) รวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่กำลังพัฒนามาสนับสนุนให้ตลาดนี้เติบโตขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง

และถ้าหากแบ่งภูมิภาคต่างๆ ออกเป็น เอเชียแปซิฟิก (อินเดีย ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ ประเทศในกลุ่มอาเซียน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) ละตินอเมริกา (บราซิล ลาตินอเมริกา) ยุโรป (เยอรมนี ฝรั่งเศส รัสเซีย อิตาลี สเปน สหราชอาณาจักร) ภาคเหนือ อเมริกา (สหรัฐอเมริกา แคนาดา) ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (ตุรกี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้) กลุ่มตลาดเหล่านี้ล้วนเป็นตลาดที่มีการเติบโตทั้งสิ้น

ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกล่าวว่าเอเชียแปซิฟิกกำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับการเติบโตของตลาดเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาทั่วโลกจนถึงปี 2028 โดยมีจีนอยู่ในกลุ่มตลาดเติบโตแถวหน้า สาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของมลพิษอันเนื่องมาจากอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จำนวนโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างต่อเนื่อง และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคกำลังกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมในภูมิภาคนี้

.

ผู้เล่นหลักที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาทั่วโลก

– Samsung Electronics Co., Ltd.

– Austin Air Systems Ltd.

– Coway Co., Ltd.

– Honeywell International, Inc.

– Whirlpool Corp.

– Sharp Corp.

– Philips International BV

– Panasonic Corp.

– Dyson Ltd.

– Daikin Industries, Ltd.

– และ Blueair, Inc.

.

.

.

.

สำหรับประเทศไทย นายวีระพงศ์ โก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) ได้กล่าวกับ Smart SME ว่า “เครื่องฟอกอากาศแบบพกพานับเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงมาก โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตถึง 60-70 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ทั้งนี้เป็นผลมาจากมลพิษของอากาศที่มี PH 2.5 สูง และการระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่ปัญหาเรื่องการระบาดของโรคโควิด-19 ทวีความรุนแรงขึ้น เป็นแรงผลักที่สำคัญที่ทำให้ตลาดโตอย่างก้าวกระโดด”

นายวีระพงศ์ได้กล่าวต่อว่าในประเทศไทย ช่องทางซื้อที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้คือช่องทางออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ เป็นไปตามพฤติกรรมการซื้อทั่วไปที่ลดการซื้อตามห้างสรรพสินค้า และหันมาซื้อทางออนไลน์ เพื่อเลี่ยงและป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งตอนนี้มีเสียวหมี่เป็นผู้นำตลาด ครองส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30 % รองลงมาคือ ฟิลิปส์ ในขณะที่อันดับสามคือชาร์ป ส่วนสาเหตุสำคัญที่เสียวหมี่สามารถครองอันดับหนึ่งของตลาดเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา เพราะราคาที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่า และมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่น่าจูงใจและต่อเนื่อง

จากการศึกษาเชื่อว่าตลาดของเครื่องฟอกอากาศแบบพกพาอยู่ในความสนใจของผู้บริโภคมาหลายปีแล้ว โดยมีปัจจัยมาจากปัญหามลพิษของอากาศที่มีค่า PH 2.5 สูงมาอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าตัวนี้เป็นสินค้าตามฤดูกาล จะขายดีมากในช่วงเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคม ของทุกปี เพราะเป็นช่วงฤดูหนาวมีลมหนาวพัดมาจากทางจีนตอนใต้ อากาศแห้ง มีไฟป่าเป็นประจำทุกปี และจากการคาดการณ์เชื่อว่าความวิตกกังวลของผู้บริโภคที่มีต่อการระบาดของไวรัสโควิดที่ยังสูงอย่างต่อเนื่อง มีการกลายพันธุ์ และยังไม่ทราบจุดสิ้นสุด จะเป็นปัจจัยสำคัญอันดับแรกของการเติบโตของเครื่องฟอกอากาศแบบพกพา แทนปัจจัยด้านมลพิษอากาศในอนาคตข้างหน้านี้

.