จากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการหลายคนต้องปรับตัวไปสู่รูปแบบการทำธุรกิจใหม่ ทั้งการเปลี่ยนไปพึ่งพาเทคโนโลยีก็ดี ทั้งการเปลี่ยนไปลงตลาดแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ดี แต่กระนั้นทุกคนก็มีจุดร่วมเดียวกันคือการปรับตัวให้ธุรกิจ อาชีพ หรือสินค้าของตัวเองอยู่รอด
เมื่อพูดถึงการปรับตัว เราเลยขอโอกาสพาทุกคนไปดูเคสตัวอย่างที่ผันตัวเองจากอดีตผู้จัดการโรงแรมในเมืองพัทยา ที่เคยมีรายได้ต่อเดือนกว่าแสนบาท แต่เมื่อเกิดโรคระบาดซึ่งกระทบภาคการท่องเที่ยวเต็มๆ ทำให้ คุณไพรทูล บุญศรี ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
.
.
.
แม้จะพลิกชีวิตมาเปิดร้านสถานีส้มตำวินเทจในช่วงโรคระบาดก่อนหน้านี้แล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็ยังได้รับผลกระทบซ้ำเติมไปอีกรอบ จากการกำหนดมาตรการของภาครัฐในเรื่องการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และการเว้นระยะห่าง ส่งผลให้ต้องแบกรับผลกระทบเป็นผลพวงตามมา
จนต้องปรับการให้บริการใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งแม้จะเป็นรถหรู แต่ก็ไม่ได้ทำให้เป็นเงื่อนไขในชีวิต คุณไพรทูลได้ปรับภายในรถใหม่ มีเครื่องปรุงในการทำส้มตำ และเครื่องปรุงยำ กว่า 10 เมนู พร้อมด้วยอุปกรณ์ครก สาก ที่ใช้สำหรับทำส้มตำ เพื่อนำไปปรุงสดให้กับลูกค้าถึงที่ จะเรียกว่าเป็นฟู้ดทรัคในคราบรถหรูก็คงจะไม่แปลกแต่อย่างใด
.
.
คุณไพรทูล บุญศรี ได้เปิดเผยว่า ชั่วโมงนี้แม้จะท้อแต่ก็ขอไม่ยอมถอยกับชีวิต ขอปรับเปลี่ยนการให้บริการด้วยขับรถยนต์คู่ใจบริการเดลิเวอรี่ลูกค้าโดยตรงเอง แต่ยังคงให้บริการเฉพาะในช่วงเวลากลางวัน 10.00 -14.00 น. สำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกออกมาซื้อที่ร้าน โดยจะเดินทางไปทำกันสดๆ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงให้กับลูกค้า
อีกทั้งยังถือว่าเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันด้วย ทั้งนี้จะนำอุปกรณ์และวัตถุดิบใส่รถยนต์ไปปรุงสดถึงที่โดยไม่คิดค่าบริการ เมนูที่นำไปบริการลูกค้าในแต่ละวันมีประมาณ 10 กว่าเมนู ซึ่งแต่ละวันจะขายได้ประมาณ 5–6 จุด ยอดขายประมาณกว่า 1,000 บาท แม้ว่าจะเป็นยอดขายที่ไม่ได้เยอะแต่ก็ถือว่ายังสามารถอยู่ได้ในสถานการณ์แบบนี้ และหลังจากช่วงเวลา 14.00 น.ก็จะกลับมาประจำที่ร้านสถานีส้มตำวินเทจพัทยา
.
.
นี้นับว่าเป็นการปรับตัวจากสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ได้อย่างน่าสนใจ เพราะสิ่งแรกของการปรับตัวที่ทำได้ทันที คือการเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวเรา จากต้นทุนที่ยังพอมีเหลือ หาวิธีพลิกแพลง จนเจอวิธีที่เหมาะกับธุรกิจหรือตัวตนของเรา
แต่หากมองในมุมของการตลาดที่ใช้ลูกเล่นของการเอารถสปอร์ตมาใช้เป็นครัวเคลื่อนที่เพื่อทำอาหารเสิร์ฟในครั้งนี้ ถือว่าเป็นวิธีที่ได้ผลและได้รับความสนใจไม่น้อยเลย เพราะเมื่อเรื่องราวของคุณไพรทูลได้เปิดสู้สายตาสาธารณะชน การรับรู้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์ร้านส้มตำก็กลายเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายไปในทันที ช่วยสร้างสีสัน สร้างการจดจำ จนสามารถต่อยอดให้ลูกค้าสนใจซื้ออาหารเป็นครั้งแรก และอาจเกิดการติดใจซื้อซ้ำในครั้งต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในอดีตก็เคยมีการนำรถหรูหรือรถสปอร์ตมาทำการส่งสินค้าให้กับลูกค้าเช่นกัน ซึ่งในขณะนั้นนับว่าเป็นการตลาดในรูปแบบแปลกใหม่ ที่สร้างสีสันเป็นอย่างมาก กับเสื้อเชิ้ตแบรนด์ Vendetta ที่ก่อตั้งโดย คุณปรินท์อัศว์ ปาริฉัตต์กุลและเพื่อนสนิท ใช้กลยุทธ์การตลาดด้วยการใช้รถของตัวเอง ซึ่งขณะนั้นคือ ปอร์เช่ และดูคาติ มาเป็นพาหนะในการส่งสินค้า
.
.
โดยมีความเห็นที่ได้พูดถึงจุดเริ่มต้นของไอเดียนี้ไว้ว่า “จุดเริ่มต้นของแบรนด์มาจากการที่ส่วนตัวเป็นคนชอบใส่เสื้อเชิ้ต ซึ่งในตลาดก็จะมีหลายราคา ตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงราคาแพงเป็นหลักหมื่นบาท ซึ่งเสื้อเชิ้ตราคาถูกก็จะมีข้อเสียบางจุด ใส่ยังไงก็ดูไม่ดี ขณะที่เสื้อเชิ้ตราคาแพงๆ ถึงแม้ว่าใส่แล้วจะดูดีจริง แต่ก็ยังมีราคาที่แพงเกินไป เราเลยอยากลองทำเสื้อเชิ้ตที่ราคาไม่แพงมาก แต่มีคุณภาพใส่แล้วดูดี แต่อย่างที่รู้กันการทำแบรนด์ใหม่แล้วขายออนไลน์กว่าจะทำให้คนรู้จักจำเป็นต้องใช้เวลานาน เราต้องการสร้างความแตกต่างของเสื้อเชิ้ต จึงเอาความเป็นสปอร์ตของเสื้อโปโล มาผสมอยู่ในเสื้อเชิ้ต เช่น แขนจะออกแบบให้เป็นโปโลหน่อย แล้วเน้นไปทางความเรียบหรู ผสมความทันสมัย”
.
.
การตลาดที่มาพร้อมประสบการณ์ร่วมช่วยสร้างมูลค่าให้แบรนด์
“เราคิดกันว่า เราเป็นแบรนด์ใหม่จะทำอย่างไรให้คนรู้จัก อยากลองซื้อไปใช้ ก็เลยใช้วิธีส่งของด้วยรถปอร์เช่และดูคาติ ซึ่งเป็นรถของเราเองอยู่แล้ว เพราะอย่างนี้เราเลยอยากให้คนรู้สึกถึงความสำคัญที่เราให้กับเสื้อเชิ้ต หรือบางครั้งผู้หญิงซื้อให้แฟน การส่งของแบบนี้ก็ทำให้ผู้ชายรู้สึกว่าของขวัญนั้นสำคัญและเกิดความประทับใจมากขึ้น แล้วการทำการตลาดแบบนี้ ทำให้คนที่ลังเลอาจไม่เชื่อมั่นในแบรนด์ อาจจะอยากลองสั่งซื้อมาใส่ และเมื่อเขาซื้อมาใส่ในครั้งแรก จะพบว่าเสื้อเชิ้ตนี้มันดีคุ้มค่า เราก็หวังว่าเขาจะซื้ออีกในครั้งต่อไป”
จะเห็นได้ว่ากระแสที่เราได้เห็นในแต่ละวัน แม้จะเป็นเรื่องสนุก ขำขัน หรือเป็นเรื่องจริงจัง ล้วนซ้อนการตลาดที่หวังผลบางอย่างไว้ในนั้น ต่างกันแค่วิธีการหรือเครื่องมือไปสู่เป้าหมาย ดังนั้นเมื่อผู้ประกอบการที่ยังรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง เราขอเป็นส่วนหนึ่งในแรงใจที่ช่วยบอกเล่าเรื่องราวดีดีนี้ผ่านไปถึงทุกคน ไม่แน่ว่า อนาคตอาจเป็นธุรกิจของคุณที่สามารถประสบความสำเร็จในหนทางของตัวเอง จากสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ลองค้นหามันดู เส้นผมอาจกำลังบังภูเขาอยู่ก็ได้
.
.