เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลต่อธุรกิจร้านอาหารเข้าอย่างจัง ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ และหนึ่งในทางออกนั้น เห็นจะเป็นการนำเอารูปแบบครัวเคลื่อนที่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ รถขายอาหารฟู้ดทรัค เข้ามาปรับใช้ เห็นได้จากหลายเจ้าที่เริ่มลงมาจับตลาดนี้กันอย่างต่อเนื่องแล้ว เพราะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถนำรถขายอาหารเข้าไปหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด สอดรับกับความต้องการผู้บริโภคที่ไม่อยากจะออกจากบ้าน ในภาวะที่บ้านเมืองเราตกอยู่ในวงล้อมโรคระบาดขณะนี้
.
จากการสำรวจของกระทรวงพาณิชย์ พบว่าในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้สั่งอาหารส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 80 ไม่ต้องการเดินทางไปที่ร้านอาหาร และกว่าร้อยละ 58 สั่งตรงจากทางร้าน โดยไม่ผ่านแอปพลิเคชั่น ฉะนั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการรายย่อยทั้งร้านอาหาร ร้านค้าแผงลอย และบุคคลธรรมดาที่จะเข้าสู่ตลาดธุรกิจฟู้ดทรัค ประกอบกับการเข้มงวดจากภาครัฐที่ไม่ต้องการให้คนออกจากบ้าน ยิ่งเป็นตัวหนุนเนื่องให้ตลาดนี้มีทิศทางเติบโตต่อไปได้นั่นเอง
.
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564) ประเทศไทยมีผู้ประกอบการฟู้ดทรัค ประมาณ 2,800 คัน แบ่งเป็น ภาคกลาง ร้อยละ 60 ภาคเหนือ ร้อยละ 14 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 9 ภาคตะวันออก ร้อยละ 6 ภาคใต้ ร้อยละ 6 และภาคตะวันตก ร้อยละ 5
สัดส่วนการจำหน่าย แบ่งเป็น ประเภทอาหารอินเตอร์ ร้อยละ 27 เครื่องดื่ม ร้อยละ 26 อาหารไทย ร้อยละ 22 อาหารว่าง-หวาน ร้อยละ 15 และ อาหารว่าง-คาว ร้อยละ 10 เงินลงทุน (รถใหม่) เริ่มต้นประมาณ 5 แสน – 1 ล้านบาท รายได้เฉลี่ยต่อคันต่อปีประมาณ 1,056,000 บาท (4,000 บาท / 22 วัน / 12 เดือน) อัตราการเติบโตของธุรกิจเฉลี่ยร้อยละ 20 ต่อปี
.
เมื่อพูดถึงข้อมูล มูลค่าตลาดรถฟู้ดทรัคข้างต้นไปแล้ว หลายท่านอาจจะกำลังเกิดความสนใจอยากลงทุนในธุรกิจร้านขายอาหารเคลื่อนที่กันบ้างแล้ว แต่หากให้เริ่มนับจากหนึ่งก็คงจะดูไกลตัวและยากลำบากขึ้นไปอีกขั้น เราเลยจะขอโอกาสพาไปรู้จักกับแฟรนไชส์ รถขายอาหารหรือของรับประทาน ในรูปแบบรถฟู้ดทรัค ซึ่งได้วางโมเดลทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการจะลงทุนเอาไว้แล้ว
.
.
Orn The Road Burger
ร้านขายแฮมเบอร์เกอร์เคลื่อนที่ ที่ใช้ชื่อสุดแนวว่า Orn The Road Burger ร้านนี้เป็นฟู้ดทรัครายแรกๆของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ที่ขายแฮมเบอร์เกอร์ เจ้าของร้านคือคุณ ปาณิศา เกลล์ ซึ่งเคยเปิดร้านอาหารสไตล์อเมริกันมากว่าสามสิบปี เพราะฉะนั้น จึงสามารถการันตรีได้เลยว่าทั้งรสชาติและวัถุดิบที่ผ่านการทำอย่างพิถีพิถัน ทาง Orn The Road Burger คัดสรรมาเป็นอย่างดีแน่นอน
ทางร้านมีเมนูให้เลือกประมาณ 7 – 8 เมนู ตัวอย่างเช่น เพลนเบอร์เกอร์, แบงค็อกเบอร์เกอร์, แบล็กแอนด์บลูเบอร์เกอร์ เป็นต้น ซึ่งแต่ละเมนูมีเครื่องเคียงให้เลือกไม่ว่าจะเป็นเบคอน หอมใหญ่ ชีส พริกเม็กซิกันดอง เฟรนช์ฟราย จึงไม่ต้องแปลกใจที่ Orn The Road Burger ขายดีและโด่งดังในวงการเบอเกอร์มานาน
.
.
.
เมื่อผลตอบรับดีทาง Orn The Road Burger จึงเปิดขายแฟรนไชส์สำหรับผู้ที่สนใจ ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไม่ต้องกลัวว่าจะทำไม่เป็น เพราะทางร้านมีการฝึกอบรมให้ก่อนขายจริงเป็นระยะเวลาประมาณหนึ่งเดือน หากสนใจก็ติดต่อไปที่ Orn The Road Burger ได้เลยทันที
Facebook Fanpage : ORN THE ROAD
https://web.facebook.com/orntheroadbkk/?_rdc=1&_rdr
เบอร์โทรศัพท์ : 095 628 0416
.
.
น่ายักษ์ น้ำแข็งใสสไตล์ไทยแท้
ฟู้ดทรัคน้ำแข็งใสทศกัณฐ์ ที่มีเครื่องขนมแบบไทยมากถึง 10 อย่างให้ทานคู่กับน้ำแข็งใสเนื้อละเอียด แต่ถ้าจะขายแบบธรรมดาก็คงจะดึงลูกค้าในยุคสมัยนี้ได้ยาก จึงเป็นที่มาของการสื่อสารถึงความเป็นไทยผ่านน้ำแข็งใส โดยใช้จุดเด่นจากวรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์ และใช้หน้ายักษ์ “ทศกัณฐ์” จากเรื่องรามเกียรติ์มาเป็นสัญลักษณ์ของร้าน ซึ่งสื่อถึงความเป็นไทย รวมถึงการตั้งชื่อร้าน หน้ายักษ์ แต่ถ้าเป็นยักษ์ก็จะดูโหดไปไม่เหมาะกับการขายขนมหวาน ก็เลยทำให้มันซอฟต์ลง จนมาออกมาเป็น น่ายักษ์ ในที่สุด
.
.
.
เมนูที่ขายก็คือขนมหวานไทย หรือน้ำแข็งไสแบบไทยโบราณนั่นเอง โดยมีท็อปปิ้งให้เลือกถึงกว่า 20 ชนิด ได้แก่ ลอดช่อง เผือก ทับทิมกรอบ ซ่าหริ่ม มันเชื่อม เฉาก๊วย เม็ดบัว รากบัวเชื่อม เป็นต้น และที่เป็นกิมมิคของทางร้านคือ การจัดเสิร์ฟ เชื่อว่าคงไม่มีร้านไหนที่เสิร์ฟน้ำแข็งไสในถาด ร้านนี้น่าจะเป็นร้านแรกที่เสิร์ฟน้ำแข็งไสใส่ในถาด และน้ำแข็งไสกดออกมาเป็นรูปหน้ายักษ์ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดที่ต้องลอง “พิเภก หน้าทอง” เพราะมีเครื่องหรือท้อปปิ้ง 3 อย่างที่มีสีเหลือง(ทอง)ทั้งหมดได้แก่ แปะก๊วย ข้าวโพด และสมหวัง
Facebook Fanpage : NaYukk – น่ายักษ์
https://web.facebook.com/Nayukk.thd?_rdc=1&_rdr
เบอร์โทรศัพท์ : 083 082 9164
.
.
Yogurt Truck
ร้าน Yogurt Truck เป็นร้านไอศกรีมฟู้ดทรัคที่นับได้ว่าโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก เห็นได้จากการตกแต่งร้านที่มาพร้อมการคลุมมู้ดแอนด์โทนด้วยธีมสดใส ทำให้เรียกความสนใจให้กับลูกค้าที่ผ่านไปมาได้ทันทีที่เหลียวมอง
ความพิเศษอยู่ที่สูตรของไอศกรีมทางร้านที่เป็นสูตรน้ำตาลน้อย และไขมันต่ำเอาใจคนรักการทานไอศกรีมเป็นที่สุด ที่มาพร้อมการตกแต่งอย่างละเมียดละไม เช่น ไอศกรีมมะม่วงน้ำดอกไม้, ไอศกรีมชาโคล 70 Kcal., ไอศกรีมมัชฉะ 70 Kcal. ราคาไอศกรีมอยู่ที่โดยเฉลี่ยประมาณ 30-40 บาทเท่านั้น
.
.
.
สำหรับแนวทางในการต่อยอดแบรนด์ของ โยเกิร์ตทรัค ทางเจ้าของแฟรนไชส์ซอ ได้ให้แนวทางไว้ว่า โยเกิร์ตทรัคไม่ใช่แค่มีโปรดักส์ให้ แต่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้าแฟรนไชส์สามารถอยู่ได้ในภาวะที่การแข่งขันสูงขนาดนี้ อาทิ การออกแบบดีไซน์ เช่น การออกแบบไอศกรีมให้ออกมาหน้าตาชวนรับประทาน หรือการออกแบบเพคเกจจิ้ง การออกแบบรถฟู้ดทรัคส์ เป็นต้น เพราะเจ้าของเคยเป็นเชฟขนมหวานมาก่อน จึงมีไอเดียในการทำขนม หรือ ไอศกรีมอยู่แล้ว สิ่งที่แฟรนไชส์จะได้นอกเหนือจากแค่รถฟู้ดทรัคขายไอศกรีม คือสูตรลับของ ผงไอศกรีม ที่เจ้าของเชื่อว่ายังไม่เคยมีใครทำมาก่อน เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมอาหาร ช่วยให้แฟรนไชส์ทำไอศกรีมได้ง่ายขึ้น พร้อมยังคงรสชาติเหมือนต้นตำรับ
Facebook Fanpage : Yogurt Truck
https://web.facebook.com/yogurttruck/?ref=page_internal
เบอร์โทรศัพท์ : 082 946 1546
.
.
.
.
.