เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม นับว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่มนุษย์จำเป็นต้องมีเพื่อห่อหุ้มร่างกาย ที่มาพร้อมวิวัฒนาการเรื่อยมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ แม้จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ ซึ่งเปลี่ยนไปตามกาลเวลา วัฒนธรรม ไปจนถึงค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หากแต่มนุษย์ก็ยังคงนิยมซื้อหามาสวมใส่ได้อยู่ตลอดเวลา
ยิ่งในปัจจุบันที่ผู้คนต่างให้ความสนใจในอัตลักษณ์เฉพาะ เสื้อผ้าก็นับว่าเป็นสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ผู้สวมใส่เกิดความมั่นใจ เพื่อบอกเล่าตัวตน ผ่านเสื้อผ้าที่พวกเขาได้เลือกมาสวมใส่ ตลอดไปถึงฟังชั่นการใช้งาน ที่หากผู้ผลิตมองเห็นโอกาส และเข้าไปตอบโจทย์พวกเขาได้ถูกที่ ถูกเวลาด้วยแล้ว มูลค่าของตลาดย่อมส่งผลงดงามตามมาอย่างแน่นอน
และหนึ่งในตลาดที่ผู้เล่นหมายปองเป็นอันดับต้นๆ ก็คงจะเป็นจีนอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยจำนวนประชากร ด้วยกำแพงการค้าที่เริ่มเปิดกว้างมากขึ้น ส่งผลให้จีนยังคงเนื้อหอม แม้จะถูกบั่นทอนด้วยภาวะโรคระบาด หากแต่ตัวเลขมูลค่าตลาดในธุรกิจเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มยังคงมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดเครื่องแต่งกายชุดกีฬา
โดยในปี 2563 จีนมีมูลค่าตลาดเครื่องแต่งกายชุดกีฬาสูงถึง 3.15 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 1.57 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 10 ปีที่ผ่านมากว่าสองเท่าตัว ซึ่งเครื่องแต่งกายชุดกีฬาที่มีมูลค่าสูง 3 ลำดับแรก คือ เครื่องแต่งกายแนวสปอร์ต เครื่องแต่งกายกีฬาแบบผ้ายืด และเครื่องแต่งกายกีฬากลางแจ้ง ในขณะที่รองเท้ากีฬา ได้แก่ รองเท้าสไตล์สปอร์ต รองเท้ากีฬาทั่วไป และรองเท้าสำหรับกิจกรรม Outdoor ซึ่งคาดว่าตลาดเครื่องแต่งกายชุดกีฬา เครื่องกีฬาและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จะยังมีแนวโน้มที่สดใสสามารถเติบโตไปได้ต่อเนื่องอย่างสัมพันธ์กัน
นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศที่ประเทศจีนว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จะส่งผลกระทบในหลายด้าน แต่ก็ยังเป็นจุดสำคัญที่ทำให้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยชาวจีนมีพฤติกรรมการออกกำลังกายที่เปลี่ยนไป ซึ่งนิยมหันมาออกกำลังกายที่บ้านผ่านสื่อออนไลน์และแอปพลิเคชั่นแทนการเข้าฟิตเนสและการจ้างเทรนด์เนอร์ อีกทั้งจีนได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ “Healthy China 2030” เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่มีการเล่นกีฬามากขึ้น ส่งผลให้ตลาดเครี่องออกกำลังกายและเครื่องแต่งกายกีฬาจีนเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงาน อายุ 23-30ปี ที่นิยมออกกำลังกายประเภทโยคะและฟุตบอล ปั่นจักรยาน และปีนเขา เป็นต้น
ถือเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพเพื่อขยายตลาดกลุ่มดังกล่าวไปในประเทศจีน อีกทั้งอาหารเพื่อสุขภาพและอาหารเสริมก็ยังเป็นกลุ่มสำคัญที่น่าสนใจ โดยผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการเป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปหลังจากวิกฤต COVID-19 และสามารถครองใจคนรักสุขภาพในจีน
ทั้งนี้สามารถติดตามและเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาการค้าผ่านงานแสดงสินค้าในจีน การจับคู่ธุรกิจออนไลน์ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ที่ www.ditp.go.th หรือสายด่วน 1169
.
.
.