เปิดตัว EXIM Thailand Pavilion แพลตฟอร์มออนไลน์ช่วย SMEs ส่งออกสินค้าไทยไปตลาดโลก

ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานกรรมการกำหนดกลยุทธ์และนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวเปิดโครงการแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ “EXIM Thailand Pavilion” ว่า COVID-19 ได้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของผู้บริโภคเชื่อมโยงสู่โลกออนไลน์อย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด ทำให้ธุรกิจออนไลน์ขยายตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าปี 2568 มูลค่าการค้าขายออนไลน์โลกจะสูงถึง 7.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น EXIM BANK ซึ่งมีนโยบายมุ่งสู่การเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย ควบคู่กับการเป็นศูนย์บริการครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศให้แก่ SMEs จึงริเริ่ม “EXIM Thailand Pavilion” เป็นแพลตฟอร์มการค้าขายออนไลน์ระหว่างประเทศ ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถเริ่มต้นตั้งธุรกิจ พัฒนา และแสวงหาโอกาสส่งออกในตลาดการค้าออนไลน์

 

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า จากจำนวนผู้ส่งออก SMEs ไทยที่มีไม่ถึง 1% ของทั้งระบบ เมื่อผู้ส่งออกไทยที่ค้าขายออนไลน์ระหว่างประเทศมีจำนวนน้อยมาก เทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน อาทิ เวียดนาม มีจำนวนผู้ส่งออก SMEs สูงถึง 10% ของ SMEs ทั้งประเทศเวียดนาม เป็นสัดส่วนสูงกว่าไทยถึง 10 เท่า อีกทั้ง 30% ของ SMEs เวียดนามค้าขายออนไลน์ระหว่างประเทศแล้ว การค้าออนไลน์จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ยังคงดำเนินต่อไปได้ โดยเฉพาะในวิกฤต COVID-19

ประกอบกับการเกิดปรากฏการณ์อภิมหาการลาออก (Great Resignation) และคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะประชากร Gen Z วัย 15-21 ปีในปัจจุบัน ต้องการเป็นเจ้าของกิจการ ทำให้การค้าออนไลน์ของโลกในปี 2563 ขยายตัวอย่างรวดเร็วถึง 24% ขณะที่การค้าโลกหดตัว 9% ยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยทางออนไลน์ต่อยอดขายสินค้าฟุ่มเฟือยรวมเพิ่มขึ้นเท่าตัวจาก 12% ในปี 2562 เป็น 23% ในปี 2563 และคาดว่าจะสูงถึง 30% ในปี 2568 จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs จะเร่งรุกตลาดส่งออกออนไลน์ซึ่งตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคและการใช้ชีวิตในรูปแบบวิถีใหม่ และเพื่อให้เรือเล็กสามารถโลดแล่นออกสู่ตลาดโลกได้ โดย SMEs ต้องนำ “คาถา 4 ทัน” มาปรับใช้ในการทำธุรกิจยุค Next Normal ดังนี้

ทันที : มีความรวดเร็วในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะการตอบคำถามลูกค้าบนแพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์ต่าง ๆ ที่ต้องตอบอย่างเร่งด่วน 5-10 นาที

ทันใจ : จัดส่งสินค้าให้ไว ผ่านการใช้อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มอย่างครบวงจร ทั้งการชำระเงินและโลจิสติกส์ เพื่อตอบโจทย์การซื้อขายได้ทุกที่ ทุกเวลา

ทันกระแส : การพัฒนาสินค้าต้องตอบโจทย์เมกะเทรนด์ เช่น เทรนด์รักษ์โลก ดิจิทัล สุขภาพ หรือแม้แต่การเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม

ทันโลก : สินค้าต้องได้มาตรฐานโลก ไม่ใช่แค่เครื่องหมายการรับรองในประเทศ เช่น Codex มาตรฐานอาหารตามหลักสากล, IFS หรือ International Food Standard มาตรฐานอาหารระหว่างประเทศเพื่อให้การผลิตอาหารปลอดภัย, Halal Standard ผลิตภัณฑ์อาหารซึ่งอนุมัติตามบัญญัติศาสนาอิสลามให้มุสลิมบริโภคหรือใช้ประโยชน์ได้ ฯลฯ

 

 

โครงการ “EXIM Thailand Pavilion” เป็นการร่วมมือระหว่าง EXIM BANK และ AJ E-Commerce ซึ่งเป็น Alibaba.com Authorized Partner เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีช่องทางนำสินค้าไปขายบนแพลตฟอร์มการค้าระดับโลกอย่าง Alibaba.com สามารถเข้าถึงผู้ซื้อ (Active Buyers) จำนวนกว่า 26 ล้านราย เน้นการขายส่งระหว่างผู้ผลิตกับธุรกิจต่าง ๆ เฉลี่ยต่อวันมากกว่า 400,000 รายการ ภายใต้ “EXIM Thailand Pavilion” ซึ่งเป็นบัญชีสมาชิกของ EXIM BANK เมื่อมีผู้ซื้อจากต่างประเทศติดต่อให้ความสนใจสินค้า ระบบจะทำการแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบผ่านช่องทาง SMS และ E-mail ทันที โดย EXIM BANK เป็นผู้สนับสนุนค่าสมาชิก พร้อมจัดให้มีทีมงานบริหารร้านค้าและทำการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ฟรี! 1 ปีเต็ม นอกจากนี้ EXIM Thailand Pavilion ยังเชื่อมโยงกับเครือข่ายบริษัทจัดจำหน่ายสินค้า (Trading) และผู้ให้บริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง (Fulfillment) ทั้งในและต่างประเทศ ช่วยยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการของไทยเทียบเท่ามาตรฐานสากลโดยเชื่อมโยงกันภายใต้ Supply Chain ของ E-Commerce โลก

“EXIM Thailand Pavilion เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ EXIM BANK ริเริ่มและพัฒนาขึ้น เพื่อสร้างทางรอดให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs มีช่องทางขายสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับโลก Alibaba.com สามารถเข้าถึงผู้ซื้อ (Active Buyers) จำนวนกว่า 26 ล้านราย เน้นการขายส่งระหว่างผู้ผลิตกับธุรกิจต่าง ๆ เฉลี่ยต่อวันมากกว่า 400,000 รายการ ผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับโอกาสเข้าไปอยู่ใน Supply Chain ของ E-Commerce โลก สอดรับกับเมกะเทรนด์ของโลกที่เรียกว่า Next Normal ในระยะถัดไป โดย EXIM BANK จะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อเตรียมความพร้อมให้ SMEs ไทยสามารถเริ่มต้นส่งออกครั้งแรกบน EXIM Thailand Pavilion และขยายการส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ช่วยสร้างรายได้และชื่อเสียงให้แก่สินค้าไทยในเวทีการค้าโลก” ดร.รักษ์ กล่าว

ด้วยสภาวะการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกหันมาจับจ่ายผ่านออนไลน์มากขึ้น เพื่อต่อยอดการค้าขายระหว่างประเทศให้ผู้ประกอบการไทย โครงการแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ “EXIM Thailand Pavilion” เป็นโครงการสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีช่องทางนำสินค้าไปขายบนแพลตฟอร์มการค้าระดับโลกอย่าง Alibaba.com ซึ่งมีผู้ใช้งานจำนวนมาก นอกจากการใช้โอกาสที่หน่วยงานรัฐส่งมอบให้แล้ว ผู้ประกอบการยังต้องเร่งปรับตัวเพื่อรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว การใช้เทคโนโลยีเข้ามาอำนวยความสะดวก การพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการสร้างมาตรฐานระดับสากล ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ SMEs มีโอกาสประสบความสำเร็จในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป