“มะม่วงน้ำดอกไม้” ราคาสูงขึ้นจากเทรนด์ข้าวเหนียวมะม่วง ส่วนสินค้า Soft Power ทำเงินเกือบ 4,000 ล้านบาท


กระแส “ข้าวเหนียวมะม่วง” ยังคงเป็นที่พูดถึงกันอยู่ แม้ว่าจะผ่านมาแล้วหลายวัน แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นสร้างมูลค่าให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ เกษตรกร, พ่อค้าแม่ค้า ที่ได้อานิสงส์จากเรื่องราวนี้ไปตาม ๆ กัน

เรามาดูกันว่ามีอะไรเกิดขึ้นกันบ้างจากกระแสข้าวเหนียวมะม่วงฟีเวอร์

เริ่มกันที่เรื่องแรก คงหนีไม่พ้นมะม่วง โดยเฉพาะ “มะม่วงน้ำดอกไม้” ที่ใช้ทำข้าวเหนียวมะม่วง ข้อมูลจากกรมการค้าภายใน เผยว่า มะม่วงน้ำดอกไม้เกรดคุณภาพ มีราคาเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อน ปัจจุบันขายกิโลกรัมละ 25-30 บาท สูงจากปีก่อนที่มีราคาอยู่ที่ 22-25 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่เกรดคละมีราคาอยู่ที่ 11-13 บาทต่อกิโลกรัม สูงกว่าปีก่อนที่มีราคา 8-12 บาท ต่อกิโลกรัม

โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากกระแสการบริโภคข้าวเหนียวมะม่วงที่เพิ่มมากขึ้น การเข้าไปรับซื้อมะม่วงมาจำหน่ายของกรม ตลอดจนการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย กระจายมะม่วงไปสู่ผู้บริโภค

อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ “Soft Power” ที่ถูกกล่าวถึง กลายเป็นคำติดหูขึ้นมา รู้หรือไม่ว่า? ประเทศไทยมีการส่งออกสินค้าที่เป็น “Soft Power” เหมือนกันผ่าน 4 กลุ่มสินค้า โดยข้อมูลจากกรมการค้าระหว่างประเทศ พบว่า สินค้ากลุ่ม “Soft Power” ได้แก่ อาหาร, ดิจิทัลคอนเทนต์, สุขภาพความงาม และสินค้าสร้างอัตลักษณ์ไทย ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการไทยได้ถึง 1,878 ราย สร้างมูลค่าการค้ารวม 3,905 ล้านบาท แบ่งเป็น การส่งออกสินค้า 4 กลุ่ม 1,258 ล้านบาท และส่งออกผลไม้ 2,647 ล้านบาท

แน่นอนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นผู้ที่ได้รับประโยชน์คงหนีไม่พ้น เกษตรที่ขายข้าวเหนียว และมะม่วง ผู้ประกอบร้านค้าที่ขายดีขึ้น

เรื่องที่เกี่ยวข้อง