เงินเฟ้อเล่นงาน! ราคาเบียร์ในกรุงลอนดอนพุ่งสูงเฉลี่ยไพน์ละ 343 บาท แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน


แม้ว่าลอนดอนจะถูกพูดถึงมานานว่าเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายในเรื่องต่าง ๆ ที่ค่อนข้างสูง แต่ดูเหมือนว่าภาวะเงินเฟ้อยิ่งทำให้ต้นทุนในเรื่องของค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหาร และเครื่องดื่ม ที่ไม่อาจหลีกหนีเรื่องนี้ได้พ้น

“เบียร์” เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่โดนภาวะเงินเฟ้อเล่นงาน โดยราคาเบียร์ต่อไพน์ในกรุงลอนดอนที่เพิ่มมากกว่า 70% นับตั้งแต่ปี 2008 ที่มีวิกฤตการเงิน ซึ่งตกอยู่ไพน์ละ 8 ปอนด์ (ประมาณ 343 บาท) เป็นครั้งแรกของอังกฤษที่สถานบันเทิงต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อ

ตามการวิจัยโดย CGA พบว่าค่าเฉลี่ยราคาเบียร์ต่อไพน์เพิ่มขึ้นมากกว่า 70% นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อ 15 ปีที่แล้ว โดยเพิ่มจาก 2.3 ปอนด์ต่อไพน์ มาสู่ 3.95 ปอนด์ต่อไพน์ และมีแนวโน้มที่จะราคาสูงขึ้นอีก เนื่องจากต้นทุนของข้าวบาร์เลย์ในการผลิตเบียร์ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

อีกทั้ง เมื่อดูราคาผู้บริโภคโดยเฉลี่ยเพียงอย่างเดียวจากเดือนมกราคม 2008 ถึงเมษายน 2022 จะพบว่าราคาต้นทุนต่อไพน์จะอยู่ที่ 3.35 ปอนด์

รายงานของ CGA ที่สุ่มสำรวจราคาสถานบันเทิง ผับ บาร์ ในสหราชอาณาจักรมากกว่า 5,500 แห่ง จากทั้งหมด 90,000 แห่ง แสดงให้เห็นว่ามีสถานบันเทิงบางแห่งขายเบียร์ในราคาแพงที่สุด 8 ปอนด์ต่อไพน์ นับเป็นครั้งแรกที่มีการสำรวจมาที่เห็นราคานี้ ส่วนราคาเบียร์ต่อไพน์ถูกสุดอยูที่ 1.79 ปอนด์

Clive Watson ประธาน City Pub Group ซึ่งเปิดผับ 41 แห่งในกรุงลอนดอน และทางตอนใต้ กล่าวว่าต้นทุนส่วนผสมเพิ่มขึ้น 10% อัตราเงินเฟ้อน่าจะอยู่ที่ 7% และอัตราเงินเฟ้อเรื่องไฟฟ้าอยู่ที่ 100% ดังนั้น ราคาต้นทุนแบบผสมอาจทำให้ราคาเบียร์หนึ่งไพน์เพิ่มขึ้น 12%-13%

แม้ต้นทุนในเรื่องการผลิตเบียร์จะเพิ่มสูงขึ้น แต่ผู้บริหารสถานบันเทิงยังมีความลังเลที่จะขึ้นราคา เนื่องจากพวกเขาต้องการดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาที่ร้านอีกครั้ง หลังจากต้องหยุดยาวจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ราคาธัญพืชเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งยูเครนเป็นผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก

ที่มา: fttheguardian