เพราะอะไร? ปากีสถานรณรงค์ขอให้ประชาชนดื่มชาน้อยลง แล้วประเทศจะฝ่าวิกฤตไปได้


ปากีสถานเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ถูกคาดหมายว่ามีโอกาสเจริญรอยตามศรีลังกาที่เศรษฐกิจพังไม่เป็นท่า ดังนั้น เพื่อไม่ให้สถานการณ์เดินทางไปถึงจุดวิกฤตนั้นคือการออกมาตรการขอความร่วมมือประชาชน เพื่อให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้

แต่ดูเหมือนว่าแคมเปญรณรงค์ของรัฐบาลปากีสถานกับถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ไม่ใช่น้อย เมื่อขอให้ประชาชนลดการดื่มชาน้อยลงเพื่อช่วยประหยัดค่านำเข้าวัตถุดิบท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังลุกลามบานปลายอยู่ตอนนี้

เมื่อดูสถิติ พบว่าปากีสถานเป็นประเทศนำเข้าชาชั้นนำของโลก และได้รับความนิยมอย่างล้นหลามไม่ว่าจะเป็นผู้มีฐานะร่ำรวย และยากจน โดยมีการประเมินว่าชาวปากีสถานมีการดื่มชาอย่างน้อยเฉลี่ย 3 แก้วต่อวัน

เช่นเดียวกับรัฐบาลปากีสถานที่ต้องใช้เงินประมาณ 500 ล้านปอนด์ (ประมาณ 21,000 ล้านบาท) ต่อปี จากเงินสำรองที่แข็งค่าจากธนาคารกลางในการนำเข้าชา

Shahbaz Sharif นายกรัฐมนตรีศรีลังกาที่เข้ามารับตำแหน่งในเดือนเมษายน ให้คำมั่นสัญญาว่าจะปรับปรุงเศรษฐกิจที่อยู่ในขั้นโคม่า และทำตามเงื่อนไขข้อกำหนดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่จะรื้อฟื้นแพ็กเกจเงินช่วยเหลือ 5 พันล้านปอนด์

ขณะเดียวกัน Ahsan Iqbal รัฐมนตรีการวางแผนของปากีสถาน เตรียมรณรงค์ลดการดื่มชาให้เหลือ 1 หรือ 2 แก้วต่อวัน เพราะว่าต้องกู้เงินมาเพื่อนำเข้าชา แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะมีประชาชนบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย เช่น Dil Sher เจ้าของแผงขายชาในเขตชานเมืองของกรุงอิสลามาบัด กล่าวว่าเมื่อวาน Ahsan Iqbal ขอให้ลดการดื่มชา และพรุ่งนี้อาจจะบอกว่าให้กินน้อยลงอีก นี่คือวิธีแก้ปัญหาจริง ๆ หรือไม่?

ที่มา: theguardian