นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) นำทีมหารือกับนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินเครื่องยกระดับ Street Food ปลุกกระแสกินร้านที่ใช่ ถูกใจ และถูกต้อง ซึ่ง กทม. มีนโยบายจัดระเบียบร้านอาหารริมบาทวิถี ที่ได้มีการจัดกลุ่มสตรีทฟู้ดเป็น 3 กลุ่ม คือ ตลาดในชุมชนคือตลาดในชุมชนที่อยู่มานานหลายสิบปี ตลาดในเมืองสำหรับคนทำงานออฟฟิศ และตลาดนักท่องเที่ยว โดยผลักดันให้ร้านหาบเร่-แผงลอยต่างๆ ต้องผ่านการอบรม และลงทะเบียนกับ กทม. ที่สำคัญคือเข้าสู่การการประเมินตามมาตรฐานอาชีพเพื่อรับคุณวุฒิวิชาชีพ และป้ายมืออาชีพ เพื่อเป็นเครื่องการันตีสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อกินจากร้านที่ใช่ อร่อยสะอาดถูกใจ และถูกต้องตามกฎระเบียบของ กทม.
นายศานนท์ กล่าวว่าการจัดโซนหาบเร่-แผงลอย เป็นนโยบายที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ความสำคัญ เนื่องจากสตรีทฟู้ดเมืองไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลกและมีการจัดอันดับให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีอาหารริมทางที่ดีที่สุด เนื่องจากรสชาติอร่อยมีให้เลือกรับประทานหลายชนิด และกระจายอยู่ตามแหล่งชุมชนต่างๆ ทำให้หาซื้อได้ง่าย มีขายตลอดเวลา แต่เสน่ห์ที่มาพร้อมการดำรงชีวิตก็จำเป็นต้องมีกฎกติกาเพื่อความเป็นระเบียบ ซึ่งแนวทางการทำงานร่วมกับ สคช. ไม่เพียงตอบโจทย์การจัดระเบียบผู้ค้าให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่ยังช่วยส่งเสริม พัฒนาผู้ค้าให้มีคุณภาพด้วยมาตรฐานอาชีพด้วย
นอกจากนี้ยังได้วางแนวทางการทำงานร่วมกันโดยแบ่งกลุ่มอาชีพเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มสังคมผู้สูงวัย กลุ่มบริการสุขภาพ และกลุ่มท่องเที่ยวบริการ โดยเตรียมรับรองหลักสูตรการฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพ ซึ่งกรุงเทพมหานครมีมากกว่า 400 หลักสูตร เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบอาชีพในเขตกรุงเทพมหานครได้การรับรองและรับคุณวุฒิที่สูงขึ้น ซึ่งผู้ที่จะได้ประโยชน์ไม่เพียงเป็นคนในอาชีพแต่กลุ่มบริษัท หรือนายจ้าง ก็จะได้ประโยชน์ในการเลือกรับคนเข้าทำงาน หรือแม้กระทั่งพัฒนาพนักงานของตัวเอง ขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจของตัวเองก็ได้โอกาสทางธุรกิจที่สามารถใช้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพต่อยอดในการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจกับธนาคารออมสินได้ด้วย เบื้องต้นได้กำหนด 5 อาชีพนำร่อง ประกอบด้วยอาชีพผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถี อาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ กลุ่มอาชีพงานช่าง(ระบบน้ำ ช่างไฟ งานโครงสร้าง) กลุ่มอาชีพบาริสต้า และอาชีพช่างตัดผม เสริมสวย โดยมีแนวคิดในการจัดงานใหญ่ร่วมกับสมาคมช่างผมฯ ประกวดเฟ้นหาสุดยอดช่างผมของประเทศไทยดึงดูดนักท่องเที่ยวแบบครบวงจรให้ ‘มาทั้งทีมีทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่เสริมสวย และเสริมสุขภาพที่ดีด้วยไปพร้อมกัน’