ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้นกับทุกคนไม่ใช่เฉพาะธุรกิจขนาดเล็กเท่านั้น ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่คนที่เจ็บตัวน้อยที่สุดคือคนมีภูมิคุ้มกันมากที่สุด นี่คือส่วนหนึ่งที่ ดร.ศิริกุล เลากัยกุล ได้กล่าวไว้ในวันแรกของงาน Techsauce Virtual Conference 2020
ช่วงเเรกช่วงอยู่ให้รอด (Survival)
ตอนนี้สามารถเเบ่งธุรกิจได้เป็นสองอย่างคือ ธุรกิจที่โลกยังต้องการ (ที่ยังสามารถไปต่อได้) สองคือธุรกิจแบบ Luxury ที่ต้องหยุดก่อนเเละกลับมาทบทวน Business model
ธุรกิจต้องคิดไปอีกขั้นไม่ใช่เเค่เรื่องสร้างรายได้ให้ตัวเองเท่านั้น แต่ต้องมองไปถึงขั้นที่ว่า จะทำอย่างไรให้ผู้บริโภคสามารถอยู่รอดไปพร้อมกับเราด้วยได้
“Brand Collaboration” เป็นเรื่องที่สำคัญมากในช่วงนี้ ผู้ประกอบการต้องร่วมกันคิด เพราะจะช่วยทำให้ธุรกิจสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้น อีกทั้งผู้บริโภคยังได้รับความสะดวกมากขึ้น
“ขาดทุนคือกำไร” การที่เเบรนด์ต่าง ๆ เลือกที่ออกมาช่วยสังคม ถึงเเม้จะขาดทุนในตอนเเรก เเต่หลังจากเข้าสู่สายตาสังคมเเล้วก็จะมีเเบรนด์อื่นได้รับแรงบันดาลใจและตามมาช่วยเอง (อย่างในกรณี หมูทอดเจ๊จง)
ช่วงฟื้นฟู (Sufficient) อย่างไรให้กลับมารุ่งเรืองเหมือนเดิมได้
ในช่วงนี้ การรู้จักตนเองของเเบรนด์สำคัญที่สุด อีกทั้งต้องกลับมาทบทวน Business model / Brand model ใหม่ เพราะรูปเเบบการบริโภคจะเปลี่ยนเเน่นอน
ช่วงอยู่อย่างไรให้ยั่งยืน (Sustainable)
การสร้างภูมิคุ้มกันสำคัญสุด เราจะทำอย่างไรถึงจะอยู่รอด ต้องเปลี่ยนจากตลาดการค้าเป็นตลาดการช่วยเหลือ ทุกอย่างคือเรื่องของการสร้าง Branding ดังนั้นทุกการกระทำส่งผลกระทบต่อเเบรนด์เเน่นอน
“สำหรับธุรกิจ SME เเล้ว ต้องใช้ความเล็กของเราให้เป็นประโยชน์ เพราะมันทำให้เราปรับตัวได้ง่ายกว่าองค์กรใหญ่ เห็นผู้บริโภคเป็นอีกคนที่กำลังเดือดร้อนเเละช่วยเขา เพราะ Customer Empathy จะเป็นตัวสร้าง Impact ให้กับเเบรนด์ของเรามากที่สุด”
อ้างอิง: Techsauce Virtual Conference 2020