ผู้ประกอบการ SMEs เตรียมตัวให้พร้อม GrabFood เปิดให้ร้านค้าสมัครเข้าร่วม “คนละครึ่ง” ได้แล้ว เลือกเข้าร่วมกับ “Grab” บนแอปฯถุงเงิน 24 กย.นี้


เชื่อว่าคงมีผู้บริโภคหลายคนที่เคยมีความคิดอยากให้โครงการ “คนละครึ่ง” ของภาครัฐ สามารถใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มสั่งอาหารได้ทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปสแกนผ่านหน้าร้านอย่างที่เคยเป็นมา เพราะด้วยสถานการณ์โรคระบาดอย่างนี้แล้ว การออกไปนอกบ้านโดยไม่จำเป็น คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ดังนั้น การได้สั่งอาหารที่ตนเองอยากทาน ได้ลิ้มรสชาติของอร่อย โดยที่เราไม่ต้องออกนอกบ้าน พร้อมกับการจ่ายเงินเพียงครึ่งเดียว คงจะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคได้ไม่น้อยเลย

ซึ่งร้านอาหาร ก็นับเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ต้องการให้ “คนละครึ่ง” สามารถใช้งานผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอร์รีได้ทันทีที่ลูกค้ากดสั่งอาหาร แม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการคลายล็อกให้สามารถทานอาหารภายในร้านได้แล้ว หากแต่ส่วนหนึ่งเราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังคงเลือกใช้บริการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรีอยู่ ซึ่งหากลูกค้าสามารถจ่าย “คนละครึ่ง” ผ่านแอปฯได้ ก็จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น ส่งผลให้ร้านอาหารที่อยู่ในแพลตฟอร์มเดลิเวอร์รี ได้รับยอดขายที่เพิ่มจำนวนเท่าทวีคูณมากขึ้นตามมา

และในวันนี้ ความต้องการทั้งจากร้านอาหารและลูกค้าที่เราได้กล่าวไป กำลังจะเกิดขึ้นจริงแล้ว เพื่อตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เมื่อ GrabFood ผู้นำแอปพลิเคชันแพลตฟอร์มสั่งอาหารอันดับ 1 ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดฟู้ดเดลิเวอร์รี ในประเทศไทย มากกว่า 50% ได้ประกาศเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” โดยภาครัฐได้ปลดล็อกข้อจำกัดในเรื่องนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อย ให้สามารถได้รับเม็ดเงินในโครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 3 ผ่านการชำระเงินบนแพลตฟอร์มเดลิเวอร์รีได้ในที่สุด พร้อมทั้งเชิญชวนให้ร้านอาหารที่เป็นพาร์ทเนอร์อยู่ก่อนแล้ว หรือร้านอาหารที่ยังไม่เคยเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ ให้สมัครเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” กับ GrabFood โดยสามารถลงทะเบียนผ่านแอปฯ ถุงเงิน ได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 เป็นต้นไป

เหตุผลที่ผู้ประกอบการควรสมัครเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” กับ GrabFood

1.) สำหรับร้านอาหารพาร์ทเนอร์ เมื่อเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” จะได้รับสิทธิพิเศษในการลดค่าคอมมิชชัน (ค่า GP) ไม่เกิน 20% ซึ่งหากมองในมุมของส่วนแบ่งตลาดโครงการ “คนละครึ่ง” เฟส 3 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ใช้สิทธิสะสม 24.18 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 65,881.5 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 33,509.7 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 32,371.9 ล้านบาท ก็นับได้ว่าเป็นมูลค่าตลาดที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ผนวกกับไตรมาส 4 รัฐยังคงเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลบวกต่อผู้ประกอบการที่มองเห็นโอกาสในการช่วงชิงส่วนแบ่งในจังหวะสำคัญนี้

2.) เพิ่มการมองเห็นให้กับร้านค้าผ่านสื่อภายในแอปพลิเคชัน Grab พร้อมกระตุ้นยอดขาย ด้วยการแจกโค้ดส่งฟรี 5 กิโลเมตร (ใส่รหัส “THAI “ ลดค่าส่งสูงสุด 25 บาท) และโค้ดลดค่าสูงสุด 30% (ใส่รหัส “HELP”) ให้ลูกค้าแบบจัดเต็ม เพื่อกระตุ้นยอดขาย ดูแลกันยาวๆตั้งแต่ก่อนเริ่มโครงการ จนถึงหลังจบโครงการ ถึงสิ้นเดือนมกราคม 2565 เพื่อสนับสนุนร้านค้าให้เติบโตไปพร้อมๆกันอย่างยั่งยืน

3.) ให้ร้านอาหารเข้าถึงเงินกู้ได้ง่ายและเร็วขึ้น ด้วยสินเชื่อเงินสดทันใจ จาก แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ให้คุณได้รับเงินทุนด้วยวงเงินสูงสุดถึง 100,000 บาท โดยมีการปรับลดข้อมูลธุรกรรมย้อนหลัง 1 เดือน จาก 3 เดือน และปรับลดข้อกำหนดเรื่องรายได้ธุรกรรม เหลือ 1,000 บาทต่อเดือน จาก 5,000 บาท เพื่อช่วยเหลือร้านค้าให้มีเงินทุนในการทำธุรกิจต่อไป และช่วยเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับร้านค้า

4.) คืนกำไรให้กับร้านค้าพาร์ทเนอร์ ด้วยการแจกรางวัลใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 1.9 ล้านบาท จำนวน 350 รางวัล ของรางวัลมีตั้งแต่สร้อยคอทองคำ รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่น YAMAHA Fin และโทรศัพท์มือถือซัมซุง A12 ที่ขนโชคมาแจกกันอย่างต่อเนื่อง จับรางวัลถึง 3 ครั้งด้วยกัน ในวันที่ 4, 11 ต.ค. และ 22 พ.ย. 64

5.) ลุ้นออกรายการทีวียอดนิยม ครัวคุณต๋อย, โหนกระแส, ตลาดสดพระราม 4 รับการโปรโมตผ่านรายการดัง แฉ เรื่องเด่นเย็นนี้ เสาร์-อาทิตย์ เรื่องเล่าเช้านี้ ข่าวใส่ไข่ ไทยรัฐนิวส์โชว์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการรับรู้ในวงกว้างให้เป็นที่รู้จักและเพิ่มโอกาสในการเพิ่มยอดขาย และไม่เพียงสื่อภายนอกเท่านั้น ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” กับ GrabFood ยังจะถูกนำเข้าไปอยู่ในแบนเนอร์บนสุดในหน้าแรกของแอปฯ วิดเจ็ต ไอคอนในหน้า GrabFood และพื้นที่โฆษณาอื่นๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่พบเห็นและตัดสินใจซื้ออาหาร/เครื่องดื่มในที่สุด

6.) ยกทัพดารา นักแสดง นักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ ยูทูบเบอร์ เพจโปรโมชัน เพจรีวิวอาหาร ดาว tiktokk ชั้นนำของประเทศไทย นำทีมโดยแบรนด์พรีเซ็นเตอร์ เบลล่า-ราณี แคมเปน อาทิ กันต์-กันตถาวร อแมน ออบดัม ป๊อก-มาร์กี้ หยิ่น-วอร์ เฉลิมศรี Bankii พีช อีทแหลก เสือร้องไห้ และอื่นๆ รวมผู้ติดตามกว่า 60 ล้านคน ที่มาร่วมประชาสัมพันธ์แคมเปญ มั่นใจได้ว่าจะเข้าถึงผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัยอย่างแน่นอน

7.) Grab ได้ร่วมกับภาครัฐ พัฒนาแอปฯให้ร้านค้าสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ทั้งการสมัครร่วมโครงการก็ทำได้สะดวก ง่ายดายเพียงไม่กี่ขั้นตอน ไม่ต้องสแกน ไม่จำกัดระยะทาง เพราะได้เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของภาครัฐเรียบร้อยแล้ว โอน-จ่าย-รับเงิน สะดวกสบายผ่านแอปฯถุงเงิน สามารถรู้ได้ทันทีว่าออเดอร์ไหน ใช้บริการผ่านโครงการ คนละครึ่ง ช่วยให้จัดการระบบการเงินได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย รับรองว่าร้านค้าที่เพิ่งเข้าร่วมเป็นครั้งแรกหมดปัญหาในเรื่องการใช้งานอย่างแน่นอน

.

.

ตอกย้ำผู้นำตลาดแพลตฟอร์มสั่งอาหาร ด้วยประสบการณ์ ความรู้ ความเข้าใจหัวอกคนไทย และการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง การันตรีด้วยรางวัล “สุดยอดแบรนด์ครองใจมหาชน” และรางวัล “แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย”

ด้วยประสบการณ์ของ GrabFood ในฐานะผู้ให้บริการแอปพลิเคชันแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีในเมืองไทยตลอด 8 ปีที่ผ่านมา GrabFood ไม่เคยหยุดยั้งการพัฒนาแพลตฟอร์ม การให้บริการ ตลอดจนกิจกรรมส่งตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายให้กับร้านค้า โดยนอกจากจะให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและแตกต่างแล้ว ยังได้ให้ความสำคัญ ในการมุ่งศึกษาและทำความเข้าใจผู้บริโภค เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างแท้จริง จนทำให้บริการ GrabFood แตกต่างจากคู่แข่งในตลาดและกลายเป็นแบรนด์ฟู้ดเดลิเวอรี่ยอดนิยมอันดับหนึ่ง

อีกครั้งกับการตอกย้ำด้วยความสำเร็จของ GrabFood ผู้นำแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ยอดนิยมอันดับ 1 ที่คว้ารางวัล “สุดยอดแบรนด์ครองใจมหาชน” (2021 Thailand’s Most Admired Brand) โดยนิตยสาร BrandAge และรางวัล “แบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย” (No.1 Brand Thailand 2020-2021) โดยนิตยสาร Marketeer ในกลุ่มธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด มากกว่า 50% ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของแบรนด์ Grab Food ทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ จนสามารถเข้าไปอยู่ในใจของคนไทยได้ในที่สุดนั่นเอง

เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ที่ร้านอาหารจะได้รับ ในโครงการ “คนละครึ่ง”

 .

.

สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารที่กำลังสนใจเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” กับ GrabFood ควรเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมโครงการ โดยสามารถตรวจสอบตามขั้นตอนดังนี้

1.) เช็คเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
     1.1 เช็คเลขประจำตัวผู้เสียภาษีที่ลงทะเบียนโครงการ “คนละครึ่ง” ที่ merchant.คนละครึ่ง.com บริเวณ “ดูข้อมูลทะเบียนร้านค้า”
     1.2 เช็คเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของ Grab ได้ที่กล่องข้อความ (Inbox) ในแอป GrabMerchant

2.) นำรหัสร้านค้า กรอกสมัครผ่านแอปฯ ถุงเงิน
     2.1 เช็ครหัสร้านค้าที่โปรไฟล์แอป GrabMerchant หรือ กล่องข้อความ (Inbox)
     2.2 เลือกเข้าร่วมกับแฟลตฟอร์ม “Grab” บนแอปฯ ถุงเงิน

3.) กดยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข
     3.1 หลังจากสมัครผ่านแอปฯ ถุงเงิน สำเร็จ กด “ยอมรับเงื่อนไข” ผ่าน กล่องข้อความ (Inbox) ในแอป GrabMerchant และรับออร์เดอร์ “คนละครึ่ง” ได้ภายใน 1 ชั่วโมง
     3.2 กรอกรหัสร้านค้า Grab ของคุณ และกด “ยืนยันการสมัคร”

4.) ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งให้สมบูรณ์ เพื่อความรวดเร็ว พร้อมต้อนรับลูกค้าได้ทันที
    4.1 ย้อนกลับไปตรวจสอบเลขบัตรประจำตัวประชาชน/เลขประจำตัวผู้เสียภาษีที่ลงทะเบียนกับ Grab อีกครั้งเพื่อความถูกต้องและรวดเร็ว เพราะจำเป็นต้องตรงกับที่สมัครเข้าร่วมกับแอปฯ ถุงเงิน

โดยกรอบระยะเวลาในโครงการ “คนละครึ่ง” พาร์ทเนอร์ร้านค้าของ GrabFood สามารถลงทะเบียนผ่านแอปฯ ถุงเงินได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 เป็นต้นไป และลูกค้าทั่วไป สามารถใช้งานสิทธิ์ “คนละครึ่ง” สั่งอาหารใน GrabFood ได้ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2564

สำหรับร้านค้าใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง สามารถสมัครเปิดใช้งานแอปฯ ถุงเงินได้ผ่านทางเว็ปไซต์ : www.คนละครึ่ง.com

เงื่อนไขของร้านค้า ร้านอาหาร ที่จะเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง”

– ร้านค้าที่จะเข้าร่วมต้องเป็นกิจการประเภท ร้านอาหาร/เครื่องดื่ม/สินค้าทั่วไป ที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย
– ร้านค้าต้องไม่ได้จดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคล
– ร้านค้าต้องไม่เป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจเฟรนไชส์
– เริ่มสมัครผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 เป็นต้นไป
– สามารถเลือกเชื่อมต่อผู้ให้บริการ Food Delivery Platform ที่ร่วมโครงการ ได้เพียงรายเดียวเท่านั้น
– ตรวจสอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการได้ที่: www.คนละครึ่ง.com

ผู้ประกอบการร้านค้าสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.grabmerchantth.com/prep5050campaign21
หรือเฟซบุ๊กกรุ๊ป Facebook ครอบครัวร้านค้า GrabFood
หรือโทรสอบถามได้ที่ Grab Call Center : 02-021-2512

.