ธุรกิจสัตว์เลี้ยงมาแรง คนเอ็นดูเหมือนคนในครอบครัว ปี 2566 ทำรายได้รวม 2 แสนกว่าล้านบาท

อีกหนึ่งธุรกิจที่เป็นกระแสตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคใหม่ที่มาแรง นั่นคือสัตว์เลี้ยง ที่คอยเป็นเพื่อนยามเหงา เป็นเพื่อนเล่น เพื่อนเที่ยว เหล่านี้น้อง ๆ สามารถทำได้หมด จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่จะเป็นโอกาส สร้างการเติบโต ตอบสนองความต้องการของลูกค้า

เมื่อมองในช่วงเวลาที่ผ่านมา ธุรกิจสัตว์เลี้ยง และที่เกี่ยวเนื่องเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยได้รับอิทธิพลจากการยกระดับสัตว์เลี้ยงให้เป็นเพื่อน มีความสำคัญในชีวิต ไม่เพียงเท่านั้น ยังเกิด Petfluencer สัตว์เลี้ยงที่มีผู้ติดตามผ่านสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก โดยมีการสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับสัตว์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างรายได้ให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงแบบเป็นกอบเป็นกำ

นอกจากนี้ แนวโน้ม และรูปแบบการเลี้ยงสัตว์ของคนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเสมือนคนในครอบครัว (Pet Humanization) และการเลี้ยงสัตว์แบบ Petriarchy หรือเหล่าทาสที่พร้อมจะเปย์เจ้านายแบบไม่จำกัด ทำให้เกิดการลงทุนในสุขภาพ และความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงเสมือนคนจริง ๆ และการซื้อของเล่น ของใช้ อาหารแบบพรีเมียมเพื่อตามใจน้อง ๆ ที่เรารัก

 

 

อีกทั้ง ปัจจุบันเกิดเทรนด์ใหม่ คือการนิยมเลี้ยงสัตว์แปลก หรือ Exotic เช่น งู, กิ้งก่า, เต่า, ชูการ์ไรเดอร์ เป็นต้น โดยยอดขายผลิตภัณฑ์ของสัตว์เลี้ยง Exotic Pet เติบโตสูงกว่า 50% ขณะที่ยอดขายผลิตภัณฑ์สำหรับแมวเติบโต 8% และยอดขายผลิตภัณฑ์สำหรับสุนัขเติบโต 6%

จากการวิเคราะห์คนแต่ละ Gen ในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง พบว่า Gen Z นิยมเลี้ยงสุนัขมากที่สุด, Gen Y ต้องการเสริมพลังบวกจากแมว, Gen X นิยมเลี้ยงนกและปลา ขณะที่ Baby Boomer นิยมเลี้ยงสัตว์น้อยที่สุด

 

 

ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ธุรกิจสัตว์เลี้ยงและที่เกี่ยวเนื่องมีจำนวนทั้งสิ้น 5,009 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 98,797.54 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจฟาร์มสัตว์ 1,233 ราย ทุน 11,965.51 ล้านบาท, ธุรกิจอาหาร/ของเล่นสำหรับสัตว์ 2,138 ราย ทุน 80,443.67 ล้านบาท และธุรกิจบริการและดูแลสัตว์ 1,638 ราย ทุน 6,388.36 ล้านบาท

ผลประกอบการการภาพรวม 3 ปีย้อนหลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 มีรายได้รวม 218,714.93 ล้านบาท กำไร 2,963.03 ล้านบาท, ปี 2565 รายได้รวม 244,530.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.81% กำไร 13,656.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 360.89%, ปี 2566 รายได้รวม 258,702.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.80% กำไร 14,989.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.77%

ด้านการลงทุนในธุรกิจสัตว์เลี้ยงและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนชาวไทย 93,464.62 ล้านบาท คิดเป็น 94.60% และนักลงทุนต่างชาติ 5,332.92 ล้านบาท คิดเป็น 5.40% โดยนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สิงคโปร์ 1,646.90 ล้านบาท, ออสเตรเลีย 870.87 ล้านบาท และญี่ปุ่น 728.11 ล้านบาท

ทั้งนี้ ธุรกิจสัตว์เลี้ยงและที่เกี่ยวเนื่องเป็นธุรกิจมาแรงที่เกิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งการดำรงชีวิตที่นิยมเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นสมาชิกของครอบครัว รวมทั้ง การดูแลเอาใจใส่ต่อสัตว์เหล่านั้นมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจมีรายได้รวม และผลกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนสนใจเข้าธุรกิจเพิ่มมากขึ้น เพราะมีโอกาสในการทำกำไรได้ในระยะยาว

ที่มา: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า