AI

เปิด 3 ทักษะสำคัญที่ AI ทำแทนมนุษย์ไม่ได้

ETDA หรือ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เผยข้อมูลจากเวทีเสวนา DGT2024 โดยชี้ให้เห็นว่ามีอยู่ 3 ทักษะสำคัญที่แม้จะมี AI เข้ามาช่วยในการทำงาน แต่ก็ยังทำแทนมนุษย์ไม่ได้

 

 

  1. ทักษะการคิดสร้างสรรค์ จุดแข็งของมนุษย์ที่เทคโนโลยียากจะก้าวตามทัน

แม้เอไอจะสามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากและนำเสนอ ออกแบบ ผลงานต่างๆ ได้ตามคำสั่งที่ป้อน แต่นั่นก็เป็นเพียงผลลัพธ์ที่ถูกพัฒนาต่อยอดจากฐานข้อมูลที่เราป้อนและสอนมันเข้าไป ถ้าในมุมของความถูกต้อง แน่นอน เอไอสามารถตอบโจทย์เราได้ไม่มากก็น้อย แต่หากถามถึงในมุมของความคิดสร้างสรรค์ เชื่อว่า คนทำงาน หรือคนที่เคยใช้งาน เอไอ ทุกคนต่างก็จะตอบเป็นเสียงเดียวกันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก หากจะทำได้ก็ต้องอาศัยการป้อนคำสั่ง หรือ Prompt ซึ่งก็สร้างสรรค์โดยมนุษย์อยู่ดี และหลายๆ องค์กร ต่างก็มักจะมองหาทักษะนี้ จากคนทำงานมากกว่า ผู้ช่วยอย่าง AI เพราะทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ หรือ Creative Thinking เป็นกระบวนการที่มนุษย์ใช้ในการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ และแนวคิดที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งต้องอาศัยความคิดริเริ่มและการมองเห็นโอกาสในสถานการณ์ที่ดูเหมือนไม่มีทางแก้ปัญหา การคิดเชิงสร้างสรรค์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในงานศิลปะหรือการออกแบบเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ การสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ หรือการหาวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อน

 

โดยทักษะนี้ช่วยให้คุณมองเห็นโอกาสจากมุมมองที่แตกต่าง และสร้างความโดดเด่นในการทำงาน และถ้าหากใครมีทักษะ การคิดเชิงวิเคราะห์ หรือ Analytical Thinking ทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ การแยกแยะและตีความข้อมูล เพื่อเข้าใจปัญหาและหาวิธีแก้ไขอย่างมีเหตุผลสามารถตัดสินใจอย่างมีข้อมูลสนับสนุน เข้ามาเพิ่มแล้วล่ะก็ คุณจะมีชัยเหนือกว่า เอไอ และคนทำงานคนอื่นๆ แน่นอน

 

  1. ทักษะการปรับตัวและความยืดหยุ่น หัวใจหลักของคนทำงาน ที่ เอไอ ไม่อาจเทียบ

จากความสามารถในการประมวลผลข้อมูลและการทำงานที่ซับซ้อนได้ในเวลาอันรวดเร็วของเทคโนโลยีเอไอ ในอดีตอาจทำให้หลายคนต่างกังวลว่ากำลังจะทดแทนมนุษย์คนทำงานได้อย่างสมบูรณ์หรือไม่ แต่วันนี้เราเริ่มทราบกันแล้วว่าเอไอ ยังคงมีข้อจำกัดและมีหลายทักษะที่เอไอยังยากที่จะเลียนแบบ

 

หนึ่งในทักษะนั้นก็คือ ทักษะการปรับตัวและความยืดหยุ่น (Resilience, Flexibility, and Agility) ทักษะนี้เป็นคุณสมบัติสำคัญมากๆ ที่ทำให้เราคงเป็นผู้นำในโลกของการทำงานและการใช้ชีวิตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เพราะทักษะนี้จะทำให้เรามีความสามารถในการปรับตัวและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง แม้อยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทายหรือไม่คาดฝันก็ตาม หากเรามีทักษะนี้ก็จะช่วยให้สามารถพัฒนาตนเองและองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องมีใครมาป้อนคำสั่งเหมือนกับเอไอ ที่ถูกกำหนดด้วยโปรแกรมและข้อมูลที่ป้อนเข้าไปเท่านั้นและไม่สามารถปรับตัวได้อย่างอิสระเหมือนกับคน ซึ่งความสามารถในการปรับตัวและยืดหยุ่นไม่เพียงช่วยให้คนทำงานเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อมหรือข้อจำกัดใหม่ได้ แต่ยังทำให้เกิดการเรียนรู้จากความผิดพลาดและปรับปรุงวิธีการแก้ปัญหาใหม่ ๆ อยู่เสมอและคล่องตัว เมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ต้องใช้การตัดสินใจที่ซับซ้อนและมีปัจจัยด้านอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง

 

แน่นอนเราก็ยังคงได้เปรียบเอไอ เพราะการมีทักษะนี้ทำให้เราสามารถรับมือกับความท้าทายที่หลากหลายทั้งในด้านจิตใจและการทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่เอไอไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างแท้จริง

 

  1. ทักษะเอไอ และ Big Data คือทักษะที่คนทำงานต้องมี ใช้ต่อยอดเทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด

จากรายงานของ WEF ออกมาเปิดเผยว่า ทักษะทางเทคโนโลยี AI และ Big Data ถูกจัดเป็นทักษะสำคัญออันดับที่ 3 ในกลยุทธ์การฝึกอบรมของบริษัทต่างๆ ในช่วงปี 2023-2027 โดยเฉพาะในบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 50,000 คน และทักษะด้านเอไอ และ Big Data ยังเป็นทักษะที่ถูกจัดให้สำคัญสูงสุดในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาข้อมูลมหาศาล อย่าง ประกันภัย การจัดการสื่อ บริการสนับสนุนธุรกิจและอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี การมีทักษะในการทำงานร่วมกับ AI และ Big Data ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลือก แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่คนทำงานต้องมี

 

หากคุณต้องการก้าวหน้าในสายงานหรือทำให้องค์กรของคุณเติบโต ทักษะเหล่านี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการต่อยอดและทำให้ใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด เพื่อให้ธุรกิจปรับตัวได้อย่างรวดเร็วท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล แล้วทำไมทักษะนี้ถึงสำคัญสำหรับคนทำงานในวันนี้และในอนาคต? ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเลย ทักษะด้านเอไอ และ Big Data ที่ไม่ใช่แค่การเขียนโปรแกรม จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน เพราะทักษะนี้จะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และสังเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจ

 

หากเราทำงานในด้านการตลาดแล้วละก็ เรียกว่าสามารถใช้ Big Data เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า ในด้านการผลิต และใช้เครื่องมือเอไอ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และในทุกสายงาน การเข้าใจ เอไอ และ Big Data จะช่วยให้สามารถสร้างสรรค์วิธีการทำงานที่ทันสมัยและแม่นยำได้ดีขึ้นด้วย ที่สำคัญ การเข้าใจ เอไอ และ Big Data จะช่วยให้เราไม่เพียงแค่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยในการวางกลยุทธ์ให้กับองค์กรแม่นยำและมีประสิทธิผลมากขึ้นด้วย การมีทักษะด้านเอไอ และ Big Data ไม่เพียงแต่ทำให้คนทำงานมีบทบาทสำคัญในทีม แต่ยังเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาตนเองและองค์กร เรียกว่าคนทำงานอย่างเราๆ อย่าปล่อยให้เทคโนโลยีก้าวนำหน้า ใช้โอกาสนี้ในการฝึกฝนทักษะเอไอ และ Big Data นำเทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนความสำเร็จไปอีกขั้น