สินค้า

เปิด 10 เทรนด์ สินค้าอาหารและเครื่องดื่มในสหรัฐฯ ปี 2568

ในแต่ละปีผู้ประกอบการค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาต่างพยายามศึกษาข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาด เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อพยากรณ์แนวโน้มสินค้าที่น่าจะเป็นที่สนใจและนิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวอเมริกันในอนาคต เช่นเดียวกันกับบริษัท Fresh Thyme Market ผู้ประกอบการค้าปลีก อุปโภคบริโภคระดับพรีเมียมเน้นจากธรรมชาติ (Natural Products) และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้นกว่า 70 แห่ง กระจายตัวใน 10 รัฐในเขตตะวันตกตอนกลางของสหรัฐฯ ซึ่งได้ศึกษาข้อมูลทางการตลาดร่วมกับบริษัท SPINS ผู้วิจัยทางการตลาดเพื่อพยากรณ์แนวโน้มอาหารที่น่าจะได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวอเมริกันในปี 2568

 

 

โดยสามารถรวบรวมแนวโน้มสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่น่าจะได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวอเมริกันในปี 2568 ได้ทั้งสิ้น 10  เทรนด์ ดังนี้

 

  1. วัตถุดิบให้อรรถประโยชน์ (Functional Ingredients) ปัจจุบัน ผู้บริโภคชาวอเมริกันในตลาดสนใจเลือกซื้ออาหารที่ใช้วัตถุดิบที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน แต่ยังคงให้ความสำคัญกับวัตถุดิบการผลิตที่ให้อรรถประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น สารโคลอสตรัม (Colostrum) ของเหลวที่ได้จากน้ำนมสัตว์หลังคลอดลูกเพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และสารโพรไบโอติกส์ (Probiotics) จุลินทรีย์ชนิดดีเพื่อส่งเสริมระบบทางเดินอาหารและการย่อยอาหารของผู้บริโภค เป็นต้น

 

ตัวอย่าง อาหารเสริมโคลอสตรัม (Symbiotics Colostrum Plus) โยเกิร์ตเสริมโพรไบโอติกส์จากนมมะพร้าว (Coconut Cult : Probiotic Coconut Yogurt) น้ำหมักเลมอน (Pure Memory Water) และ น้ำอัดลมเสริมอรรถประโยชน์ (Heywell: Functional Sparkling Water) เป็นต้น

 

  1. สินค้าจากเห็ด (Evolution of Mushroom) เห็ดหลายประเภท เช่น เห็ดหลินจือไซบีเรียน (Chaga Mushroom) เห็ดหัวลิง (Lion’s Mane Mushroom) และเห็ดหางไก่งวง (Turkey Tail Mushroom) ให้อรรถประโยชน์ช่วยลดความเครียดแล้วยังช่วยลดการอักเสบ ช่วยลดความเหนื่อยล้า และช่วยส่งเสริมการนอนหลับในกลุ่มผู้บริโภค จึงน่าจะได้รับความนิยมในตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอาหาร เช่น เส้นพาสต้า น้ำซุป และกาแฟสำเร็จรูป เป็นต้น

 

ตัวอย่าง น้ำซุปสำเร็จรูปผสมเห็ด (Kettle & Fire Mushroom & Chicken Bone Broth) กาแฟผสมเห็ดสำเร็จรูป (Om Mushroom Coffee Blend) เป็นต้น

 

  1. เครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ (Rise of Non-Alcoholic, Mood-Enhancing Beverages) เครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้นในปัจจุบัน เช่น เครื่องดื่มจากคาวา (Kava) ซึ่งมีสารแมกนีเซียมที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีอารมณ์ดี และเครื่องดื่มผสม สารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในตลาดปัจจุบัน

 

ตัวอย่าง เครื่องดื่มช่วยส่งเสริมอารมณ์ (Recess Mood), เครื่องดื่มเสริมพรีไบโอติกส์ (Kin Euphorics) และเบียร์ปราศจากแอลกอฮอล์ (Athletic Brewing Co. Non-alcoholic Hazy Ipa) เป็นต้น

 

  1. อาหารรสเผ็ด (Spicy Foods Takeover) ผู้บริโภคในตลาดสนใจเลือกซื้ออาหารรสชาติแปลกใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรสเผ็ดจากพริกต่างๆ เช่น พริกปีศาจ (Ghost Chilies) พริกชิเลเดอาร์โบล (Chillis De Arbol) และ พริกฆาลาเปญโญ (Jalapenos) รวมถึงกลุ่มซอสพริกใหม่ๆ ที่น่าสนใจด้วย

 

ตัวอย่าง ซอสพริก (Lola’s Hot Sauce และ STL Pure Heat) และพริกปีศาจแห้ง (That’s Tasty Dried Ghost Chiles) เป็นต้น

 

  1. สินค้ารสมะม่วง (Mango-Everything and Everywhere!) ความนิยมรสชาติผลไม้เมืองร้อนโดยเฉพาะมะม่วงในกลุ่มผู้บริโภคชาวอเมริกันขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่กลุ่มเครื่องดื่มไปจนถึงกลุ่มขนมขบเคี้ยว โดยปัจจัยสนับสนุนส่วนหนึ่งมาจากสารอาหารในมะม่วงซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซีที่มีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย อีกทั้ง ยังมีรสชาติหวานหอมอร่อยถูกปากผู้บริโภคด้วย

 

ตัวอย่าง เครื่องดื่มชูกำลังจากมะม่วง (So Good So You Energy) และชาคอมบูชาเพิ่มพลังงานรสมะม่วง (Synergy Raw Mystic Mango Kombucha) เป็นต้น

 

  1. สินค้าจากสารให้ความหวานจากธรรมชาติ (Nature’s Natural Sweeteners) ผู้บริโภคมีพฤติกรรมลดการบริโภคสารให้ความหวานจากน้ำตาลขัดสีและหันไปเลือกบริโภคสารให้ความหวานจากธรรมชาติมากขึ้นในปีหน้า เช่น น้ำผึ้ง น้ำเชื่อมเมเปิล (Maple Syrup) และอินทผลัม (Dates) เป็นต้น

 

ตัวอย่าง น้ำเชื่อมเมเปิล (Fresh Thyme Organic Maple Syrup) ช๊อคโกแลต สอดไส้เนยถั่วผสมอินทผลัม (Realsy Peanut Butter Cacao Dates) และกัมมีจากน้ำผึ้ง (Rebel Bee) เป็นต้น

 

  1. สินค้ากระตุ้นการทำงานของสมอง (Boosting Brain Power) อาหารและเครื่องดื่มที่ช่วยบำรุงระบบการคิดวิเคราะห์ตัดสินใจ (Cognitive Function) ยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในตลาด เช่น แปะก๊วย (Ginkgo Biloba) แมกนีเซียม และกาบา (Gamma-Aminobutyric Acid หรือ GABA) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทและช่วยผ่อนคลายเสริมสมาธิ

 

ตัวอย่าง ขนมขบเคี้ยวเสริมสมาธิ (Pym Attention Chews) และอาหารเสริมแมกนีเซียม (Jarrow Formulas Magmind Dietary Supplement) เป็นต้น

 

  1. อาหารเกาหลี (We’re heading to Seoul) ความนิยมบริโภคอาหารเกาหลีในตลาดปัจจุบันจะช่วยผลักดันให้ความต้องการบริโภครสชาติเกาหลี เช่น ซอสพริก Gochujan และกิมจิ ขยายตัวมากขึ้น

 

ตัวอย่าง ซอสพริก Gochujan (Ofood Gochujiang Korn Spicy Miso Sauce) และกิมจิ (Cleveland Kitchen Classic Kimchi) เป็นต้น

 

  1. สินค้าเพื่อความยั่งยืน (Next-Gen Sustainability) ธัญพืช ผัก และผลไม้ที่เป็นผลผลิตจากกรรมวิธีการเพาะปลูกแบบควบคุมสภาพแวดล้อม (Controlled Environment Agriculture หรือ CEA) ซึ่งมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในปีหน้า อีกทั้ง ยังน่าจะขยายตัวไปสู่กลุ่มของใช้ส่วนตัวรายการอื่นด้วย เช่น ยาสระผม และกระดาษเช็ดทำความสะอาด

 

ตัวอย่าง ขนมขบเคี้ยวจากธัญพืช (Purely Elizabeth Original Ancient Grain Granola) แชมพูก้อนเพื่อสิ่งแวดล้อม (Brixy Shampoo Bar Citrus) และกระดาษเช็ดทำความสะอาดจากเยื่อไผ่ (Bim Bam Boo 100% Bamboo Kitchen Towels) เป็นต้น

 

  1. สินค้าให้โปรตีน (Prioritizing Protein) นอกจากแหล่งโปรตีนจากเนื้อสัตว์และอาหารทะเลแล้ว ผู้บริโภคยังมีแนวโน้มที่จะหันไปเลือกบริโภคโปรตีนจากแหล่งอื่นด้วย เช่น ซีเรียล ข้าวโอ๊ต พาสต้า ซอสพาสตา และชีส เป็นต้น

 

ตัวอย่าง เส้นพาสต้าจากถั่วลูกไก่ (Chickpea Penne Pasta) ข้าวโอ๊ตเสริมโปรตีน (Seven Sundays Wildberry Protein Oats) และเนื้อไก่งวงผสมชีส (Mighty Spark All Natural Queso Fresco & Jalapeno Turkey Patties) เป็นต้น

 

ข้อมูลจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก

เรื่องที่เกี่ยวข้อง