Smart SME

Stitch Fix
Brand

Stitch Fix แบรนด์สไตล์ลิสต์ ใช้ AI วิเคราะห์ความชอบลูกค้า แต่งตัวออกมาให้ดีขึ้น

เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ถือว่าเป็นอีกจุดสำคัญที่สร้างแรงดึงดูดให้ผู้คนมอง ดึงดูดให้คนเข้าหา เพราะเป็นสิ่งแรกที่คนเห็น แต่หลายคนอาจมีความสับสนว่าตัวเองจะต้องแต่งตัวสไตล์แบบไหนถึงจะเข้ากับบุคลิกที่เป็นอยู่ แน่นอนว่าหากแต่งตัวออกมาดูดีย่อมสร้างความเชื่อมั่น ความมั่นใจไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม

 

Stitch Fix แบรนด์ธุรกิจแวดวงเสื้อผ้า แต่ไม่ได้ผลิตเสื้อผ้า แต่คือตัวช่วยสไตล์สิสต์ที่จะทำให้คุณรู้ตัวว่าต้องแต่งตัวแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับตัวเอง ซึ่งจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับคนที่ไม่รู้จะแต่งตัวแบบไหนหมดข้อข้องใจไป ด้วย Painpoint จุดนี้ทำให้บริษัทมองหาโอกาสที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ โดยการนำเทคโนโลยี AI มาวิเคราะห์ข้อมูลจากลูกค้าออกมาเป็นผลลัพธ์ออกแบบการแต่งกายในที่สุด

 

 

รูปแบบโมเดลธุรกิจจะมาการรวบรวมแบรนด์เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับไว้ โดยคนที่เข้ามาใช้บริการเพียงแค่ใส่ข้อมูลส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็น สัดส่วนรูปร่าง, อายุ, รสนิยม/แบรนด์ที่ชื่นชอบ, งบประมาณ ลงบนเว็บไซต์ หลังจากนั้นเทคโนโลยี AI จะเข้ามาวิเคราะห์ ร่วมกับสไตล์ลิสต์ออกมาเป็นผลลัพธ์ว่าลูกค้าเหมาะกับแต่งตัวอย่างไร  และลูกค้าสามารถไปเลือกสินค้าหลากหลายที่อยู่บนแพลตฟอร์ม

 

บริการนี้ของบริษัทได้รับความนิยมของลูกค้าสายแฟชั่นเป็นอย่างมาก โดยแก้ไขปัญหาในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งให้คำตอบเรื่องสไตล์การแต่งตัว, ตอบโจทย์คนไม่มีเวลาไปซื้อเสื้อผ้า, แก้ไขปัญหาการไม่ได้ลองสวมใส่สินค้าจริง เหล่านี้ทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก จนสินค้าที่อยู่ในแพลตฟอร์มขายหมด

 

ระบบเทคโนโลยีแบบจำลองการสร้างชุดซึ่งทำหน้าที่เป็นสไตล์ลิสต์มีชื่อเรียกว่า Outfit Creation Model (OCM) โดยใช้ Generative AI สร้างชุดแต่งกายใหม่ ๆ ได้นับล้านชุดต่อวัน เหล่านี้ได้รับการเก็บข้อมูลมาจากดีไซเนอร์นักออกแบบจำนวนมากกว่าหลายพันคน นำมาสู่การเลือกซื้อแบรนด์สินค้าที่มีอยู่ในคงคลัง อีกทั้ง ระบบยังเก็บข้อมูลประมวลผลจากการซื้อของลูกค้าก่อนหน้านี้ เพื่อแนะนำสไตล์การแต่งตัวของลูกค้า

 

 

แน่นอนว่า ธุรกิจของ Stitch Fix ยังคงเดินหน้าใช้ Data และ AI มาใช้งานมากขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น โดย StyleFile ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI รุ่นล่าสุดของบริษัท ซึ่งมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงบริการของบริษัทที่เป็นปัญหายืดเยื้อมาอย่างยาวนาน

สำหรับ StyleFile จะเป็นโปร์ไฟล์สไตล์ส่วนบุคคลของลูกค้าแต่ละรายตามความชอบ และพฤติกรรมการซื้อของพวกเขา โดยเมื่อเข้าร่วมลูกค้าจะต้องกรอกแบบสำรวจเพื่อกำหนดสไตล์ของตนเอง ซึ่งมีหลากหลายหัวข้อ และอาจรวมถึงสไตล์การแต่งตัว เช่น โบฮีเมียน เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกประมวลผลเป็นคำแนะนำสินค้าออกมาให้ตรงกับรสนิยมของลูกค้าแต่ละราย

 

เป้าหมายของบริษัทที่แท้จริงคือการใช้เครื่องมือ AI มุ่งเน้นไปที่การสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า สร้างความเข้าใจ พร้อมหาคำตอบเรื่องการแต่งกายของพวกเขา สร้างความสะดวกสบาย และบริการที่แตกต่าง เป็นตัวกลางที่คอยให้ความช่วยเหลือ แบบที่ไม่จำเป็นต้องผลิตสินค้า หรือเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าเอง

ที่มา: forbes, glossy

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

Brand, Business

Related Posts

ฮารุนะ

“ฮารุนะ ผงผักพรีไบโอติก” เฮลท์เทคไทย พัฒนาช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้ 98%

อย่างที่รู้กันว่าเทรนด์ฟังก์ชั่นนัล ฟูดส์ เช่น พรีไบโอติก กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั่วโลก เนื่องจากช่วยลดอาการท้องผูกท้องเสีย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยควบคุมอารมณ์และสมอง และควบคุมน้ำหนัก SME มากมายจึงปรับตัวรับโอกาสกับเทรนด์ที่มาแรงนี้   หนึ่งในนั้นคือ ผลิตภัณฑ์ฮารุนะคิดค้นโดย บริษัท วีทีเค อินโน กรุ๊ป จำกัด Health Tech Startup ของไทย ซึ่งเป็นผงผักพรีไบโอติก ที่ทำมาจากธรรมชาติ 100% โดยใช้นวัตกรรมแป้งทนย่อย (Resistant Starch) ทำให้แป้งสามารถทนทานต่อกรดในกระเพาะ และการดูดซึมในลำไส้เล็ก จึงกลายเป็นอาหารให้จุลินทรีย์สายพันธุ์สำคัญในลำไส้ถึง 9 กลุ่ม ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่สร้างโพรไบโอติก ทำให้จุลินทรีย์เจริญเติบโตได้แบบทวีคูณ ส่งผลต่อการสร้างกรดไขมันห่วงโซ่สั้น หรือโพสไบโอติก ช่วยสร้างสมดุลในลำไส้ ทำให้ลำไส้แข็งแรง ระบบการขับถ่ายดีขึ้น สามารถแก้ปัญหาท้องผูกได้ถึง 98.4%     แบรนด์ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจาก NIA ในโครงการ Open Innovation และเข้าประกวดโครงการนิลมังกร The Reality จนได้เข้ารอบ […]

Giant Eagle

Giant Eagle ซูเปอร์มาร์เก็ต สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าสนุกกับการช้อปปิ้งเหมือนเล่นเกม

“เกม” กับ “ธุรกิจ” สามารถนำมาเชื่อมโยงเข้าหากันได้ หากใครเคยเล่นเกมเกี่ยวกับการทำธุรกิจบริหารร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ จะรับรู้ได้ว่ามีความน่าสนุกอยู่ไม่ใช่น้อยกับความท้าทายต่าง ๆ ที่ต้องทำเป้าหมายให้สำเร็จ แน่นอนว่าทั้งสองสิ่งนี้ถูกนำมาปรับใช้กับร้านซูเปอร์มาร์เก็ตที่ชื่อว่า Giant Eagle   GiantEagle เป็นร้านซูเปอร์มาร์เก็ตระดับภูมิภาคที่ให้บริการมากกว่า 470 สาขา ในสหรัฐฯ โดยนอกเหนือจากบริการส่งมอบอาหารคุณภาพสูง และคุ้มค่าให้กับลูกค้า ก็ยังมีรูปแบบการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า Gamification ที่นำกลไก และองค์ประกอบของเกมมาปรับใช้กับธุรกิจร้านซูเปอร์มาร์เก็ตสร้างความน่าสนใจให้กับลูกค้า กระตุ้นการซื้อสินค้า หรือบริการเพิ่มมากขึ้น     ร้านสะดวกซื้อรายนี้จะนำวิธี Gamification มาสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าเดินซื้อของเหมือนว่าอยู่ในเกมๆ หนึ่ง มีภารกิจที่ต้องทำ หากทำสำเร็จก็จะได้รับเป็นรางวัล หรือแต้มสะสมผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งลูกค้าประจำกับลูกค้าหน้าใหม่ก็จะมีภารกิจที่แตกต่างกันออกไป   นอกจากนี้ ร้านซูเปอร์มาร์เก็ตรายนี้ ยังจัดโปรโมชันพิเศษอีกมากมาย เพื่อดึงดูดลูกค้า เช่น การเติมน้ำมันฟรีให้กับลูกค้า รวมถึงมีดีลพิเศษ ๆ ออกมาเสมอ แน่นอนว่ากลยุทธ์กลายเป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าต้องกลับมาซื้อสินค้าที่ร้านอยู่เสมอ เพื่อติดตามโปรโมชันสำคัญที่พลาดไม่ได้   แน่นอนว่ากลยุทธ์ “Gamification Marketing” เป็นวิธีการทำการตลาดที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมในยุคดิจิทัลที่นำเสน่ห์ของการเล่นเกมมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง นอกจากความสนุกที่ลูกค้าจะได้รับแล้ว ในทางของการทำธุรกิจยังสามารถเพิ่มยอดขาย […]

ARM BOOSTER

“ARM BOOSTER” นวัตกรรมลดความพิการของคนไทย ราคาถูกกว่าต่างประเทศถึง 10 เท่า

อีกไม่เกิน 10 ปี ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย หรือมีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นกว่า 28% ของประชากรทั้งหมด ทำให้มีสตาร์ทอัพไทยมากมายมุ่งมั่นพัฒนา HealthTech หรือเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ   สำหรับ “ARM BOOSTER” คืออุปกรณ์ฝึกการทำงานของแขนแบบฝึกแขนสองข้าง ผ่านกลไกสะท้อนแบบสมมาตร สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผลงานจากทีมวิจัยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ภายใต้การดูแลโดย ผศ. ดร.บรรยงค์ รุ่งเรืองด้วยบุญ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านการออกแบบ และพัฒนาต้นแบบทางวิศวกรรมอย่างสร้างสรรค์     การพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ดังกล่าว มีที่มาจากผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุที่เกิดขึ้นปีละกว่า 2.5 แสนราย และกว่า 70% มีความพิการหลงเหลืออยู่ ทำให้ต้องได้รับการกายภาพบำบัดฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน และขณะเดียวกัน ผู้ป่วยยังไม่สามารถเข้าถึงนวัตกรรมการฟื้นฟูและการกายภาพบำบัดที่มีประสิทธิภาพได้อย่างทั่วถึง เพราะต้องนำเข้านวัตกรรมจากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาสูงถึงเครื่องละ 3-4 ล้านบาท ซึ่งแพลตฟอร์มจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ โดยหลักการทำงานจะใช้แขนข้างที่ดีไปออกกำลังแขนข้างที่ไม่ดี ผ่านกลไกการออกแบบที่ช่วยให้แขนของผู้ใช้งานสามารถขยับได้หลากหลายทิศทาง ทั้งการยืดแขนไปด้านหน้า (Y-Direction) ยกแขนด้านบน (Z-Direction) และกางแขนด้านข้าง (X-Direction) รวมถึงการติดตั้งระบบเกมเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสนุกไปกับการใช้อุปกรณ์ได้นานขึ้น     นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังมีระบบเซนเซอร์บริเวณมือจับทั้งสองข้างเพื่อรับแรงจากแขนทั้งสองข้าง […]