ธุรกิจยูเครน

ลี้ภัยสงคราม! ธุรกิจยูเครนรุกหนักตลาดยุโรป เปลี่ยนเป้าหมายจากคนชาติเดียวเป็นคนท้องถิ่น

ความไม่สงบระหว่างรัสเซียที่เข้าไปรุกรานทำให้ธุรกิจยูเครน และผู้คนต้องอพยพย้ายถิ่นฐานเพื่อความปลอดภัย ด้วยระยะเวลาที่ผ่านมาส่งผลให้ธุรกิจที่เข้ามาตั้งกิจการในยุโรปกลางกำลังเปลี่ยนเป้าหมายจากลูกค้าผู้ลี้ภัยเป็นลูกค้าท้องถิ่น หลังจากธุรกิจเหล่านี้เริ่มมั่นคงมากขึ้น หวังขยายไปทางทิศตะวันตก

แม้สภาวะสงครามทำให้ธุรกิจที่มาจากประเทศยูเครนผุดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน โดยในระยะแรกมุ่งเป้าไปที่เพื่อร่วมชาติที่ต้องอพยพถิ่นฐานมีความต้องการอาหาร เครื่องดื่ม และบริการ

สำหรับในโปแลนด์ มีชาวยูเครนย้ายถิ่นฐานเข้ามามากกว่า 1.5 ล้านคน โดยตามรายงานของสมาคมธุรกิจและนักเศรษฐศาสตร์โปแลนด์ ระบุว่าชาวยูเครนเปิดธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องในปี 2024 ตัวอย่างแบรนด์ Lviv Croissants ที่มี 12 สาขาในโปแลนด์ หลังเปิดกิจการมาเมื่อ 2 ปีก่อน และบริษัทได้เปิดสาขาแรกในสาธารณรัฐเช็กเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นกลยุทธ์การสร้างธุรกิจที่มีความหลากหลายในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ไปทางตะวันตก และไกลออกไปกว่านั้นจากกลุ่มคนต่างแดน

Andrii Halytskyi เจ้าของแบรนด์ Lviv Croissants ร้านเบเกอรี่ บอกว่าแม้ว่าชุมชนผู้ลี้ภัยชาวยูเครนจะมีความสำคัญในยุโรป แต่การพึ่งพากลุ่มผู้บริโภคเพียงกลุ่มเดียวไม่ถือว่ากลยุทธ์ที่ยั่งยืนในระยะยาว โดยความคล้ายคลึงทางด้านวัฒนธรรมของยูเครนช่วยทำให้โปแลนด์กลายเป็นฐานที่มั่นของธุรกิจยูเครน

 

 

สอดคล้อง Andriy Khudo ผู้ก่อตั้งบาร์ Piana Vyshnia ที่ชูจุดเด่นสุราแบบยูเครน มองว่ากลุ่มลูกค้าในท้องถิ่นคือเป้าหมายหลัก เช่นเดียวกับกลุ่มร้านอาหาร !FEST ได้ขยายแบรนด์ Drunken Cherry (ชื่อภาษาอังกฤษ) จนมีสาขาทั้งหมด 15 แห่งในโปแลนด์ และอีก 9 แห่งในประเทศบอลติก และยุโรปตะวันออก รวมถึงเพิ่มการขยายไปทางตะวันตกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทมีแผนที่จะเปิดบริการในเยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์ และฝรั่งเศส ในปี 2025 ตลอดจนในลอนดอน

ด้าน Dariusz Szymczycha รองประธานหอการค้าโปแลนด์-ยูเครน เผยว่าบริษัทต่าง ๆ มองโปแลนด์เป็นสะพานข้ามไปยังตลาดสหภาพยุโรป โดยพวกเขามีความอยากเรียนรู้ กฎระเบียบ และกฎเกณฑ์ในการดำเนินงานในสหภาพยุโรป
เศรษฐกิจยูเครนตอนนี้เป็นอย่างไร

แม้ว่าเศรษฐกิจยูเครนจะเติบโตในปี 2023 และมีแนวโน้มขยายตัวในปี 2024 โดย Yulia Svyrydenko รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters ว่าพื้นที่เศรษฐกิจยังคงมีขนาดเพียง 78% เท่านั้น ก่อนที่รัสเซียจะบุกโจมตีอย่างเต็มรูปแบบในเดือย ก.พ.2022

เมื่อความขัดแย้งไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ จึงทำให้ธุรกิจ เช่น Khudo’s หันไปมองพื้นที่ประเทศใกล้เคียงเพื่อหาจุดเปลี่ยน อีกทั้งความตึงเครียดในตลาดแรงงานก็คลี่คลายจากการมาของแรงงานชาวยูเครน โดยตามรายงานของ Deloitte ในเดือน มี.ค.2024 คาดการณ์ว่าผู้ลี้ภัยจากยูเครนจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.1% ของ GDP โปแลนด์ในปี 2023 และเพิ่มขึ้นถึง 1.35% ในระยะยาว

Andrzej Kubisiak รองผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐกิจโปแลนด์ กล่าวว่าเมื่อพวกเขามาถึงโปแลนด์ ไม่ว่าจะมาทำงาน หรือทำธุรกิจ นี่เป็นสิ่งกระตุ้นเพิ่มเติมจากมุมมองทางเศรษฐกิจสำหรับผู้บริโภค และช่วยปรับปรุงการจัดหาแรงงาน

ด้าน Olga Kopylova เจ้าของร้านอาหารชาวยูเครน บอกว่าเธอไม่มีแผนมาก่อนว่าจะนำแบรนด์ Chornomorka ไปต่างประเทศ แต่ปัจจุบันธุรกิจมีสาขา 3 แห่ง โดยใช้ชื่อว่า Czarnomorka ในโปแลนด์ และอีก 2 แห่งในบราติสลาวา และเวียนนา

นอกจากนี้ Aroma Kava เชนร้านกาแฟได้ย้ายมาโปแลนด์ในปี 2022 และขยายสาขาไป 10 แห่ง

 

 

อาจจะสรุปได้ว่า ความไม่สงบของสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบให้ธุรกิจ รวมถึงผู้คนชาวยูเครนได้โยกย้ายไปยังประเทศใกล้เคียงอย่างโปแลนด์ ซึ่งมีวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน จึงทำให้หลายแบรนด์ได้รับความนิยมจากคนชาติเดียวกัน และเมื่อธุรกิจเริ่มมั่นคง อยู่ตัว จึงกลายเป็นโอกาสของธุรกิจที่จะไม่ใช่แค่มองกลุ่มลูกค้าเดิม แต่เปลี่ยนเป็นลูกค้าท้องถิ่น พร้อมทั้งมองหาตลาดใหม่ ๆ ในสหภาพยุโรปที่เป็นความท้าทายของแบรนด์

ที่มา: reuters

เรืื่องที่เกี่ยวข้อง