Liang Wenfeng ผู้ก่อตั้ง DeepSeek เป็นใคร นี่คือเส้นทางความสำเร็จที่ต้องเหลียวมอง

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา DeepSeek กลายเป็นแอป AI สัญชาติจีน ที่มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 บน AppStore สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการเทคโนโลยีระดับโลกจนเป็นที่ถูกพูดถึงว่าพวกเขาเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงเขย่าบัลลังก์ได้อย่างรวดเร็วเพียงนี้

DeepSeek เป็นแอปแชทบอทที่ชูจุดเด่นในเรื่องของการใช้งานที่คล้ายกับ ChatGPT ของ OpenAI หรือจะเป็น Gemini ของ Google ที่สำคัญไปมากกว่านั้น นี่คือโมเดลธุรกิจที่ใช้ต้นทุนค่อนข้างต่ำ ไม่ว่าจะเป็น ชิปประมวลผลที่ใช้ของ Huawei Ascend 910, ใช้ Alibaba Cloud เป็นศูนย์ข้อมูล รวมถึงค่าจ้างวิศวกร นักวิจัย นักพัฒนาระบบ ที่มีค่าจ้างต่ำกว่าพื้นที่ในซิลิคอนวัลเลย์ และยังมีทุนสนับสนุนจากภาครัฐจีนอีกด้วย

แน่นอนว่าผู้อยู่เบื้องหลังความสั่นสะเทือนวงการในครั้งนี้คงหนีไม่พ้น Liang Wenfeng ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ DeepSeek ที่ก้าวมาเป็นบุคคลโดดเด่น ณ เวลานี้

Liang Wenfeng เกิดในปี 1980 ที่เมืองเล็ก ๆ ในมณฑลกวางตุ้ง ของประเทศจีน ด้วยความเป็นเลิศทางวิชาการทำให้ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน โดยเจ้าตัวจบการศึกษาระดับปริญญาตรี และปริญญาโทที่นี่

ในปี 2015 Wenfeng ได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง High-Flyer กับเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย โดยกองทุนนี้จะใช้คณิตศาสตร์ และปัญญาประดิษฐ์สร้างกลยุทธ์ในการลงทุน ซึ่งตามข้อมูลเว็บไซต์ในปี 2019 มีสินทรัพย์มูลค่ามากกว่า 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

 

 

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Wenfeng ที่เปลี่ยนจากการเงินไปสู่ AI เกิดขึ้นในช่วงที่เขายังทำงานอยู่ที่ High-Flyer โดยในปี 2021 เริ่มซื้อ GPU จาก Nvidia เพื่อสร้างคลัสเตอร์ชิปขนาดใหญ่ 10,000 ตัว สำหรับฝึกอบรมโมเดล AI จากไอเดียความทะเยอทะยานตรงนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นกลายมาเป็น DeepSeek ในเวลาต่อมา

เดือนพฤษภาคม 2023 Wenfeng ประกาศเปิดตัว DeepSeek เป็นสาขาย่อยของ High-Flyer โดยได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วจากการเปิดตัวโมเดล V3 ในช่วงปลายปี 2024 อีกทั้งในเอกสารเผยแพร่เมื่อเดือนธันวาคม บริษัทเปิดเผยว่ามีการฝึกเทรนโมเดลผ่านการใช้ชิป Nvidia H800 จำนวน 2,000 ตัว ด้วยต้นทุนต่ำกว่า 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของต้นทุนคู่แข่งที่ต้องจ่าย

 

 

เมื่อเดือนมกราคม 2025 บริษัทกลับมาเป็นข่าวอีกครั้งกับการเปิดตัวรุ่น R1 เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ ความมีชื่อเสียงในฐานะผู้ริเริ่มนวัตกรรม AI มากยิ่งขึ้น ด้วยความสามารถ และประสิทธิภาพของโมเดลดังกล่าวทำให้เกิดการพูดถึงในวงกว้างว่าบริษัทเทคโนโลยีจากจีนจะเข้ามามีบทบาทกับภาคส่วน AI มากยิ่งขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ก็ได้พูดถึง DeepSeek เหมือนกัน โดยโพสต์ข้อความผ่าน X ว่า R1 เป็นโมเดลที่น่าประทับใจ สามารถส่งมอบได้ในราคาที่เหมาะสม เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุน และเป็นเรื่องที่ดีทำให้เกิดการแข่งขัน

การมาของ DeepSeek จึงสะท้อนให้เห็นถึงโมเดลธุรกิจขนาดเล็กที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก และทำให้แบรนด์ที่เป็นคู่แข่งต้องพัฒนาออกบริการใหม่เพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้

ที่มา: financialexpress, reuters

เรื่องที่เกี่ยวข้อง