ขนมหวาน

EZY Sweet by คุณเก๋ขนมหวาน เปิดกลยุทธ์พลิกโฉมตลาดขนมไทยใน 7-Eleven ตั้งเป้าสู่แบรนด์พันล้านภายใน 3 ปี

ขนมไทยพร้อมทานแบรนด์ EZY Sweet ผู้นำตลาดใน 7-Eleven มุ่งผลักดัน Soft Power ไทยสู่เวทีโลก พร้อมรับมือเศรษฐกิจผันผวนด้วยนวัตกรรมและการเติบโตแบบยั่งยืน

บริษัท คุณเก๋ขนมหวาน จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายขนมไทยพร้อมทานภายใต้แบรนด์ “EZY Sweet” เผยแผนธุรกิจปี 2568 ด้วยการผลักดันขนมไทยสู่การเป็นแบรนด์พันล้าน ภายหลังประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำตลาดขนมไทยใน Modern Trade โดยเฉพาะใน 7-Eleven ที่มีจุดจำหน่ายครอบคลุมทุกสาขาทั่วประเทศ

ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตสูงถึง 120,000 ชิ้นต่อวัน หรือกว่า 100 ล้านชิ้นต่อปี สร้างยอดขายเฉลี่ย 40 ล้านบาทต่อเดือน รวมเป็นมูลค่ากว่า 380 ล้านบาทในปี 2567 และตั้งเป้าเติบโตแบบก้าวกระโดดเป็น 600 ล้านบาทในปี 2568 ก่อนเตรียมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในปี 2570

 

จากร้านเล็กสู่โรงงานมาตรฐานสากล

จุดเริ่มต้นของธุรกิจมาจากร้านวุ้นขนาดเล็กหลังร้านขายยาที่ก่อตั้งในปี 2540 ภายใต้ชื่อ “วุ้นคุณเก๋” ตามชื่อของพี่สาวคนโต ก่อนจะพลิกโฉมครั้งสำคัญเมื่อได้ออกบูธในงาน Thaifex ปี 2549 ซึ่งนำไปสู่การวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อนใน 7-Eleven เป็นครั้งแรกในปี 2551

คุณมนสวรรณ ศรัณย์เวชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คุณเก๋ขนมหวาน จำกัด เปิดเผยว่า “ขนมไทยไม่ใช่แค่ของหวาน แต่คือมรดกทางวัฒนธรรมที่เราภาคภูมิใจและพร้อมส่งต่อให้ทั่วโลกได้ลิ้มลอง แบรนด์จึงเดินหน้าผลักดันขนมไทยให้เป็นมากกว่าของกินเล่น เรามุ่งมั่นเป็นผู้นำตลาดขนมไทยพร้อมทานอันดับหนึ่งใน 7-Eleven ด้วยยอดจำหน่ายเกือบ 400 ล้านบาท และปริมาณการผลิตมากกว่า 100 ล้านชิ้นต่อปี”

กลยุทธ์การเติบโตสู่ตลาดโลก

ด้วยเป้าหมายทางธุรกิจที่ท้าทาย บริษัทได้กำหนดแผนกลยุทธ์สำคัญ 4 ประการ ได้แก่

  1. Product Innovation: สร้างสรรค์ขนมไทยรูปแบบใหม่ที่ผสานรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ โดยสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง 3-4 SKU ต่อเดือน เช่น ขนมไทยเพื่อสุขภาพ และขนมไทย Functional Food
  2. Multi-Channel Distribution: ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุมทั้ง Modern Trade และ E-Commerce บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง TikTok Shop เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ รวมถึงกลุ่ม Horeca (โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่)
  3. Brand Marketing: ปรับกลยุทธ์การตลาดเจาะกลุ่ม Gen Z มากขึ้น จากเดิมที่มีฐานลูกค้าหลักเป็น Gen X และ Gen Y ผ่านการใช้ Influencer และแคมเปญ Social Media พร้อมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ตามเทศกาลต่างๆ เช่น ลูกชุบคริสต์มาส และวุ้นส้มนมสด
  4. Export Expansion: วางแผนขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ในปี 2569 พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมไทยพร้อมทานที่ยืดอายุได้นานขึ้น

 

มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

นอกเหนือจากการเติบโตทางธุรกิจ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวคิด BCG Model และ ESG โดยมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรไทยเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน การลดของเสียจากกระบวนการผลิต และการพัฒนาบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกที่ย่อยสลายได้ 100%

เพื่อรองรับการเติบโต บริษัทมีแผนลงทุนขยายโรงงานบนพื้นที่ขนาด 2 ไร่ ด้วยเงินลงทุน 60 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตและรองรับตลาดที่ขยายตัว

ธุรกิจขนมไทยยังแข็งแกร่งแม้เศรษฐกิจผันผวน

แม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่ธุรกิจขนมไทยยังคงเติบโตได้ดี โดยคุณมนสวรรณให้ความเห็นว่า วิกฤติเศรษฐกิจไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากนัก เนื่องจากสินค้ามีราคาย่อมเยาและตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการคลายเครียดด้วยขนมหวาน

“อนาคตของขนมไทย จะไม่ใช่แค่ขนม แต่คือ Soft Power ที่ทรงพลัง ตลาดขนมไทยกำลังเปลี่ยนโฉมไปสู่ Thai Dessert 4.0 ซึ่งไม่ใช่แค่ของหวานที่รับประทานหลังมื้ออาหาร แต่เป็นสินค้าที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม คุณค่า และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย” คุณมนสวรรณกล่าวทิ้งท้าย

ปัจจุบัน EZY Sweet มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์รวม 14 SKU ในช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะใน 7-Eleven ทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด “อร่อย สดใหม่ ใกล้บ้านคุณ” ซึ่งสะท้อนจุดแข็งของธุรกิจที่นำขนมไทยดั้งเดิมมาพัฒนาให้เข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

 

 

ดูข่าวอื่นๆ คลิก

 

Smart Ads