Lazy Economy

เจาะอินไซต์เทรนด์ Lazy Economy ทำอย่างไรถึงเอาชนะใจคนขี้เกียจ

ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ โดยเฉพาะความสะดวกสบายที่กลายเป็นความต้องการอันดับต้น ๆ ของผู้คนที่ไม่ว่าจะทำอะไร ขอสะดวกไว้ก่อน จนอาจจะเรียกว่าเป็น “ความขี้เกียจ” เลยก็ว่าได้ แต่นี่ก็เป็นโอกาสที่ธุรกิจ แบรนด์ จะทำการตลาดเพื่อพิชิตใจเอาชนะคนกลุ่มนี้ที่นับวันเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

เทรนด์นี้คือ Lazy Economy หรือเศรษฐศาสตร์ของคนขี้เกียจ ที่อธิบายถึงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ชอบความสะดวกสบาย เน้นใช้เวลาไม่เยอะ เช่น การสั่งอาหารแบบเดลิเวอรีแม้ร้านอาหารจะอยู่ใกล้บ้านก็ตาม, การจ้างคนไปเข้าแถวเพื่อซื้ออาหารที่อยากกิน

เหล่านี้เป็นการที่ผู้บริโภคเต็มใจที่จะใช้เงินแลกกับความสะดวกสบาย นับตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิด-19 เทรนด์ Lazy Economy ได้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นโอกาสที่แบรนด์ธุรกิจจะเข้ามาเสนอบริการตอบโจทย์เรื่องนี้ อีกทั้ง ธุรกิจสตาร์ทอัพทั่วโลก 34% ทำธุรกิจเพื่อสนับสนุนคนขี้เกียจ

 

 

งานวิจัยเรื่อง “เจาะลึกอินไซต์ พิชิตใจคนขี้เกียจ” ของนักศึกษาสาขาการตลาดวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ชี้ให้เห็นว่าตลาดคนขี้เกียจน่าจับตามอง และมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต

ด้านอินไซต์ Top 4 สุดยอดพฤติกรรมขี้เกียจ ที่ผู้บริโภคยอมควักกระเป๋าจ่าย และเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสร้างโอกาสไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ

1.ขี้เกียจเดินทาง

ผู้คนลักษณะนี้จะมีความคิดว่าการเดินทางไปไหนมาไหนในแต่ละครั้งต้องเสียทั้งเงิน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ดังนั้น พวกเขาจึงยอมจ่ายเพื่อซื้อเวลา โดยบริการที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ เช่น บริการเดลิเวอรี่ ส่งอาหาร ส่งของ ที่แตกไลน์บริการเพิ่มอีก อย่างส่งด่วนทันใจภายใน 24 ชั่วโมง บริการแบบ Door-to-Door Sevice จากหน้าผู้ส่งถึงหน้าบ้านผู้รับ

นอกจากนี้ ยังรวมถึงบริการส่งตรงถึงบ้าน เช่น ทำสปา, เสริมสวย, นวดแผนไทย, ล้างรถ, อาบน้ำตัดขนสัตว์เลี้ยง ตลอดจนการช้อปออนไลน์ทุกช่องทาง ล้วนเป็นบริการที่ช่วยให้ผู้บริโภคเลือกสินค้าได้อย่างง่ายดาย

2.ขี้เกียจรอ

ผู้คนไม่ชอบการรอคอย หรือรออะไรนาน ๆ ชอบความรวดเร็ว ทันใจ โดยธุรกิจที่มาตอบโจทย์เรื่องนี้ ได้แก่ ธุรกิจรับจ้างต่อคิว ทั้งซื้อของ หรือซื้ออาหารจากร้านอาหารยอดฮิต, การต่อคิวซื้อบัตรคอนเสิร์ต ตลอดจนการต่อคิวทำธุระที่หน่วยงานราชการ

3.ขี้เกียจออกแรง

กลุ่มนี้จะเป็นประเภทออกแรงให้น้อยที่สุด ทำให้จึงเลือกสินค้าที่ช่วยทุ่นแรง หรือมีคนมาทำแทนได้ โดยบริการที่ตอบโจทย์เรื่องนี้ เช่น ทำความสะอาดบ้าน, จัดสวน, ซักรีด, ย้ายบ้าน, ดูแลสัตว์เลี้ยง

4.ขี้เกียจคิด ขี้เกียจตัดสินใจ

ด้วยกิจวัตรประจำวันที่เต็มไปหมดจนแทบไม่มีเวลา ดังนั้นสินค้าหรือบริการที่ช่วยต่อการตัดสินใจให้ง่ายขึ้น ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาจึงเป็นคำตอบ ไม่ว่าจะเป็น บริการจัดงานแต่งงาน, บริการสไตลิสต์ส่วนตัว, สินค้าสำเร็จรูปพร้อมใช้

 

 

เทรนด์เหล่านี้หากผู้ประกอบการเข้าใจก็สามารถโฟกัสผู้บริโภคได้ชัดเจน นำไปสู่การสร้างสรรค์สินค้าที่ตอบโจทย์ ตรงใจ และสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้

ที่มา: สาขาการตลาด วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU)

เรื่องที่เกี่ยวข้อง