เรียกได้ว่าเป็นสงครามสั่งด่วนเลยก็ว่า ระหว่างแบรนด์สุกี้ชั้นนำ เอ็มเคปะทะตี๋น้อย ด้วยการเปิดศึกจัดโปรแรงบุฟเฟ่ต์ ห้ำหั่นกันด้วยราคาที่งานนี้ไม่มีใครยอมใคร
ปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจอาหารเป็นไปอย่างดุเดือด เช่นเดียวกับกลุ่มร้านอาหารประเภทสุกี้ที่มีผู้เล่นหน้าเก่าที่ครองตลาด และผู้เล่นหน้าใหม่ที่เกิดขึ้นมา เข้ามาช่วงชิงกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ไป กับสมรภูมิตลาดสุกี้ที่มูลค่าสูงถึง 23,000-25,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าใหญ่ไม่ใช่น้อย
แม้ว่า MK Restaurants จะเป็นแบรนด์ที่อยู่ในร้านอาหารประเภทสุกี้มาอย่างยาวนานกว่า 39 ปี เรียกได้ว่าเป็นที่รู้จัก และครองตลาดนี้มาอย่างยาว แต่ปัจจุบันแบรนด์กำลังถูกท้าทายด้วยผู้เล่นหน้าใหม่ที่ใช้กลยุทธ์บุฟเฟ่ต์ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามารับประทานอาหาร ด้วยการชูจุดเด่นในเรื่องความคุ้มค่ากับราคาที่ถูกกว่าไม่เพียงเท่านั้น ธุรกิจยังต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น ปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อกำลังซื้อผู้บริโภค ผู้คนรัดเข็มขัดเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น ออกไปรับประทานอาหารข้างนอกบ้านน้อยลง และความไม่คุ้นเคยกับรสชาติเดิมของสุกี้เอ็มเค
เหล่านี้ทำให้ เอ็มเคสุกี้ต้องสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดไป ดูได้จากผลประกอบการที่ยอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง มองว่าเป็นช่วงขาลงเลยก็ว่าได้ อ้างอิงจากปี 2567 มีดังต่อไปนี้
-ไตรมาส 1/2567 รายได้จากการขาย 3,946 ล้านบาท ลดลง 3.5% กำไรสุทธิ 347 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน
-ไตรมาส 2/2567 รายได้จากการขาย 4,107 ล้านบาท ลดลง 7.4% กำไรสุทธิ 401 ล้านบาท ลดลง 12.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน
-ไตรมาส 3/2567 รายได้จากการขาย 3,683 ล้านบาท ลดลง 10.1% กำไรสุทธิ 341 ล้านบาท ลดลง 12.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น รวมสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ลูกค้าไม่เคยได้รับมาก่อน แน่นอนว่าหนึ่งในรูปแบบการให้บริการ คือ “MK Buffet” ในราคาคุ้มคุ้ม อิ่มไม่อั้น 299 บาท ให้เวลารับประทาน 90 นาที พร้อมกับ 19 เมนูคุณภาพ เช่น เนื้อบริสเก็ต ออสเตรเลีย, ไก่นุ่ม-หมูนุ่มตอกไข่, หมูนุ่มหมักซอสพริกไทยดำ, หมูสไลซ์, ผักกาดขาว, เห็ดเข็มทอง, วุ้นเส้น เป็นต้น

ระยะเวลาโปรโมชัน 9 มิถุนายน-30 มิถุนายน 2568 (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด) เฉพาะทานที่ร้านเท่านั้น ภายใน MK Restaurants สาขาในศูนย์การค้าบิ๊กซี ศูนย์การค้าโลตัส และสาขาที่กำหนด
ดูเหมือนว่าหลังจากดำเนินการโปรโมชันนี้ไป พบว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี จนทีมงาน MK ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงกับผู้ที่มาทาโปร MK คุ้มคุ้ม อิ่มไม่อั้น 299 บาท แล้วพบกับความล่าช้า หรือสินค้าไม่พร้อมให้บริการในบางสาขา โดยทีมงานจะเร่งแก้ไขปัญหาทัน ทั้งการเพิ่มพนักงานให้พร้อมบริการ และเร่งเติมวัตถุดิบทุกสาขาอย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้กลายจะเป็นสงครามราคาในธุรกิจร้านอาหารสุกี้ เมื่อสุกี้ตี๋น้อย อีกแบรนด์คู่แข่งได้เปิดโปรโมชันราคา 199 บาท (ยังไม่รวมเครื่องดื่มและภาษีมูลค่าเพิ่ม) โปรฯ เรียกน้ำย่อย โปรแรก กับการขอบคุณผู้ติดตามครบ 1,000,000 ตั้งแต่วันที่ 11 – 30 มิ.ย. 68 ให้เวลารับประทาน 120 นาที จันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-17.00 น.

วิเคราะห์เอ็มเคปะทะตี๋น้อย
เรียกได้ออกโปรโมชันมามาในช่วงเวลาที่ใกล้กันมาก โดยการที่เอ็มเค สุกี้ออกโปรบุฟเฟต์ 299 บาท ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางธุรกิจที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการออกโปรราคานี้ถือเป็นการ ปรับตัวครั้งใหญ่ และเป็นการ ขยายฐานลูกค้า เข้าสู่กลุ่มที่คำนึงถึงราคามากขึ้น จากเดิมที่วางตัวเองเป็นร้านสุกี้แบบ A La Carte ระดับพรีเมียม ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ตลอดดึงลูกค้าใหม่ให้เข้ามาทดลอง และสร้างประสบการณ์กับแบรนด์ ซึ่งอาจนำไปสู่การกลับมาใช้บริการในรูปแบบ A La Carte หรือโปรโมชันอื่น ๆ ในอนาคต และยังสร้างการรับรู้ในพื้นที่สื่ออีกด้วย
ขณะเดียวกัน สุกี้ตี๋น้อยเป็นผู้บุกเบิกตลาดบุฟเฟ่ต์ราคาประหยัด ด้วยโมเดลธุรกิจที่เน้น ปริมาณลูกค้าสูง และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การตั้งราคา 199 บาท ทำให้ตี๋น้อยได้เปรียบในเรื่องของ ความสามารถในการเข้าถึง ลูกค้ากลุ่มแมสจำนวนมาก การแข่งขันจาก MK ทำให้ตี๋น้อยต้อง รักษาฐานลูกค้าเดิม และอาจต้องพิจารณา เพิ่มมูลค่า ให้กับบุฟเฟต์ของตนเอง เช่น การเพิ่มรายการอาหาร หรือปรับปรุงบริการ เพื่อคงความได้เปรียบในการแข่งขันด้านราคาและคุณภาพ
มองได้ว่าการแข่งขันเอ็มเคปะทะตี๋น้อยนี้สะท้อนให้เห็นถึง ความดุเดือดของตลาดร้านอาหาร ที่ทุกแบรนด์ต้องปรับตัวและหากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อเอาชนะใจผู้บริโภค และรักษาการเติบโตทางธุรกิจไว้ให้ได้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มีเจ้าใหญ่ และเจ้าเล็กอีกต่อไป
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
Post Views: 303