ไทยน้ำทิพย์

“ไทยน้ำทิพย์” ผู้นำตลาดน้ำอัดลม จากรถขนส่งเพียง 7 คัน สู่ IPO ในตลาดหุ้น

“ไทยน้ำทิพย์” ชื่อนี้เราได้ยินมานานกับความเป็นผู้นำเบอร์ 1 ของตลาดน้ำอัดลมไทย โดยเตรียมขายหุ้น IPO จำนวน 612,451,687 หุ้น คิดเป็น 10% เพื่อนำไปลงทุนพัฒนา และขยายธุรกิจของบริษัท รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไปสำหรับการดำเนินงาน

บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2502 โดยกลุ่มนักธุรกิจจากครอบครัวสารสิน เคียงศิริ และบุญสูง ร่วมกับบริษัท โคคา-โคล่า เอ็กซ์ปอร์ต คอร์ปอเรชั่น เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โคคา-โคล่าในประเทศไทย โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่ 7 ล้านบาท

ในช่วงเริ่มต้น บริษัทได้ดำเนินธุรกิจด้วยเครื่องจักรบรรจุขวดขนาดเล็กเพียง 2 เครื่องที่ชื่อว่า “ดิกซี่” ซึ่งสามารถผลิตโค้กขนาด 6.5 ออนซ์ได้ 160 ขวดต่อนาที และมีรถขนส่งเพียง 7 คัน เพื่อกระจายสินค้าในเขตพระนคร-ธนบุรี

ปัจจุบัน บริษัทเป็น Bottling Partner ของ The Coca-Cola Company ที่ดูแลการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โคคา-โคล่าใน 63 จังหวัดทั่วประเทศไทย โดยมีผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอมากกว่า 250 รายการ เช่น โค้ก, แฟนต้า, สไปรท์, ชเวปส์, เอแอนด์ดับบลิว รูทเบียร์, น้ำส้ม มินิทเมด สแปลช, มินิทเมด พัลพิ, น้ำดื่มน้ำทิพย์ และอู-ฮ่า

 

 

ผลประกอบการย้อนหลังของธุรกิจ

– ปี 2565 รายได้ 35,989 ล้านบาท กำไร 3,083 ล้านบาท
– ปี 2566 รายได้ 39,295 ล้านบาท กำไร 3,374 ล้านบาท
– ปี 2567 รายได้ 41,314 ล้านบาท กำไร 4,379 ล้านบาท

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ธุรกิจครองตำแหน่งเบอร์ 1 ในตลาดน้ำอัดลมไทยมาอย่างยาวนานด้วยปัจจัยสำคัญหลายด้านที่สนับสนุนธุรกิจให้เติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นพันธมิตรกับเครื่องดื่มระดับโลกอย่าง Coca-Cola ซึ่งเป็นแบรนด์น้ำอัดลมเบอร์ 1 ของโลก ทำให้แบรนด์มีพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง รวมถึงได้เรียนรู้วิธีการบริหาร, การทำการตลาด และการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจ

 

 

เช่นเดียวกับการดำเนินงานในประเทศไทยที่บริษัทมีเครือข่ายการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง ทั้งโรงงานผลิต 5 แห่ง และคลังสินค้ามากกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถจัดส่งสินค้าทั่วประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ผ่านสินค้าที่มีความหลากหลาย ทั้งน้ำอัดลม น้ำผลไม้ และน้ำดื่ม

นอกจากนี้ ในส่วนของการทำการตลาดเจาะกลุ่มเป้าหมายจะพบว่าแบรนด์มีกลยุทธ์ที่แม่นยำ สื่อสารทั้งด้านอารมณ์ ความรู้สึก และไลฟ์สไตล์ รวมถึงการปรับตัวตามเทรนด์ผู้บริโภคด้วยการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง เช่น โค้กไม่มีน้ำตาล, ขวด rPET รีไซเคิล 100% แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจทั้งเรื่องสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ที่คนในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญ เป็นการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างแท้จริง

อาจจะสรุปได้ว่า “ไทยน้ำทิพย์” พาธุรกิจประสบความสำเร็จเพราะรวมข้อได้เปรียบของ “แบรนด์ระดับโลก” และ “ความเข้าใจท้องถิ่น” เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมกับการดำเนินธุรกิจที่มีความต่อเนื่อง แข็งแรง และปรับตัวได้ตลอดเวลา

 

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ