วิธีการทำให้ธุรกิจเติบโต มียอดขายจากลูกค้าเข้ามา นั่นคือการทำการตลาดส่งเสริมการขาย แต่การจะลงมือทำได้นั้น ผู้ประกอบการต้องรู้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคว่ามีลักษณะเป็นแบบไหน เพื่อจะได้ตอบโจทย์ความต้องการให้ได้มากที่สุด

สำหรับการตลาดที่สอดคล้องถูกจริตของคนไทย มีรูปแบบไหนที่ Smartsme จะพามาหาคำตอบกัน
- การตลาดแบบเข้าถึงง่ายและเป็นกันเอง (Relatability & Friendly Tone)
คนไทยในยุคนี้ไม่ได้ต้องการเพียงข้อมูลสินค้า แต่ต้องการ “ความรู้สึกร่วม” และความเป็นเพื่อนจากแบรนด์ กลยุทธ์ที่มาในรูปแบบของการสื่อสารที่ เป็นกันเอง (Friendly Tone) และ เข้าถึงง่าย (Relatable) จึงมีประสิทธิภาพสูงมาก แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมักใช้ภาษาที่ใกล้เคียงกับภาษาพูดจริง, ใช้มุกตลก หรือมีม (Meme) ที่เป็นกระแส (Topical Content) หรือสร้างคอนเทนต์ที่สะท้อนถึงชีวิตประจำวันของคนทั่วไป ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าแบรนด์นั้น ๆ “จริงใจ” และเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ไม่ใช่แค่บริษัทที่หวังขายของ . การลดความเป็นทางการและเพิ่มความสนุกสนานจะช่วยสร้างความผูกพันในระยะยาวได้ดี
- พลังของรีวิวจากคนจริงและ Micro-Influencer
ความเชื่อมั่นใน “คำบอกเล่าจากปากต่อปาก” ยังคงแข็งแกร่ง แต่ได้ถูกย้ายมาอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ กลยุทธ์ที่พึ่งพา Mega Influencer เพียงอย่างเดียวเริ่มลดความน่าเชื่อถือลง และถูกแทนที่ด้วย Micro/Nano Influencer หรือ คนทั่วไปที่ใช้สินค้าจริง แบรนด์ควรเน้นการสร้างคอนเทนต์ประเภท User-Generated Content และการให้ลูกค้ามารีวิวอย่างตรงไปตรงมา เพราะคนไทยมักเชื่อถือรีวิวจากผู้ใช้งานจริงที่มีผู้ติดตามน้อยแต่มีความเชี่ยวชาญในเฉพาะกลุ่ม (Niche) มากกว่าดาราหรือคนดังที่รับงานรีวิวจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นการตลาดที่สร้าง “ความไว้วางใจ” ในระดับบุคคล
- การตลาดที่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายเร่งด่วน (Convenience & Instant Gratification)
พฤติกรรมผู้บริโภคไทยมีความต้องการ ความรวดเร็วและความสะดวกสบาย สูงมาก โดยเฉพาะในยุค E-commerce และ Food Delivery กลยุทธ์การตลาดจึงต้องเชื่อมโยงกับการขายแบบไร้รอยต่อตั้งแต่เห็นโฆษณาไปจนถึงการซื้อ การสื่อสารที่เน้นคำว่า “ส่งไว,” “รับทันที,” “ซื้อตอนนี้ได้เลย,” หรือการใช้แพลตฟอร์มที่รวมทุกอย่างในที่เดียว เช่น Social Commerce บน TikTok Shop หรือ Live Commerce จะช่วยตอบสนองความต้องการ “อยากได้เดี๋ยวนี้” ได้อย่างตรงจุด
- การให้คุณค่ามากกว่าตัวสินค้า (Value-Driven Marketing)
ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) สนใจเรื่อง จุดยืนของแบรนด์ (Brand Purpose) และความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น กลยุทธ์ที่เน้นการทำตลาดโดย ให้คุณค่าที่เหนือกว่าตัวสินค้า เช่น การสนับสนุนประเด็นทางสังคม, การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือการช่วยพัฒนาชุมชน จึงถูกจริตคนไทยมากขึ้น แบรนด์ที่สื่อสารว่าพวกเขาทำสิ่งดี ๆ ให้กับโลกหรือสังคมอย่างไร จะสามารถสร้าง ภาพลักษณ์เชิงบวก และผูกมัดลูกค้าที่เชื่อในคุณค่าเดียวกันได้อย่างลึกซึ้ง
5.กลยุทธ์สร้างความบันเทิง (Shoppertainment)
นี่เป็นกลยุทธ์ที่เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่นใช้ในการไลฟ์ขายสินค้าบน TikTok โดยเป็นการผสมผสาน Shopping และ Entertainment เข้าด้วยกัน ซึ่งมีหัวใจสำคัญคือทำให้การขายสินค้าไม่น่าเบื่อ ด้วยการใส่ความบันเทิง สร้างการมีส่วนร่วมลงไป เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ไม่อยากออกจากกระบวนการขายที่กำลังดำเนินอยู่
การตลาดที่ถูกจริตคนไทยจำเป็นต้องเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า เพราะลูกค้าคือหัวใจของธุรกิจ การรู้ว่าลูกค้าคิดอะไร, รู้สึกอย่างไร (แรงจูงใจ), และตัดสินใจซื้อ (กระบวนการ) อย่างไร จะช่วยให้คุณสามารถสร้างสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง แทนที่จะคาดเดา คุณจะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ, สร้างข้อความโฆษณาที่โดนใจ, และเลือกช่องทางการสื่อสารที่ลูกค้าอยู่จริง การเข้าใจพฤติกรรมจึงช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน และเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนความสนใจให้เป็นยอดขาย ทำให้งบประมาณทางการตลาดถูกใช้ไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง
Post Views: 1,356