โกโก้ร้านไอ้ต้น

“โกโก้ร้านไอ้ต้น” พุ่งแรงในตลาดจีน 1 ปี ขยายไปแล้ว 160 สาขา

หลังจาก “โกโก้ร้านไอต้น” (ชื่อภาษาจีน : 大胡子冰可可 Da HuZi Bing KeKe) ได้บุกตลาดจีนอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2023 ผ่านไปเพียง 1 ปี ธุรกิจก็สามารถเติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น

สาเหตุที่แบรนด์ได้รับความนิยมและพูดถึงอย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดียของจีน ก็มาจากความแปลกใหม่และจุดเด่นที่โลโก้ร้านเป็น “รูปนักเรียน” ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของ คุณต้น-ประชานารถ โพธิสาราช เจ้าของแบรนด์โกโก้ร้านไอต้น สำหรับเมนูของร้านจะเน้นไปที่โกโก้เป็นหลัก โดยวัตถุดิบที่ใช้ในร้านประมาณ 50% นำเข้าจากประเทศไทย ลูกค้าสามารถเลือกรสชาติและความเข้มข้นได้ตามต้องการ มีระดับความเข้มข้น 4 ระดับให้เลือก ได้แก่ “ละอ่อน” “เข้ม” “โคตรเข้ม” และ “โคตรหวาน” โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 18 ถึง 22 หยวน

 

 

เทคนิคการขายของโกโก้ร้านไอต้นคือการปรับเปลี่ยนหนวดหรือการแต่งกายของต้นบนโลโก้ข้างแก้ว ให้มีรูปลักษณ์แตกต่างกันไปตามเมนูและระดับความเข้มข้นที่ลูกค้าเลือก เช่น หากสั่งโกโก้รสช็อกโกแลตมินต์ หนวดของต้นจะเป็นสีเขียว หรือหากสั่งเมนูพิเศษช่วงคริสต์มาส ต้นก็จะแต่งตัวเป็นซานตาคลอส ด้วยการตลาดสุดสร้างสรรค์ไม่ซ้ำใคร จึงดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากให้มาแวะมาเช็คอินและถ่ายรูปไปโพสต์ลงในแพลตฟอร์มโซเชียลยอดนิยมของจีนอย่าง Little Red Book จำนวนมาก

ลงทุนน้อย และเลือกขยายสาขาตามแหล่งศูนย์การค้า คือกลยุทธ์สำคัญ

ในปี 2023 “โกโก้ร้านไอ้ต้น” เข้าสู่ประเทศจีน โดยเปิดร้านแรกในเดือนเมษายน ในเมืองสิบสองปันนา โดยการเปิดร้านฯในประเทศจีนแตกต่างจากในไทยที่เน้นการขายแบบสตรีทฟู้ด เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่กว้างขึ้น ส่วนในประเทศจีนจะเป็นรูปแบบการเช่าที่ประจำ หรือร้านป็อปอัพสโตร์ตามสถานที่หรือศูนย์การค้าที่มีผู้คนพลุกพล่าน รวมถึงงบลงทุนแฟรนไชส์ที่ไม่สูงมาก จากการสอบถาม

ปัจจุบันขยายสาขาไปแล้วในหลายมณฑล เช่น มณฑลยูนนาน มณฑลเหอเป่ย มณฑลกว่างซี มณฑลกวางตุ้ง มหานครฉงชิ่ง มหานครเซี่ยงไฮ้ มณฑลเจียงซู มณฑลเจ้อเจียง มณฑลฝูเจี้ยน ฯลฯ รวมกว่า 160 แห่ง โดยในมณฑลฝูเจี้ยนร้านฯ ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์การค้า MixC ในเมืองเซี่ยเหมิน โดยเปิดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และร้านแบบป็อปอัพสโตร์ที่บริเวณศูนย์การค้า MixC ในเมืองฝูโจว 1 สาขา สำหรับในมณฑลเจียงซี ขณะนี้มี 1 สาขา ตั้งอยู่บริเวณศูนย์การค้า MixC ในเมืองหนานชาง

โดนใจวัยรุ่น ด้วยโลโก้แบรนด์และการตลาดที่โดดเด่น

เครื่องหมายการค้า เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ง่ายขึ้น โดยมักมีสัญลักษณ์ โลโก้ สีที่ใช้ หรือชื่อที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยสร้างการจดจำ และแยกความแตกต่างจากคู่แข่ง การมีเครื่องหมายการค้าที่ชัดเจนและสอดคล้องกับบุคลิกของแบรนด์สามารถเพิ่มการจดจำและเสริมสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการตลาดแบบใช้ความตลกหรืออารมณ์ขัน (Humor Marketing) เป็นกลยุทธ์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายที่โกโก้ร้านไอต้นเลือกนำมาใช้ ช่วยทำให้ผู้บริโภครู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น โดยมักใช้ในการทำโฆษณาหรือการสื่อสารที่ต้องการให้ผู้คนสนใจและจดจำ อย่างการแต่งกาย หรือความยาวของหนวดบนโลโก้ข้างแก้วที่จะเปลี่ยนไปตามเมนูหรือความเข้มข้นของโกโก้ที่เลือกซื้อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สร้างความสะดุดตาต่อกลุ่มผู้บริโภค ทำให้แบรนด์ดูเข้าถึงง่าย และช่วยสร้างความสนุกสนาน ในยุคที่สิ่งต่างๆรอบตัว มีความเร่งรีบและความตึงเครียด การได้เลือกซื้อดื่มเครื่องดื่มที่สร้างสีสัน รอยยิ้มและความพึงพอใจได้ ก็เป็นอีกหนึ่งอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และกระตุ้นให้เกิดการบอกต่อหรือแชร์ในโลกออนไลน์ได้มากยิ่งขึ้น

 

 

นอกจากการตลาดและเครื่องหมายการค้าที่โดดเด่นของโกโก้ร้านไอ้ต้น จุดเด่นที่สำคัญอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ทำให้เกิดการขยายสาขาอย่างรวดเร็วก็คือ ต้นทุนการลงทุนเปิดร้านที่ต่ำ อีกทั้งไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านใหญ่ก็สามารถเริ่มต้นขายได้ ซึ่งเข้าถึงกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อแฟรนไชส์แต่มีเงินลงทุนไม่มาก หรือต้องการลงทุนในธุรกิจที่ไม่เสียเงินลงทุนเปิดร้านมากจนเกินไป

ธุรกิจน้ำชง คือโอกาสการลงทุนของจีน คาดอีก 4 ปี โตขึ้นอีกเท่าตัว

ขณะนี้ “โกโก้ร้านไอต้น” ได้จดลิขสิทธิ์ในตลาดจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผ่านการบริหาร ทำการตลาด รวมถึงการขยายสาขาโดยบริษัทจีนที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครคุนหมิง นั่นหมายถึง บริษัทจีนซื้อแฟรนไชส์สัญชาติไทย มาสยายปีกเติบโตในตลาดจีน โดยเล็งเห็นโอกาสในตลาดชานม หรือเครื่องดื่มแบบชงในตลาดจีน ที่มี Mixue, YiHeTang HeyTea, Naixue, Luckin-Coffee ฯลฯ โดย 21st Century Business Herald หนังสือพิมพ์ข่าวธุรกิจของจีน คาดการณ์ว่าตลาดเครื่องดื่มประเภทนี้จะเติบโตจากมูลค่า 421,300 ล้านหยวนในปี 2022 เป็น 1.18 ล้านหยวนในปี 2028 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 18.7% ซึ่งสูงกว่าการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มสำเร็จรูปที่อยู่ที่ 5.0% ในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ แบรนด์ไม่มีการจ้างงานคนไทย แต่จะเป็นการบริหารงานโดยคนจีน 100% โดยจะมีการใช้วัตถุดิบจากไทยประมาณร้อยละ 50

หากมองการเติบโตของโกโก้ร้านไอ้ต้นในตลาดจีน นอกจากจุดเด่นด้านตัวตนของแบรนด์ที่ชัดเจนและการตลาดแล้ว ค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ไม่สูง รวมถึงการเลือกตำแหน่งที่ตั้งร้านใกล้หรือในศูนย์การค้าสำคัญ โดยไม่ต้องมีหน้าร้านขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีงบประมาณจำกัด ก็มีส่วนช่วยให้แบรนด์สามารถขยายสาขาไปยังพื้นที่หลายมณฑลได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น การตลาดแบบสร้างสรรค์และโครงสร้างค่าใช้จ่ายที่ยืดหยุ่น จึงถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้แบรนด์น้ำชงไทยสามารถขยายตัวในตลาดจีนได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง

ข้อมูลจาก สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง