มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นทั่วประเทศ


ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบอนุมัติในร่างหลักการร่างประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ทุกขนาด ทุกท้องที่ในราชอาณาจักร

นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สืบเนื่องจากการที่อุตสาหกรรมเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตและเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตของไทยประสบปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินที่สะสมมาในช่วงหลายปี ส่งผลให้ผู้ผลิตในประเทศมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ต่ำ โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาผู้ผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตมีอัตราการใช้กำลังการผลิตประมาณร้อยละ 25-35 ผู้ผลิตเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตมีอัตราการใช้กำลังการผลิต ประมาณร้อยละ 35-45 ทำให้ผู้ผลิตต้องประสบปัญหาขาดทุนและบางรายต้องหยุดการผลิตชั่วคราวหรือต้องหยุดกิจการเป็นการถาวร

กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเห็นควรเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยในระยะสั้นได้กำหนดมาตรการห้ามตั้งหรือขยายโรงงานเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ตามมาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 เป็นเวลา 5 ปี เพื่อให้ผู้ผลิตปรับตัวและเข้าสู่ภาวะสมดุล ซึ่งผู้ผลิตไทยจะต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยี และแก้ไขปัญหากำลังการผลิตส่วนเกิน รวมทั้งเป็นการยกระดับคุณภาพของอุตสาหกรรมเหล็กด้วย

โดยหลังจากครบกำหนด กระทรวงอุตสาหกรรมจะใช้มาตรการทางด้านสิ่งแวดล้อม เรื่องการกำหนดค่าปริมาณของสารเจือปนในอากาศที่ระบายออกจากโรงงานเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 โดยการกำหนดค่ามลพิษทางอากาศ ได้แก่ ค่าฝุ่น ค่า SOx NOx ให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มีผลให้ผู้ผลิตที่กำลังการผลิตเท่าเดิมหรือผู้ผลิตที่สนใจจะลงทุนหรือจะเพิ่มกำลังการผลิตต้องปฏิบัติตามค่าควบคุมมลพิษดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งในโรงงานและชุมชนที่อยู่รอบข้างด้วย

อ่านเพิ่มเติม