วิเคราะห์เศรษฐกิจไทย-เศรษฐกิจโลก ต่อจากนี้จะเดินไปทิศทางไหน


แน่นอนว่าเศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจที่จะเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก เนื่องจากเราผูกพันกับการส่งออก การที่โครงสร้างเศรษฐกิจการนำเข้าส่งออกของเรารวมถึงพลังงานมากกว่าร้อยละ 90 ก็ใช้จากต่างประเทศ จนถึงที่มาของแหล่งรายได้จากภาคบริการ ภาคท่องเที่ยว ซึ่งมีเกือบ 20 % ของรายได้ประชาชาติ

ซึ่งวิกฤตที่เข้ามาก็ทำให้เราได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยรวมแล้วเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยผูกพันกันอย่างมาก ถ้าพูดกันแบบภาษาไทย ๆ คือฟ้าหม่นหมอง เดาได้ยาก ควบคุมได้ยาก เพราะเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เกิดจากต่างประเทศมาโดยตลอด ผลกระทบตามมาของเศรษฐกิจไทยก็คือรายได้หดหาย ภาระหนี้สินก็เพิ่มมากขึ้น หลาย ๆ คน รายได้ก็ไม่มี โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว ภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องกัน รวมถึงคนงานหลาย ๆ แห่งที่ถูกปิด สืบเนื่องมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นก็ไม่สามารถสู้กับตลาด หรือขายของได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือกระทบกับคนที่มีและไม่มีก็จะไม่เท่าเทียมกัน คนที่มีรายได้ประจำค่อนข้างต่ำ ค่าครองชีพ ค่าอาหารสูงขึ้น ราคาน้ำมันสูงขึ้น ค่าเดินทางสูงขึ้น ก็ทำให้ต้นทุนค่าครองชีพต่าง ๆ ก็ไม่พอที่จะอยู่รอดได้ ยิ่งบวกกับรายได้หดหายด้วยหนี้สินก็ยังมีอยู่ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ความทุกข์ระทมซึ่งเราเรียกว่าข้าวยากหมากแพง ก็จะเห็นได้ชัดในยุคเศรษฐกิจไทยยุคนี้

การทำมาหากิน การค้าขายในโลกใบนี้ก็ไม่เหมือนเดิม แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ พฤติกรรมผู้บริโภคนั้นมันมีการเปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งที่จะแนะนำก็คือ ต้องมาดูว่ากลุ่มลูกค้าเรานั้นใครยังมีอำนาจซื้ออยู่ และสิ่งที่ทุกคนต้องระวังคือ ช่วงนี้ต้องดูแลรักษาสุขภาพ มีสุขภาพที่ดี เพราะฉะนั้นสินค้าทั้งหมดต้องปลอดภัย ต้องเสริมทำให้ร่างกายแข็งแรง และที่สำคัญต้องแตกต่างจากสินค้าคนอื่นอย่างชัดเจน

ผู้สูงอายุนั้นมีส่วนหนึ่งที่มีรายได้และการเก็บออมอยู่ในจำนวนหนึ่งก็สามารถที่จะมีอำนาจซื้อได้ และมีหลายทางเลือกก็คือกลุ่มเพศทางเลือก กลุ่มนี้มีอำนาจซื้อสูง มีรายได้สูง ก็จะสามารถจำแนกสินค้าที่มีความแตกต่างขายให้กลุ่มนี้ได้เหมือนกัน และอีกอันหนึ่งคือ ทุกคนก็สามารถเข้าถึงข้อมูล พยายามเรียกร้องมาตรฐานของสินค้าและการบริการที่ดี

การฟื้นตัวของสังคมตอนนี้ จะต้องแบ่งให้ชัดเจนว่ากลุ่มมีกับกลุ่มไม่มี เพราะว่ากลุ่มที่ไม่มีนั้นยังไม่สามารถฟื้นตัวได้และก็จะถดถอยอย่างต่อเนื่อง ส่วนคนที่มีเป็นกลุ่มที่มีอำนาจซื้อสูง มีเงินออม ไม่มีหนี้สิน เมื่อเศรษฐกิจพอจะปรับได้ กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่จะสามารถขยายได้ ธุรกิจที่จะได้ประโยชน์จากการทำคราวนี้ก็เป็นธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยี บริการข้อมูล

จะเห็นได้ชัดว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นเป็นในลักษณะที่คนเรียกว่าตัว K ก็ทำให้เศรษฐกิจนั้นจะมีความเหลื่อมล้ำ และแตกต่างกันมากขึ้น จึงเป็นคำอธิบายที่ดีต่อภาวะถดถอยของเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นทั้งในประเทศไทยและเศรษฐกิจโลกมากขึ้น เศรษฐกิจแบบนี้เป็นสิ่งที่เราข้ามไม่ได้ว่าการกระทบของทุกคนทุกฝ่ายนั้น กระทบไม่เท่ากัน กลุ่มระดับล่างจะได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มระดับบน ก็เห็นได้ชัดว่ากลุ่มที่มีรายได้สูง ได้รับผลกระทบน้อยสามารถใช้ชีวิตได้แบบปกติ แต่กลุ่มที่มีรายได้น้อยซึ่งเป็นกลุ่มส่วนใหญ่ก็จะแก้ปัญหาโดยการกู้ยืมเงิน แต่อย่างไรก็ตามก็จำเป็นที่จะต้องสร้างงานให้มั่นคง ทุกคนต้องเปลี่ยนแปลงเพราะว่าโลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะฉะนั้นต้องแสวงหาพฤติกรรมที่ผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร

อยากฝากไว้ว่าการสร้างกำลังซื้อเป็นเรื่องที่สำคัญถาวร อยากให้กำลังสำหรับคนที่เปลี่ยนงานใหม่ เปลี่ยนอาชีพใหม่ สร้างงานใหม่ ทำธุรกิจใหม่ ทุกคนต้องมีความหวัง ความหวังเท่านั้นที่จะสร้างสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้

ดร.มงคล ลีลาธรรม อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ SME D Bank และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารออมสิน ปัจจุบันเป็น ประธานกรรมการบริหาร สำนักงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)