Indomie แบรนด์มาม่าสัญชาติอินโดนีเซีย ที่ทำธุรกิจยาวนานมามากว่า 50 ปี จนตอนนี้ยังไม่มีใครมาล้มแชมป์ แถมขายดีกว่าแบรนด์นอกอีก
ปฏิเสธไม่ได้ว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือบางคนเรียกว่า “มาม่า” เป็นอาหารที่รับประทานง่ายสะดวกต่อการทำ จึงกลายเป็นอาหารที่ใครต่อใครต้องมีไว้ติดบ้าน เมื่อมองดูสถิติจำนวนผู้บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อ้างอิงข้อมูลจาก WINA พบว่าอินโดนีเซียอยู่ในอันดับ 2 มีจำนวนการกินคิดเป็น 14,500 ล้านห่อปี แน่นอนว่านี่จึงเป็นตลาดที่สร้างโอกาสให้กับใครต่อใครที่อยากทำธุรกิจนี้
Indomie แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ก่อตั้งโดยกลุ่มซาลิม บริษัทยักษ์ใหญ่ของอินโดนีเซีย เมื่อปี 1972 จากวันนั้นมาถึงวันนี้แบรนด์ยังครองใจเป็นอันดับ 1 ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด ด้วยจุดเด่นเรื่องรสชาติ และราคาที่เข้าถึงง่าย จึงเป็นที่รักของชาวอินโดฯ ที่ต้องติดไว้แม้จะอยู่ใน และต่างประเทศ โดยธุรกิจขยายสินค้าไปวางจำหน่ายมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ด้วยกำลังการผลิต 19,000 ล้านแพ็คต่อปี

แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอินโดฯ รายนี้ ผลิตโดย PT. Indofood CBP Sukses Makmur ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวแรกคือรสซุปไก่ ที่ถูกใจคนอินโดนีเซีย ณ เวลานั้น ปัจจุบันแบรนด์ยังเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ และยังได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้
กลยุทธ์สำคัญของ Indomie คือการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีความชัดเจนผ่าน 4 เรื่องสำคัญ ดังต่อไปนี้
พื้นที่: ตามเมืองต่าง ๆ ของอินโดนีเซียจะมีวัฒนธรรมประจำท้องถิ่นที่แตกต่างกันออกไป ทำให้แบรนด์ต้องออกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผู้บริโภคตามวิถีชีวิต เช่น รสชาติโซโตเบตาวี สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในจาการ์ตา, รสชาติเรนดัง สำหรับผู้อาศัยในสุมาตราตะวันตก เป็นต้น
ประชากรศาสตร์: แบรนด์มีการแบ่งกลุ่มลูกค้าตามเพศ อายุ ศาสนา และรายได้ เช่น รสชาติบูลโกกิที่จะกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลที่ได้รับอิทธิพลอย่างมากจาก K-Pop หรือวัฒนธรรมเกาหลี
ไลฟ์สไตล์: ลูกค้าจะถูกแบ่งกลุ่มตามภูมิหลัง โดยนักศึกษาที่อยู่ห่างไกลครอบครัวมักสินค้า Indomie เป็นอาหารฉุกเฉินในยามที่พวกเขาไม่มีเงินเหลือ ขณะเดียวกัน แบรนด์ยังคงมุ่งเป้าไปยังผู้มีรายได้สูงซึ่งมีการออกสินค้าเวอร์ชันพรีเมียมในราคาสูงกว่าออกมา

นอกจากนี้ การวางตำแหน่งของตัวเองในตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็เป็นอีกกุญแจสำคัญที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ โดยธุรกิจเลือกที่จะสร้างภาพลักษณ์เป็นแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปท้องถิ่น เพราะจะช่วยสร้างความจดจำให้กับคนอินโดนีเซียว่านี่คือแบรนด์บ้านเกิดของพวกเขา ซึ่งกลยุทธ์ถูกสื่อสารผ่านทางเรื่องชื่อ Indomie ที่มีความเป็นท้องถิ่น พร้อมที่จะพัฒนาสร้างรสชาติใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอเพื่อตอบสนองรสนิยมของลูกค้า
เช่นเดียวในเรื่องของราคาที่แบรนด์มีระดับราคาให้เลือกหลากหลาย โดยตามข้อมูลจากเว็บไซต์ Indomaret ระบุว่าสินค้าราคาต่ำสุดอยู่ที่ 0.182 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสินค้าราคาสูงสุดอยู่ที่ 0.343 ดอลลาร์สหรัฐฯ อีกทั้งช่องทางจัดจำหน่ายก็ยังมีมากไม่ใช่แค่ในอินโดนีเซียเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, สหรัฐฯ, แคนาดา เป็นต้น
ทั้งนี้ ในปี 2023 Indomie แบรนด์มาม่าอินโดทำรายได้ไป 102,200 ล้านบาท
ที่มา: medium, indomie
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ
Post Views: 571