Sock Candy

Sock Candy แบรนด์ถุงเท้า ที่เจ้าของลาออกจากงาน ทำธุรกิจสร้างรายได้กว่า 40 ล้านบาท

Mary Gui เจ้าของแบรนด์ Sock Candy ด้วยความหลงใหลในแฟชั่นมาโดยตลอด แต่งานที่ทำไม่ตอบโจทย์สิ่งที่อยากเป็น จึงตัดสินใจลาออกจากงานเพี่อทำบล็อกเก็บเกี่ยวประสบการณ์สู่บริษัทสร้างรายได้กว่า 1.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 40 ล้านบาท) ต่อปี

Gui ปรากฏตัวในรายการ “Shark Tank” โดยได้ตกลงปากเปล่ากับนักลงทุนอย่าง Barbara Corcoran ผู้ประกอบการมหาเศรษฐี

ย้อนประวัติของ Gui อายุ 36 ปี อพยพจากปักกิ่งมายังสหรัฐฯ เมื่ออายุ 7 ขวบ โดยแม่ผลักดันให้เธอประกอบอาชีพที่มั่นคง ดังนั้น เธอจึงเรียนการตลาด และทำงานในบริษัทเอเจนซี่โฆษณายักษ์ใหญ่ ในขณะเดียวกัน Gui ยังพยายามสมัครงานด้านแฟชั่นในช่วงนี้ แต่ก็ดูไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่นัก

“ฉันไม่เคยได้รับการติดต่อกลับจากใครเลย อาจเป็นเพราะไม่ได้เรียนจบปริญญาด้านแฟชั่น หรือการแนะนำในประวัติย่อที่บ่งบอกว่าเพราะอะไรถึงเหมาะกับงานแบบนี้” Gui กล่าว

 

รูปภาพจาก sockcandy.com

 

อย่างไรก็ตาม Gui ไม่ค่อยพอใจกับงานการตลาดที่ทำอยู่ จึงตัดสินใจลาออกแล้วมาทำบล็อกเกี่ยวกับแฟชั่นของตัวเองชื่อว่า Layers of Chic แบบเต็มเวลาในปี 2016 โดยไม่รู้ตัวเองว่าจะเข้าสู่วงการแฟชั่นได้อย่างไร นอกจากความพยายามที่จะเขียนบล็อกเกี่ยวกับแฟชั่นในเรื่องที่ชื่นชอบ

สำหรับบล็อกของ Gui สามารถทำรายได้จากโพสต์ส่วนใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่งกายประจำวันที่ใส่อยู่ และได้มีผู้อ่านแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ “ถุงเท้า” ที่ใส่ว่า “น่ารัก” หลังจากนั้นในปี 2020 จึงก่อตั้ง Sock Candy โดยทำงานร่วมกับนักออกแบบอิสระ 3 คน เพื่อดีไซน์ถุงเท้าที่แตกต่างกัน 10 แบบ ซึ่งบริษัทขายถุงเท้าผ่านทางเว็บไซต์ และส่งสินค้าคงคลังไปยังร้านค้าแบบดั้งเดิมมากกว่า 300 แห่งทั่วสหรัฐฯ

ถุงเท้าแต่ละคู่มีต้นทุนการผลิตที่โรงงานในประเทศจีนประมาณ 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ และขายในราคา 18 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อ Gui เล่าเรื่องราวนี้ออกไปในรายการ Shark Tank ทำให้ดึงดูดความสนใจจากคณะกรรมการนักลงทุนในรายการ โดย Robert Herjavec บอกว่ามันเป็นธุรกิจที่น่าประทับใจ แต่ที่สำคัญไปมากกว่านั้น คือเรื่องราวของเขาน่าประทับใจมาก

Gui ขอสนับสนุนเงินจากนักลงทุน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อแลกกับหุ้น 5% ของบริษัท และแสดงความปราถนาที่จะวางถุงเท้าบนชั้นวางสินค้าในร้านค้าที่สำคัญ

 

รูปภาพจาก sockcandy.com

 

 

ทั้งนี้ทั้งนั้น Herjavec, Mark Cuban และ Lori Greiner ต่างปฏิเสธกับข้อเสนอนี้ โดยบอกว่ามีคณะกรรมการคนอื่นที่เหมาะสมกว่า ขณะที่นักลงทุนที่เหลืออย่าง Corcoran และ Kevin O’Leary บอกว่าพวกเขาสามารถช่วยคุณได้

“ฉันรับรองได้เลยว่าสามารถพาคุณไปยังเป้าหมายได้ ถ้าฉันไม่ทำ คุณก็เก็บเงินเอาไว้ และสามารถนำหุ้นของคุณกลับคืนมาได้” Corcoran

O’Leary เสนอเงิน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ให้ Gui เพื่อซื้อหุ้น 12.5% ของบริษัท และ Corcoran ก็เสนอเงิน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อซื้อหุ้น 15% แม้ว่าข้อตกลงจะยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ แต่ก็มีปัญหาชวนปวดหัว เนื่องจากสหรัฐฯ ได้กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนรวม 145% ทำให้ธุรกิจสหรัฐฯ หลายแห่งที่ผลิตสินค้าในจีนเกิดความตื่นตระหนก

Gui บอกว่าเธอยังคงทำงานกับผู้ผลิตชาวจีนต่อไป และอาจช่วยต่อสู้กับต้นทุนภาษีได้บางส่วน โดยเปลี่ยนจากขนส่งทางอากาศไปเป็นการขนส่งสินค้าที่อาจจะได้สินค้าช้ากว่า แต่มีราคาถูกกว่า ซึ่งธุรกิจจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เหลือทั้งหมด

“เราจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้ามากขึ้นในแง่ของการจัดเก็บสินค้า และสต๊อกสินค้าใหม่ มันไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด” Gui กล่าว

ที่มา: cnbc, sockcandy

 

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ