Starbucks ถึงไม่ถูกปาก

ถอดรหัสความล้มเหลว ทำไม Starbucks ถึงไม่ถูกปากคนอิสราเอล

แม้ว่า “Starbucks” จะประสบความสำเร็จในแง่ของแบรนด์ มูลค่า ตัวเครื่องดื่มที่ให้บริการ เป็นแบรนด์ร้านกาแฟอันดับ 1 ของโลก  แต่ก็ใช่เชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่รายนี้จะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะมีบางประเทศที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าเช่นกัน

 

 

หนึ่งในนั้นคือ “อิสราเอล” ที่เชนร้านกาแฟชื่อดังจากอเมริกาล้มเหลวไม่เป็นท่า ถึงขั้นยอมยกธงขาวไปในที่สุด โดยแบรนด์เข้ามาทำตลาดในปี 2001 และถอนตัวออกไปในปี 2003  โดยมีหลายปัจจัยด้วยกันที่ทำ Starbucks ไปไม่รอด ทั้งเรื่องการตลาด วัฒนธรรม และพฤติกรรมผู้บริโภคที่สรุปออกมาได้ดังนี้

สู้แบรนด์ท้องถิ่นไม่ได้: วัฒนธรรมกาแฟของอิสราเอลมีความแข็งแกร่งมาก ฝังรากลึกกับผู้คนมาตั้งแต่ทศวรรษ 1930 มีร้านกาแฟท้องถิ่นคุณภาพดีอยู่เป็นจำนวนมาก และ “Starbucks” ก็ไม่สามารถช่วงชิงตลาดส่วนนี้ได้ ไม่เพียงเท่านั้น ลูกค้ายังมีความจงรักภักดีกับแบรนด์ อีกทั้ง “Starbucks” ก็ไม่ได้เสนออะไรที่บ่งบอกถึงความพิเศษ รวมถึงรสชาติที่มีความแตกต่างจากกาแฟท้องถิ่น

คนไม่ชอบกาแฟอเมริกัน: Starbucks ส่วนใหญ่เน้นกาแฟกรองแบบอเมริกัน ซึ่งไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนอิสราเอลที่คุ้นเคยกับกาแฟเอสเพรสโซ่เข้มข้นกว่า

ราคาแพง: ราคากาแฟ Starbucks สูงกว่ากาแฟทั่วไป ทำให้บริษัทต้องลดราคาเพื่อให้สามารถแข่งขันได้

ปรับตัวไม่ได้: Starbucks เข้ามาด้วยแนวคิดที่ว่าประสบการณ์และความสำเร็จระดับโลกคงน่าจะตีตลาดอิสราเอลได้ไม่ยาก แต่เมื่อดำเนินการไปสักพักกลับไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ เมื่อไม่เข้าใจตลาดอย่างถ่องแท้ จึงไม่เข้าใจพฤติกรรมลูกค้าว่าต้องการ และมีรสนิยมการดื่มกาแฟอย่างไร

 

 

ทั้งหมดที่กล่าวมา วิเคราะห์ได้ว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ Starbucks ถึงไม่ถูกปาก ไม่ประสบความสำเร็จในอิสราเอลคือ การไม่เข้าใจและไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมกาแฟที่แข็งแกร่งและเฉพาะตัวของอิสราเอล รวมถึงการแข่งขันที่สูงและปัญหาในการบริหารจัดการร่วมกับหุ้นส่วนท้องถิ่น

ที่มา: globalmarketingprofessor, starbucks

 

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ