Unilever

Unilever เลิกจ้างพนักงานเกือบครึ่งในยุโรป บางส่วนถูกย้ายไปแผนกผลิตไอศกรีม

Unilever เตรียมเลิกจ้างพนักงานในยุโรปราว 1,500 คน เพื่อลดต้นทุน โดยพนักงานบางส่วนจะถูกย้ายไปแผนกผลิตไอศกรีมที่กำลังถูกแยกตัวไปเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ

บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคสัญชาติอังกฤษ โดยมีผู้ถือหุ้นอย่าง Nelson Peltz มหาเศรษฐีนักลงทุน และกรรมการ พยายามปรับปรุงธุรกิจในช่วงปีที่ผ่านมาภายใต้การนำของ Hein Schumacher ซึ่งรับตำแหน่งซีอีโอ

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ยูนิลีเวอร์มีผลประกอบการที่ต่ำกว่ามาตรฐานในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และแบรนด์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการบริหารจนไม่สามารถทำผลงานที่ดีที่สุดออกมาได้ สอดคล้องกับนักวิเคราะห์ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า แบรนด์มีความตื่นตัวค่อนข้างช้านับตั้งแต่การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้จำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายลง

 

 

เมื่อต้นปี ธุรกิจประกาศว่าจะเลิกจ้างพนักงาน 7,500 คนทั่วโลก โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อประหยัดต้นทุนประมาณ 800 ล้านยูโร นอกจากนี้ ยังมีการแยกหน่วยธุรกิจไอศกรีม ไม่ว่าจะเป็น Ben & Jerry’s และ Magnum ออกไป

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องถูกพูดถึง โดยสภาแรงงานยุโรป (UEWX) มองว่าการปรับเปลี่ยนธุรกิจไอศกรีมอาจทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ แต่ก็มีบางถ้อยแถลงการณ์ที่อาจตีความแสดงถึงบีบให้พนักงานลาออก แต่ส่วนนี้ยังมีพนักงานประมาณ 1,500 คน ที่ยังคงมีตำแหน่งงาน แต่จะถูกย้ายไปแผนกผลิตไอศกรีมแทน ตามข้อตกลงที่ทำไว้กับสภาแรงงานยุโรป

Hermann Soggeberg ประธาน UEWC กล่าวว่าตนได้บรรลุข้อตกลงกับยูนิลีเวอร์ในเดือนตุลาคม โดยจะลดตำแหน่งงานลงประมาณ 1,700 8o จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีการเลิกจ้างพนักงานประมาณ 3,200 คนในยุโรป ซึ่งมีการเจรจากับบริษัทอย่างเข้มข้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

“เรายังคงประหยัดได้ตามสัญญาที่ให้ไว้กับนักลงทุน พวกเขากำลังวางแผนขยายธุรกิจไอศกรีม เราตกลงไว่ว่ากระบวนการจ้างคนเหล่านี้จะสอดคล้องกับโปรแกรมการลดพนักงาน” Soggeberg กล่าว

 

 

การแยกธุรกิจไอศกรีมจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2025 และจะแยกสำนักงานใหญ่ต่างหากในอัมสเตอร์ดัม

ทั้งนี้ ยูนิลีเวอร์มีแบรนด์สินค้าอุปโภค บริโภคหลากหลาย เช่น Vaseline, Dove, Axe, Rexona, Pond’s, Clear เป็นต้น

ที่มา: reuters, unilever, moneycontrol

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ