How-To

7 ข้อห้ามการใช้เงินของบรรดามหาเศรษฐีตัวจริง อยากรวยต้องลองทำดู

เวลาที่ถามบรรดาคนร่ำรวยเกี่ยวกับเรื่องเงิน ก็มักจะได้รับคำตอบคล้ายๆ กันคือ พวกเขารู้ว่าเงินของพวกเขาอยู่ที่ไหน และเขาไม่ควรทำอะไรกับมัน หากคุณอยากรวยการเรียนรู้จากคนที่ร่ำรวยที่สุด อย่าง Bill Gates กับ Warren Buffett น่าจะพอเป็นแนวทางในการใช้เงินของเราได้ไม่น้อย 7 ข้ออย่าทำเกี่ยวกับการใช้เงิน 1.อย่ายอมเสียเงินค่าธรรมเนียม คนรวยรู้ว่าค่าธรรมเนียมเป็นการเสียเงินที่แย่ที่สุด ดังนั้นแนวทางที่ถูกต้องคือการชำระค่าใช้จ่ายให้ตรงเวลา พวกเขาใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของบริการ autopay เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายล่าช้าสำหรับทุกอย่างตั้งแต่ค่าสาธารณูปโภคไปจนถึงสินเชื่อบัตรเครดิต 2.อย่าทำให้เสียเครดิต เครดิตของคุณมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของคุณ เครดิตที่ดีสามารถสร้างรายได้ให้คุณจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ และช่วยให้คุณประหยัดเงินหลายพันดอลลาร์ในช่วงระยะเวลาที่ใช้สินเชื่อ หากเครดิตของคุณไม่ดีอาจทำให้คุณไม่ได้รับเงินกู้ในจำนวนที่คุณต้องการ 3.อย่าใช้จ่ายเรื่องฟุ่มเฟือย เราจะเห็นว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่มักจะจ่ายเงินสดจำนวนมากกับเรื่องไร้สาระ แต่ผู้ที่ฉลาดหลักแหลมจะประหยัดจนน่าตกใจ คุณรู้ไหมว่า Bill Gates สวมนาฬิการาคา 10 เหรียญ ในขณะที่ Warren Buffett กินอาหารเช้าแบบเดียวกันที่แมคโดนัลด์ทุกวัน แต่ละมื้อไม่เคยเกิน 3.17 เหรียญ ส่วน Mark Zuckerberg ยังคงขับ Volkswagen แบบเกียร์ธรรมดา 4.อย่าตกเป็นทาสการตลาด การตลาดมีให้เห็นอยู่ทุกหนทุกแห่ง ผู้คนมากมายหลีกเลี่ยงการตกหลุมเหล่านั้น อย่าทำการซื้อสินค้าที่คุณไม่อยากได้จริงๆ เพียงเพราะมันราคาถูก แต่ให้ซื้อสินค้าที่คุณต้องการอย่างแท้จริงในราคาที่สมเหตุผลแทน เพราะบางครั้งการตัดสินใจซื้อของราคาถูกอาจจะสร้างความเสียหายมากกว่าที่คุณคิด […]

7 สัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณกำลังจะเป็นเศรษฐีคนต่อไป

นิสัยของการเป็นมหาเศรษฐีที่ใช้ความสามารถจาก 1 สมอง 2 มือ ของคนๆ หนึ่ง (ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นท่านก็ได้ …ใครจะรู้)….จะสะท้อนให้เห็นได้จากปัจจัย หรือสิ่งใดได้บ้าง เว็บไซต์ thinkbusinessplan.com ได้รวบรวมสัญญาณ 7 ข้อที่จะบอกว่านี่แหล่ะ มหาเศรษฐีแท้ๆ ตัวจริงเสียงจริงไว้ดังต่อไปนี้ สัญญาณที่ 1 คิดเชิงบวก (Positive Thinking) หรือ มองชีวิตแบบเหรียญสองด้าน ชีวิตของเรานั้น เป็นผลมาจากการที่เราคิดอย่างไร หรือ คิดว่าจะทำอะไร อย่างไร กับชีวิตเรา หากเราคิดแบบลบๆ ชีวิตเราก็จะเต็มไปด้วยเรื่องลบๆ ไอ้นั่นก็ไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ใช่ มองอะไรเป็นอุปสรรค เป็นปัญหาไปหมด…แบบนี้ชีวิตยอดแย่แน่นอน…ในทางตรงกันข้าม หากคิดเชิงบวก หรือ คิดแบบบวกๆ มองทุกอย่างแบบเหรียญสองด้าน ก็คือ เห็นทั้งด้านบวก และ ด้านลบ….ด้านบวกจะช่วยเราได้อย่างไร และจะป้องกันปัญหา หรือ ความเสี่ยงจากด้านลบอย่างไร แค่นี้ ชีวิตก็ไปได้ฉลุย ถึงแม้จะมีปัญหาบ้าง แต่ด้วยการคิดเชิงบวก หรือ มองชีวิตแบบเหรียญสองด้าน…ปัญหาทุกอย่าง มักจะถูกพลิกให้เป็นโอกาสได้เสมอ สัญญานที่ […]

ถ้า 2 คนนี้คอนเฟิร์ม ก็ทำตามได้เลยรับรองชีวิตรุ่งแน่

ความคิดเห็นที่ตรงกันของ 2 มหาเศรษฐีอย่าง Warren Buffett และ Bill Gates คือเรื่องของการใช้เวลา เพราะมีความเห็นตรงกันว่า “เวลา” เป็นสิ่งเดียวที่มีเงินมากมายขนาดไหนก็ไม่อาจซื้อได้ Bill Gates บอกว่าส่วนตัวเขาเองไม่ยอมเสียเวลาไปกับการดูหนังและการฟังเพลงเลย ตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ แล้ว เพราะเขาบอกว่าการฟังเพลงหรือดูหนังนั้นจะทำให้ความคิดของเขาหลุดออกไปจากเรื่องสำคัญที่กำลังทำอยู่ ซึ่งก็คือการคิดเกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์นั่นเอง นอกจากนั้นเขายังปลูกฝังเรื่องของการให้ความสำคัญกับความคิดหลัก โดยพยายามตัดเครื่องมือที่ทำให้เสียสมาธิอย่างโทรศัพท์มือถือออกไปจากชีวิตลูกๆ ของเขาด้วย ลูกของเขาได้รับโทรศัพท์มือถือตอนอายุ 14 ปี ทั้งๆ ที่เด็กอเมริกันจะได้เป็นเจ้าของกันตอนอายุ 10 ปี แถมยังมีกฎเหล็กว่าในการทานอาหารร่วมกันของครอบครัว ห้ามใครเล่นโทรศัพท์บนโต๊ะอาหารเด็ดขาด Warren Buffett ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ยอมเสียเวลาไปกับอินเทอร์เน็ต เพราะเชื่อว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลานั้นเท่ากับพร้อมที่จะรับสิ่งเร้าอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานหลักที่ตัวของเขาเองต้องการ แน่นอนว่าทุกวันนี้เขายังใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นที่เป็นฝาพับอยู่เลย ทั้งๆ ที่ ทิม คุ๊ก CEO ของแอปเปิลนำเสนอไอโฟนให้เขาบ่อยๆ เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นตัวอย่างของการเลือกใช้เวลาให้คุ้มค่า ด้วยการเลือกทำกิจกรรมที่เกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวเองก่อน ที่จะแบ่งเวลาไปทำเรื่องอื่น ส่วนกิจกรรมที่เขาให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกก็คือการอ่านหนังสือและเอกสารวันละ 500 หน้าทุกวัน บทเรียนที่เราได้จากมหาเศรษฐีทั้ง 2 คนนี้คือ “โฟกัสที่กิจกรรมระหว่างวันที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดก่อนเสมอ” แล้วค่อยๆ ลดกิจกรรมที่เกิดประโยชน์ต่ำสุดออกไป […]

8 นิสัยที่ทำให้คุณกลายเป็นคนเจ้าเสน่ห์

คนที่มีเสน่ห์นั้นพวกเขามันจะมีพลังดึงดูดพิเศษ ที่ทำให้คนอยากเข้าใกล้ จะพูดจะทำอะไรก็ดูดีดูน่าเชื่อถือไปหมด หลายคนเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้พรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่จากการศึกษาครั้งล่าสุดพบว่า เรื่องของเสน่ห์เป็นสิ่งที่สร้างกันขึ้นมาได้ เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้วเราก็ควรจะเรียนรู้ที่จะทำให้ตัวเองกลายเป็นคนมีเสน่ห์ขึ้นมา เพราะสิ่งที่จะตามมานั้นมีประโยชน์กับตัวคุณอย่างมากมาย คุณจะสามารถดึงดูดคนเข้ามาเสริมสร้างเครือข่ายของคุณ นั่นหมายถึงจำนวนของลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย 8 นิสัยที่จะทำให้คุณกลายเป็นคนมีเสน่ห์ 1.คุณต้องมีความหลงใหล เวลาที่ใครสักคนแสดงออกถึงความหลงใหลในอะไรบางอย่างแบบสุดหัวใจ พลังงานเหล่านั้นจะถูกส่งออกมายังคนรอบข้าง และเมื่อพวกเขาสัมผัสกับมันได้ คุณจะกลายเป็นคนที่น่าสนใจขึ้นมาทันที หาให้เจอว่าอะไรที่คุณกำลังหลงใหลมันแบบโงหัวไม่ขึ้น 2.คุณต้องลองทำสิ่งใหม่ ๆ คุณต้องกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ ลองค้นหาดูว่ามีอะไรที่คุณชอบแต่ยังไม่เคยลองทำ เลือกแล้วทำมันเลยตั้งแต่วันนี้ การลองหาประสบการณ์ใหม่ๆ จะส่งผลดีให้กับอารมณ์ของคุณโดยตรง คนที่มีความสุขนั้นจะเปลี่ยนตัวเองเป็นแม่เหล็กคอยดึงดูดคนรอบข้างที่น่าสนใจเข้ามาเสมอ 3.คุณต้องเป็นตัวของตัวเอง อย่าพยายามที่จะเลียนแบบใคร เพราะนั่นจะทำให้คุณถูกกลืนเข้าไปในฝูง แล้วก็จะไม่มีใครสนใจคุณอีกเลย ในบรรดาคนที่มีเสน่ห์พบว่าพวกเขามักจะมีบุคลิกที่แตกต่างจากคนทั่วไปไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่งเสมอ ดังนั้นการเป็นตัวของตัวเองนั่นแหละดีที่สุด มันจะทำให้คุณแตกต่างและน่าสนใจ 4.อย่าเดินตามสูตรสำเร็จ ไม่มีอะไรน่าเบื่อมากไปกว่าการใช้ชีวิตตามสูตร ผู้คนที่มีเสน่ห์ต่างก็เลือกเดินในเส้นทางของตัวเอง แม้มันจะแลดูผิดปกติไปจากสิ่งที่คนทั่วไปทำก็ตาม ผู้ที่มีเสน่ห์คือนักสร้างสรรค์ที่พร้อมจะฝ่าฝืนกฎเกณฑ์เก่าๆ เพื่อสร้างแนวคิดใหม่ที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจ 5.เลือกที่จะฟังเสียงตัวเอง เรื่องนี้ โอปราห์ วินฟรีย์ เป็นคนที่อธิบายเรื่องนี้ได้ดีที่สุด เธอกล่าวว่า “การตัดสินใจที่ถูกต้องในชีวิตทุกครั้งเกิดจากความกล้าหาญของฉันเอง ส่วนการตัดสินใจที่ผิดพลาดทุกครั้งเกิดขึ้นจากการที่ไม่ยอมฟังเสียงของหัวใจตัวเอง” คงจะยืนยันได้ชัดเจนว่าคนมีเสน่ห์มักจะทำตามที่หัวใจเรียกร้องเสมอ 6.เรียนรู้ตลอดเวลา สำหรับคนมีเสน่ห์ส่วนหนึ่งเกิดจากความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่เคยรู้ นำไปสู่การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และด้วยการเรียนรู้แบบไม่รู้จบนี่เองจะทำให้ตัวเรากลายเป็นคนที่น่าสนใจขึ้นมาทันที เพราะมันเพิ่มโอกาสในการเปิดการสนทนากับคนในแวดวงต่างๆ เพิ่มมากขึ้น […]

สร้างนิสัยใหม่ภายใน 21 วัน ไม่ต้องรอ New Normal

ทฤษฎี 21 วัน คือทฤษฎีที่อธิบายถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ โดยสาระสำคัญที่ ดร. แมคเวล มอลท์ (Dr.MaxwellMaltz) เขียนไว้ในหนังสือ Psycho-Cybernetics ว่า “การกระทำ” จะตกผลึกกลายเป็น “นิสัย” โดยการกระทำต่อเนื่องอย่างน้อย 21 วัน บนพื้นฐานความเชื่อว่าเราจะเป็นไปได้ และมีสติในการลงมือทำ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ปรารถนาการเติบโตในหน้าที่การงาน ในเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนฝูง ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรือในทุกพื้นที่ที่คุณต้องการ หลักการง่ายๆ คือ เพียงแค่เขียนถึงสิ่งที่คุณต้องการขึ้นมา และระบุลงไปให้ชัดว่าการกระทำใดจะทำให้คุณไปถึงจุดที่คุณต้องการ แล้วลงมือทำตามนั้นต่อเนื่อง 21 วัน คุณก็จะกลายเป็นคนใหม่ตามที่คุณต้องการ สำหรับคนที่ต้องการเป็นคนประสบความสำเร็จ เรามีแนวทางของนิสัยที่ผู้ประสบความสำเร็จมักจะทำกันมาฝาก ลองทำตามแนวทางนี้ต่อเนื่อง 21 วัน คุณจะเปลี่ยนไปอย่างที่ตัวคุณเองก็นึกไม่ถึง 12 นิสัยของผู้ประสบความสำเร็จ 1.เลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง แล้วสร้างนิสัย ‘ลงมือทำทันที’ 2.เลิกใช้คำพูดด้านลบ โดยการเลิกคิดลบ แล้วให้มีสติทุกครั้งในการคิดเพื่อพูดในแง่ที่เป็นบวกเท่านั้น 3.เลิกนิสัยการจับผิดผู้อื่น แล้วหันมาเฝ้ามองตัวเองเพื่อมีสติอยู่กับการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา 4.เลิกนิสัยดูโทรทัศน์เกิน 60 นาทีต่อวัน แล้วสร้างนิสัยการหาความรู้ใส่ตัวเองแทน 5.ตรวจสอบร่างกายและการแต่งกายของตัวเองทุกวัน ก่อนออกไปพบปะผู้คน […]

วิธีปฏิเสธอย่างนุ่มนวล และทำให้เราไม่รู้สึกแย่

ความเกรงใจ ที่แบ่งออกเป็นสองประเภทคือ ความเกรงใจ เพราะใส่ใจ กับ ความเกรงใจ เพราะเกรงกลัว ต่างกันตรงที่ หากเราคิดถึงคนอื่น นั่นคือความเกรงใจ แต่หากเราคิดถึงแต่ตัวเอง นั่นคือความเกรงกลัวคนไทยเป็นคนขี้เกรงใจ มักใจอ่อน ปฏิเสธคนอื่นไม่เป็น ก็คงจะไม่เป็นไร หากความเกรงใจเหล่านั่นจะไม่ได้ทำให้เรารู้สึกแย่หรือเดือดร้อน แต่การจะบอกปัดอย่างแข็งกระด้างก็คงไม่ดี ดังนั้น มาดูวิธี ปฏิเสธ ให้นุ่มนวลจนเกิดความคุ้นชินกันดีกว่า 1. สิ่งที่เราพูด ไม่สำคัญเท่าวิธีที่เราพูด เช่น ระหว่างการถูกโยนทองคำใส่หน้า กับการได้รับเหรียญห้าพร้อมคำพูดที่มีความหมายหวานๆ คุณชอบวิธีไหนมากกว่ากัน คนส่วนใหญ่มักจะชอบการได้รับ มากกว่าการถูกกระทำ แม้ว่ามูลค่าของสิ่งของที่ได้มาจะต่างกันก็ตาม 2. ปฏิเสธโดยเสนอสิ่งที่เทียบเท่าหรือดีกว่ากลับไป 3. มีศิลปะในการพูด มีทักษะในการโน้มน้าว เช่น เข้าไปหาในเชิงการขอคำปรึกษา บอกเล่าปัญหาหรือปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เราไม่สามารถตอบตกลงกับเขาได้ แล้วลองขอคำปรึกษาว่าเราควรทำอย่างไรดี 4. อย่าลืมให้เหตุผล อย่าตอบปฏิเสธแบบห้วนๆ โดยเด็ดขาด ยกเว้นว่าอยากจะตัดขาดกับคนที่เราปฏิเสธ 5. มองตา สัมผัสตัว หรือยิ้มให้ สุดท้ายคือการ ฝึก เพื่อให้เกิดความเคยชิน และ ปฏิเสธ […]

วิธีบริหารจัดการ “พนักงานที่ไม่ทำงาน”

การเพิกเฉย ต่อพนักงานที่มีผลงานต่ำ หรือ ไม่ทำงานนั้น เป็นเรื่องง่าย เพราะ ไม่ใช่เรื่องสนุก (+ อึดอัด ลำบากใจ ห่อเหี่ยว) ที่จะไปบอก ไปติดตาม ไปแก้ไข ทุกคน ให้มีความรับผิดชอบ งานที่ได้รับมอบหมาย และทำให้ พนักงาน คนนั้น ไม่พอใจ (Conflict) แต่ หาก เพิกเฉย พนักงาน ที่ มีผลงานต่ำ หรือ ไม่ทำงาน ไม่แก้ไข หรือลงโทษ จะทำให้ พนักงานที่ดี เสียกำลังใจ เพราะพนักงานที่ดี จะเป็นผู้ที่ต้อง แบกรับภาระงานเพิ่ม จาก งานที่ บางคน ไม่ทำ (Negative consequences of Retaining a Poor Performer) ซุนวู กล่าวว่า ถ้าทหาร ที่ใกล้ชิดแม่ทัพ ทำผิด แต่ไม่ได้ […]

ต้องมี 6 สิ่งนี้ หากคิดจะเป็นผู้นำ

6 สิ่งที่ “ผู้นำ” ต้องมี ไม่ว่าจะเป็นผู้นำครอบครัว หรือผู้นำองค์กร “เสน่ห์ของผู้นำ” มีความสำคัญมาก เพราะอดีตเราเอาชนะกันด้วยกำลัง แต่ปัจจุปันเราเอาชนะกันด้วยเสน่ห์ เสน่ห์ที่ดึงดูดให้คนอยากทำตาม ซึ่งการจะมีเสน่ห์ดึงดูดผู้อื่นได้ต้องมีบุคลิกภาพที่ดี และนี่คือบุคลิกที่ “ผู้นำ” ควรมี ภายใน 1. เป็นผู้นำที่ “ไว้ใจได้” พูดคำไหนคำนั้น พูดอย่างไรทำอย่างนั้น “ไม่ขี้ลืม” 2. เป็นผู้นำที่ “ซื่อสัตย์” การโกหก หรือการสร้างภาพ จะทำให้เรามีเสน่ห์แค่ชั่วคราว และเมื่อถูกจับได้จะทำให้เสน่ห์นั้นหายไปจนหมดในครั้งเดียว ภายนอก 1. คนเราจะชอบอยู่ใกล้หรือเดินตามคนที่เราอยู่ด้วยแล้วสบายใจ และพึ่งพาได้ จงแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเรามีความสามารถ และความสามารถของเรามีประโยชน์ต่อชีวิตของเขา อย่างจริงใจ เช่น มีลูกน้องมาบ่นปัญหาให้เราฟัง เราเก็บปัญหาของเขามาคิด เอาใจเขามาใส่ใจเรา หาวิธีการแก้ปัญหา และสามารถแก้ปัญหาให้เขาได้ 2. รูปลักษณ์ภายนอก และทักษะการพูดสำคัญมาก น้ำเสียงก็สำคัญ“ไม่นินทาลับหลัง” คือ สามารถพูดลับหลังในเชิงวิเคราะห์ได้ แต่ไม่ควรวิจารณ์ 3. มีความเป็นผู้ใหญ่ (ไม่เกี่ยวกับวัยวุฒิ) คือ หาทางแก้ไข มากกว่าหาทางแก้ตัว […]

ขายของออนไลน์ เช็คให้ดีก่อนว่าสามารถทำตามกฎเหล็ก 9 ข้อนี้ได้หรือไม่?

ไม่ว่าผู้ประกอบการจะขายสินค้าอะไรก็ตาม สิ่งแรกที่จะต้องทำคือการพรีเซนต์ตัวเองให้ได้ก่อน หรือที่เราเข้าใจง่ายๆคือ ขายตัวเองให้ได้ก่อน ทำยังไงให้คนรู้จัก จึงจะสามารถขายสินค้าให้กับลูกค้าได้ โดยก่อนที่จะเริ่ม ขายของออนไลน์ ผู้ประกอบการควรเช็คให้ดีก่อนว่าสามารถทำตามกฎเหล็ก 9 ข้อนี้ได้หรือไม่ โดยมีกฎเหล็กดังนี้ 1. ถามตัวเองก่อนว่ามีเวลาไหม? แน่นอนว่าการขายของนั้นทุกคนหวังรายได้และกำไรที่เข้ามา แต่หลายๆคนกลับไม่ให้เวลากับมัน คิดแต่จะให้ลูกค้าเข้ามาหาเราอย่างเดียว เหมือนกับเราปลูกต้นไม้ขึ้นมา แต่ถ้าขาดการดูแล ต้นไม้นั้นก็ตาย เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตามการให้เวลากับสิ่งนั้นๆอย่างเต็มที่จะส่งผลให้ผลลัพธ์ออกมาดี เพราะธุรกิจคือการลงทุน และเวลาเองก็เป็นต้นทุนในการเริ่มธุรกิจ 2. ต้องมีชื่อแบรนด์ โดยชื่อแบรนด์ที่ใช้ควรเป็นชื่อที่ต่อยอดไประดับสากลได้ ซึ่งการตั้งชื่อแบรนด์ควรจะมีความสอดคล้องกับสินค้าหรือมีเรื่องราวจึงจะสามารถสร้างการจดจำได้ 3. ต้องขายในสิ่งที่ตลาดต้องการ หลาย ๆ คนมักจะเลือกขายในสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่หลงลืมไปว่าสิ่งที่ตัวเองชอบนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ตลาดต้องการสักเท่าไหร่ โดยสิ่งที่เราชอบรายได้อาจจะไม่เกิดหรือไม่เติบโต แต่หากขายในสิ่งที่ตลาดชอบและเราเข้าใจกับมัน เราจะได้รายได้กลับมา 4. ต้องมีทุน ทุน ถือได้ว่าเป็นปัจจัยแรกๆที่คนคิดถึงก่อนที่จะเริ่มธุรกิจ เพราะการทำธุรกิจจำเป็นจะต้องใช้ทุนในการเริ่มต้น จะทุนเล็กหรือทุนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าเราวางแผนธุรกิจอย่างไร งบประมาณที่จะใช้ในการผลิต การโปรโมทจะต้องใช้เท่าไหร่ และทุนเท่าไหร่ถึงจะทำให้แบรนด์เราออกมาดูดีจึงต้องมีการวางแผนและเตรียมการในเรื่องของเงินทุน 5. ช่องทางการขาย ช่องทางการขายถือได้ว่าเป็นช่องทางที่จะสร้างรายได้ให้กับธุรกิจของเรา โดยผู้ประกอบการเองต้องมีจุดยืนว่าสินค้าที่เราผลิตนั้นจะให้ไปไกลแค่ไหน ขายแค่ในประเทศ หรือส่งออกไปต่างประเทศ และช่องทางการขายไหนถึงจะเหมาะสม 6. แผนการตลาด […]

เปรียบเทียบกันให้ชัด “บริษัท” กับ “บุคคลธรรมดา” ทำธุรกิจแบบไหนเสี่ยงน้อยที่สุด

ปัจจุบันการทำธุรกิจแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.รูปแบบของบุคคลธรรมดา และ 2.รูปแบบนิติบุคคล ซึ่งธุรกิจแต่ละรูปแบบก็จะมีการกำหนดแนวทางที่ต่างกันออกไป ตลอดจนมีผลต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และโอกาสการได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ไม่เหมือนกัน สำหรับบทความนี้ Smartsme จะพามาเปรียบเทียบกันว่าระหว่างธุรกิจในรูปแบบของ “บริษัท” และ “บุคคลธรรมดา” มีข้อดี – ข้อเสียในด้านต่างๆ อย่างไรบ้าง ด้านการทำบัญชี “บริษัท” จะต้องจัดทำบัญชีตามมาตรฐานบัญชี และจัดให้มีผู้ตรวจสอบ พร้อมกับรับรองบัญชี ประกอบด้วย มีข้อมูลทางบัญชีที่น่าเชื่อถือในแต่ละธุรกรรม, รู้สภาพปัจจุบันของธุรกิจ ทั้งกำไร/ขาดทุน/ต้นทุน, รู้สถานะที่แท้จริงของกิจการ และนำข้อมูลมาใช้วางแผนทางธุรกิจ “บุคคลธรรมดา” จะต้องจัดทำรายงานเงินสดรับจ่าย ตามมาตรา 40(5) (6) (7) และ (8) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่ว่าจะหักค่าใช้จ่ายในอัตราเหมา หรือหักค่าใช้จ่ายตามจริงก็ตาม มีหน้าที่ต้องจัดทำรายงานเงินสดรับจ่ายดังกล่าว ด้านความน่าเชื่อถือ “บริษัท” มีความน่าเชื่อถือมากกว่า เพราะว่ามีการจดทะเบียนจัดตั้งกับหน่วยงานของภาครัฐ รวมถึงมีการจัดทำบัญชีตามมาตรฐาน “บุคคลธรรมดา” มีความน่าเชื่อถือน้อยกว่า เพราะการจัดตั้งทำได้ง่าย มีข้อบังคับทางกฎหมายน้อย อีกทั้งยังไม่ได้ทำบัญชีมาตรฐานที่กำหนด […]

ขายของออนไลน์ เช็คให้ดีก่อนว่าสามารถทำตามกฎเหล็ก 9 ข้อนี้ได้หรือไม่

อาจารย์วสันต์ ฤทธิ์มนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัทมีดี สกอล่าร์ เทรนด์นิ่ง แอนด์ ดีวีลอปเม้นท์ จำกัด กล่าว เรื่อง ขายของออนไลน์ ไม่ว่าผู้ประกอบการจะขายสินค้าอะไรก็ตาม สิ่งแรกที่จะต้องทำคือการพรีเซนต์ตัวเองให้ได้ก่อน หรือที่เราเข้าใจง่ายๆคือ ขายตัวเองให้ได้ก่อน ทำยังไงให้คนรู้จัก จึงจะสามารถขายสินค้าให้กับลูกค้าได้ โดยก่อนที่จะเริ่ม ขายของออนไลน์ ผู้ประกอบการควรเช็คให้ดีก่อนว่าสามารถทำตามกฎเหล็ก 9 ข้อนี้ได้หรือไม่ โดยมีกฎเหล็กดังนี้….. 1. ถามตัวเองก่อนว่ามีเวลาไหม? แน่นอนว่าการขายของนั้นทุกคนหวังรายได้และกำไรที่เข้ามา แต่หลายๆคนกลับไม่ให้เวลากับมัน คิดแต่จะให้ลูกค้าเข้ามาหาเราอย่างเดียว เหมือนกับเราปลูกต้นไม้ขึ้นมา แต่ถ้าขาดการดูแล ต้นไม้นั้นก็ตาย เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตามการให้เวลากับสิ่งนั้นๆอย่างเต็มที่จะส่งผลให้ผลลัพธ์ออกมาดี เพราะธุรกิจคือการลงทุน และเวลาเองก็เป็นต้นทุนในการเริ่มธุรกิจ 2. ต้องมีชื่อแบรนด์ โดยชื่อแบรนด์ที่ใช้ควรเป็นชื่อที่ต่อยอดไประดับสากลได้ ซึ่งการตั้งชื่อแบรนด์ควรจะมีความสอดคล้องกับสินค้าหรือมีเรื่องราวจึงจะสามารถสร้างการจดจำได้ 3. ต้องขายในสิ่งที่ตลาดต้องการ หลาย ๆ คนมักจะเลือกขายในสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่หลงลืมไปว่าสิ่งที่ตัวเองชอบนั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่ตลาดต้องการสักเท่าไหร่ โดยสิ่งที่เราชอบรายได้อาจจะไม่เกิดหรือไม่เติบโต แต่หากขายในสิ่งที่ตลาดชอบและเราเข้าใจกับมัน เราจะได้รายได้กลับมา 4. ต้องมีทุน ทุน ถือได้ว่าเป็นปัจจัยแรกๆที่คนคิดถึงก่อนที่จะเริ่มธุรกิจ เพราะการทำธุรกิจจำเป็นจะต้องใช้ทุนในการเริ่มต้น จะทุนเล็กหรือทุนใหญ่ขึ้นอยู่กับว่าเราวางแผนธุรกิจอย่างไร […]

อยากขายของใน Lazada ต้องทำอย่างไรที่นี่มีคำตอบ

เดี๋ยวนี้หากพูดถึงการขายของออนไลน์ ต้องยอมรับว่ามองไปทางไหนก็พบผู้ที่ลงทุนในธุรกิจนี้มากมายไปหมด บางคนเลือกขายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือจะให้ดีหน่อยก็ใช้ช่องทางมาร์เก็ตเพลสดำเนินการขายสินค้า เพราะมีการวางระบบตั้งแต่การโพสต์ขายสินค้าตลอดจนการส่งสินค้าไปยังผู้บริโภค หากเอ่ยถึงมาร์เก็ตเพลสในตลาดอีคอมเมิร์ซคงไม่มีใครไม่รู้จัก Lazada ผู้ให้บริการขายสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มาพร้อมกับการให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่การรับออเดอร์ การขนส่ง และบริการชำระเงินปลายทางที่เดียวจบ แล้วแบบนี้ผู้ที่สนใจอยากจะขายของบนแพลตฟอร์มดังกล่าว จะมีวิธีการอย่างไร และต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง มาดูกันครับ สำหรับขั้นตอนเปิดร้านขายของกับ Lazada มีดังต่อไปนี้ 1.เข้ามาที่เว็บไซต์ www.lazada.co.th และกดคลิกตรง “ขายสินค้ากับลาซาด้า” 2.หลังจากนั้นจะพบหน้าโปรโมทของ Lazada ไม่ว่าจะเป็น ค่าคอมมิชชั่น, สิ่งที่ผู้ขายจะได้รับ รวมถึงเหตุผลที่คุณต้องมาขายสินค้าบน Lazada เมื่ออ่านเสร็จเรียบร้อยให้กดคลิก มาร่วมเป็นร้านค้าตอนนี้ หลังจากนั้นให้กรอกรายละเอียดในช่องต่างให้ครบถ้วน ตามรูปภาพดังต่อไปนี้ 3.หลังจากนั้นจะเป็นการเข้าสู่ระบบ Seller Center ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าระบบหลังบ้านนั่นเอง โดยผู้ขายจะล็อกอินแบบอัตโนมัติ เมื่อลงทะเบียนเป็นที่เรียบร้อย และให้คลิกที่หัวข้อ “เพิ่มสินค้า” 4.ทำตาม 5 ขั้นตอนให้เรียบร้อย โดยผู้ขายสามารถเรียนรู้วิธีทำได้จากมหาวิทยาลัยลาซาด้า 5.ต่อมาทำการคลิกหัวข้อ “ทำการอบรม” เพื่อเรียนรู้วิธีการใช้ระบบ Seller Center จากอีเมลที่ได้รับหลังการสมัคร 6.เมื่อทำการอบรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้คลิกเข้าที่หัวข้อ “บัญชีธนาคาร” เพื่อกรอกรายละเอียดข้อมูลธนาคาร […]

ปิดจ็อบแบบเนียนๆ กระตุ้น ‘ความต้องการซื้อ’ ของลูกค้าแบบไม่รู้ตัว

ลูกค้าของเราบางครั้งก็ไม่ได้ใช้เหตุผลในการตัดสินใจเสมอไป ถ้าเราสามารถกระตุ้นอารมณ์ความต้องการซื้อให้เกิดขึ้นในใจเขาได้มากพอ เขาจะลืมเรื่องของหลักเหตุผลทุกอย่างไปจนหมดสิ้น ทั้งราคา คุณสมบัติ ประโยชน์ และความจำเป็น รวมถึงความคุ้มค่าต่างๆ เพราะคนเราจะเกิดความต้องการซื้อสิ่งสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้นั้น จุดเริ่มต้นก็คือ ‘อารมณ์’ นั่นเอง จากนั้นค่อยนำ ‘เหตุผล’ มาช่วยประกอบการตัดสินใจ ลองย้อนตัวเองดูก็ได้ว่า เราก็มีสิ่งหลายสิ่งที่อยากจะซื้อทั้งๆ ที่บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นขนาดนั้น เช่น กระเป๋าแพงๆ โทรศัพท์หรูๆ ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วจะซื้ออะไรก็เหมือนกัน นั่นเพราะอารมณ์สั่งให้เราซื้อ เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจที่ได้ใช้ของดีๆ นั่นเอง ดังนั้นถ้าคุณเองสามารถกระตุ้นอารมณ์ลูกค้าให้เกิดขึ้น ด้วย 4 เทคนิคนี้ได้ล่ะก็ ไม่ว่าสินค้าจะเป็นอะไร เขาก็จะอยากใช้บริการแน่นอน 1. ทำตัวเองให้ดูดีที่สุดไม่ว่าจะเป็นหน้าร้าน หรือเว็บไซต์ สิ่งสำคัญเลยคือ ทำให้ตัวตนของเราดูดีที่สุดอยู่เสมอ นี่คือสิ่งแรกที่จะช่วยเรียกความประทับใจของลูกค้าได้ หรือถ้าจำเป็นต้องพูดคุยกันจริงๆ ก็ต้องเริ่มจากเครื่องแต่งกาย รวมถึงการดูแลตัวเอง หนวด ผม เล็บ ทุกอย่างต้องเรียบร้อยและดูดี เพราะสิ่งที่จะกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจได้อย่างแรกเลย ไม่ใช่สินค้า แต่เป็นเราต่างหาก ขายตัวเองให้ผ่านก่อนอันดับแรก แล้วสิ่งต่างๆ จะตามมาเอง 2. สร้างสถานการณ์ให้ลูกค้ารู้สึกมีปัญหานี่คือทักษะที่สูงมากที่จะช่วยให้ลูกค้าเกิดความต้องการสิ่งของบางอย่างทั้งๆ ที่เขาอาจจะไม่เคยอยากได้มันมาก่อนเลย พยายามพูดถึงปัญหาที่ลูกค้ามีโอกาสจะได้เจอบ่อยๆ […]

ทิ้ง 3 ขี้ + สร้าง 6 มี = ชีวี 9 หน้า

จากประสบการณ์ ที่ทำงานร่วมกับ หนุ่มสาว ชาว Gen Y พบ ข้อดี มากมาย เช่น มีความรู้สูง ทันสมัย ด้านเทคโนโลยี มีความคิดสร้างสรรค์ มั่นใจในตัวเอง กล้าแสดงออก ฉลาด มีไหวพริบดี ฯลฯ แต่ อุปสรรคหลักๆ ทำให้ เขา ยังไม่ก้าวหน้า มีดังนี้ ขี้เกียจ เรียนรู้สมัยก่อน … หากต้องการความรู้ หรือข้อมูลมาทำวิจัย ต้องไป ห้องสมุดไปที่ ตู้ ชื่อเรื่อง หรือ ผู้แต่ง แล้วจด ชื่อเรื่อง ชื่อหนังสือ รหัส หนังสือ หน้าที่เกี่ยวข้อง ฯลฯเดินไปหา หนังสือ ตาม รหัส หนังสือ ที่วาง เรียงบนชั้นเลือกหนังสือ เป็น 10 เล่ม มากองไว้ที่โต๊ะเปิดหนังสือ ทีละเล่ม ตามเลขหน้า […]

5 วิธีสร้างแรงบันดาลใจให้คนทำธุรกิจ หลังโควิด-19 เข้าจู่โจม

อย่างที่เข้าใจดีว่าสถานการณ์โควิด-19 นั้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจในประเทศไทยหนักมาก จนหลายคนที่มีต้นทุนน้อย หรือสายพานธุรกิจสั้นเองต้องหยุดชะงักธุรกิจ ปิดตัวลงไป ซึ่งเรื่องของเงินทุนถึงแม้จะเป็นเรื่องใหญ่ที่จะทำให้ธุรกิจดำเนินไปหรือหยุดแค่นี้ก็จริง แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือกำลังใจของผู้ประกอบการนั่นเอง หากคุณท้อแท้เมื่อไหร่ ความกลัว ความสิ้นหวังก็จะเข้ามาแทนที่ และทำให้ธุรกิจนั้นต้องจบลงอย่างง่ายดาย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพยายามเติมเชื้อไฟให้กับตัวเอง สร้างแรงบันดาลใจ มองหาแต่ความสำเร็จ เมื่อนั้นต่อให้สถานการณ์จะดูย่ำแย่ แต่คุณก็จะไม่ยอมแพ้ และหาทางออกได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะกับช่วงนี้ที่ธุรกิจทุกอย่างถูกทดสอบความอดทน คนที่มีพลังใจที่ดีเท่านั้นถึงจะพาสิ่งที่ตัวเองรักฝ่าฟันมันไปได้ และนี่คือ 5 เคล็ดลับในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนธุรกิจ ไม่ย่อท้อต่อโควิด-19 1. มองหาคำคมจากที่ต่าง ๆ คำคมถึงแม้จะฟังดูเลื่อนลอย และไม่สามารถช่วยคุณอย่างเป็นรูปธรรมได้ก็จริง แต่มันช่วยเติมพลังใจในการทำสิ่งต่างๆ ได้ดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำคมบางอย่างอาจช่วยให้คุณเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเรื่องเลวร้ายไป ให้กลับมามองมันในด้านดี และกระตุ้นให้ลงมือทำสิ่งใหม่ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งคำคมเหล่านี้หาได้ง่ายดายทั้งจากหนังสือ หรือโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคำคมเหล่านั้นมาจากผู้ประสบความสำเร็จด้วยแล้ว การมีทัศนคติ หรือมีวิธีคิดแบบเดียวกับพวกเขาก็จะช่วยให้คุณขยับเข้าใกล้ความสำเร็จไปได้อีกขั้น นี่เป็นวิธีเสริมแรงบันดาลใจที่ง่ายดายที่สุดแต่มีประสิทธิภาพมากๆ ในยุคนี้เลย 2. ดูเรื่องเล่าจากผู้ประสบความสำเร็จ มีคนที่ประสบความสำเร็จมากมายบนโลกใบนี้ที่ก่อนจะมาถึงจุดนั้น เขาต้องผ่านอุปสรรค และฝ่าฟันปัญหาต่างๆ มาอย่างโชกโชนแบบชนิดที่คุณคาดไม่ถึง การเผชิญหน้าโควิด-19 นี้เองก็เป็นเหมือนบททดสอบบทหนึ่งที่จะทำให้รู้ว่าคุณรักในสิ่งที่ทำมากแค่ไหน และพร้อมจะนำพามันผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยแรงทั้งหมดรึเปล่า ซึ่งเรื่องราวเหล่านั้นที่เกิดขึ้นกับคนที่ประสบความสำเร็จ จะเป็นเหมือนกุญแจสู่ความฮึกเหิม อย่างน้อยๆ มันจะบอกให้คุณรู้ว่า […]

ถ้าคุณทำธุรกิจในยุคโควิด-19 นี่คือ 5 สิ่งที่ต้องรู้ เพื่อไม่ให้ล้มตายและสำเร็จได้แบบยั่งยืน

การทำงานหนักไม่ได้การันตีความสำเร็จอย่างที่หลายคนเข้าใจ โดยเฉพาะในช่วงที่ธุรกิจหยุดชะงักเพราะโควิด-19 ยิ่งต้องระมัดระวัง และมองหาจุดเด่นที่สำคัญที่จะช่วยให้การทำธุรกิจของคุณดีขึ้น ซึ่งการจะทำเรื่องทั้งหมดนี้ให้ดีได้ก็ต้องอาศัยความเข้าใจในตัวเอง รู้จักจุดเด่น จุดด้อย และรู้ทิศทางที่คุณจะไปในอนาคต ซึ่งถ้าคุณอยากจะประสบความสำเร็จในช่วงนี้ 5 เรื่องเกี่ยวกับตัวเองเหล่านี้คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้! 1. รู้จักจุดเด่นของตัวเอง สิ่งที่สำคัญอันดับแรก และจะดึงให้คนเข้ามาใช้บริการคือจุดเด่นของธุรกิจคุณ คุณต้องรู้ว่าตัวเองเก่งอะไร ดียังไง และมีอะไรบ้างที่คุณสามารถช่วยเหลือผู้บริโภคได้ คนส่วนใหญ่เข้ามาใช้บริการคุณเพราะอะไร ยิ่งคุณรู้จักตัวเองมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งผลักดันจุดแข็งตรงนั้นให้เด่นชัดยิ่งขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่คนไม่ค่อยใช้เงิน การทำการตลาดแบบทั่วไป หรือโปรโมทแบบสุ่มอย่างเดิม อาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ดังนั้นพยายามจับจุดเด่นและยิงตรงสู่กลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เขารับรู้ว่าถึงแม้ธุรกิจช่วงนี้จะไม่ดี แต่ถ้าจะต้องใช้บริการใครสักคนจริงๆ คนคนนั้นต้องเป็นคุณอย่างแน่นอน 2. รู้ว่าตัวเองจะไปในทิศทางไหน เพราะอนาคตในอีก 5-10 ปีมันอาจจะดูไกลไปสำหรับตอนนี้ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าอยู่ๆ โลกของเราจะเกิดโรคระบาดขึ้นกระจายไปทั่วโลก และส่งผลกระทบกับธุรกิจทุกชนิด ทำให้การวางแผนระยะยาวใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป คุณต้องวางแผนระยะสั้น 1 เดือนข้างหน้า 3 เดือนข้างหน้า หรือ 6 เดือนข้างหน้า ว่าธุรกิจจะวางตัวเองยังไง อยู่ในรูปแบบไหน และเป้าหมายต่อไปคืออะไร เช่นถ้าคุณยังไม่ได้ลองเปิดตลาดออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มใหม่ๆ ช่วงนี้อาจจะต้องทดลอง และกำหนดเป้าหมายให้กับตัวเอง เพื่อมองหาแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่คนจะนิยมในช่วงนี้ สำหรับการเข้าถึงผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น […]

5 หลักปฏิบัติที่ทำให้จีนเอาชนะโควิด-19 ได้

ขณะนี้มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีนซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ไร้ผู้ป่วยโรคโควิด-19 แล้ว หลังผู้ป่วย 12 รายสุดท้ายในนครอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑล ออกจากโรงพยาบาล ทำให้จีนทั้งประเทศขยับใกล้ชัยชนะในศึกสู้ไวรัสร้ายเข้าไปอีกหนึ่งก้าว จีนทำให้เกิดเรื่องราวของความสำเร็จนี้ได้อย่างไร เรารวบรวมแนวทางการปฏิบัติเพื่อชัยชนะเอาไว้ให้แล้ว 5 หลักปฏิบัติที่ทำให้จีนเอาชนะโควิด-19 “ทำทุกวิถีทางเพื่อคุมการแพร่ระบาด“ ประเทศจีนและผู้นำจีนให้ความสำคัญสูงสุดกับชีวิตและสุขภาพของประชาชนเสมอมา โดยตั้งผลประโยชน์ของประชาชนไว้เหนือสิ่งอื่นใด จึงเป็นเหตุให้จีนจะทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งไม่ให้โรคระบาดคร่าชีวิตผู้คน “ทั้งชาติพร้อมสู้เป็นหนึ่งเดียว“ จีนได้ขับเคลื่อนคนทั้งชาติในการร่วมรบใน “สงครามของประชาชน” กับโรคระบาดครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทั่วประเทศมากกว่า 42,000 คน ถูกส่งมายังหูเป่ย แรงงานทั่วประเทศเร่งเดินทางมายังอู่ฮั่นเพื่อสร้างโรงพยาบาลโดยเริ่มต้นจากศูนย์ อีกทั้งทรัพยากรและสิ่งของที่จำเป็นต่างหลั่งไหลมาจากทุกทิศทาง “เป็นกลุ่มก้อนและประสานงาน“ จีนได้จัดตั้งกลไกการบรรเทาและดูแลอย่างเป็นกลุ่มก้อน โดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิงในฐานะผู้บัญชาการสูงสุด ทำให้คณะกรรมการพรรคฯ และบรรดารัฐบาลจากทุกระดับสามารถประสานมาตรการรับมือได้ ทั้งยังปฏิบัติตามคำสั่ง ประสานงานและกระจายงาน จากส่วนกลางได้ “สั่งปิดเมืองที่มีการระบาดหนัก“ จีนมีคำสั่งปิดเมืองอู่ฮั่นโดยปิดช่องทางขาออกตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. นาน 76 วัน จนสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ประชาชนอู่ฮั่นต่างแสดงให้เห็นถึงความมีวินัยและการเสียสละอย่างสูงสุด พวกเขาแยกกันอยู่แต่ในบ้านของตน ทว่ายังยืนหยัดเคียงข้างกัน “ดูแลเด็กและผู้สูงวัย“ จีนทุ่มความพยายามทั้งหมดที่มีในการปกป้องชีวิตผู้ติดเชื้อ ทั้งผู้ป่วยผู้สูงอายุและผู้ป่วยวัยเยาว์ อัตราการรักษาหายโดยรวมของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่อายุมากกว่า 80 ปี อยู่ที่เกือบร้อยละ […]

บอกละเอียดยิบ! ธุรกิจที่ถูกคลายล็อค เมื่อกลับมาเปิดกิจการแล้วต้องมีมาตรการอย่างไร

หลังจากศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด -19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 30 เมษายน 63 ได้มีการผ่อนปรนมาตรการโดยคลายล็อค 6 กิจการ/กิจกรรมให้กลับมาทำธุรกิจ หรือดำเนินงานได้ เริ่มตั้งแต่ 3 พฤษภาคม เป็นต้นไป ศบค. เปิดมาตรการผ่อนปรน ของประเภทกิจการและกิจกรรม เริ่ม 3 พ.ค. นี้ แม้ว่าจะกิจการข้างต้นจะสามารถกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง แต่ก็ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อความมีประสิทธิภาพสำหรับการป้องกันความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งกิจการ/กิจกรรมจะมีมาตรการปฏิบัติอย่างไร มาดูดัน ตามราชกิจจานุเบกษา ที่เผยแพร่คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 2/2563 เรื่อง แนวทางปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยในรายละเอียดมีการกล่าวถึงมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีข้อปฏิบัติหลัก ดังต่อไปนี้ 1.การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในโรงแรม ท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ สถานีขนส่งโรงพยาบาล ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ รถเข็น หาบเร่ แผงลอย ซึ่งไม่รวมสถานบริการ ผับ บาร์ ทำความสะอาดพื้น พื้นผิวสัมผัสบ่อย […]

ถ้าอยากได้งานที่ตั้งใจไว้ นี่คือ 5 สิ่งที่ควรจะเอาออกไปจาก Resume ของคุณ

Resume เป็นคำเรียกติดปากของประวัติย่อ ซึ่งส่วนมากมักจะเอาไว้ใช้ในการสมัครงานเป็นหลัก เนื้อหาในนั้นก็เลยต้องเป็นเรื่องราวน่าประทับใจของเรา ที่จะทำให้คนที่อ่านรู้สึกอยากรู้จักเรามากขึ้น เพื่อนำไปสู่การนัดพบปะเพื่อหาทางร่วมงานกันต่อไป แต่คุณเชื่อไหมว่าบางครั้งการที่เราพยายามขายตัวเองมากเกินไปในทุกช่วงเวลาของชีวิตไม่ส่งผลดีกับตัวของเราเอง แล้วอะไรบ้างที่ไม่ควรใส่เข้าไปในนั้น ลองพิจารณาเรื่องเหล่านี้ดู นี่คือ 5 สิ่งที่ควรจะเอาออกไปจาก Resume ของคุณ 1.ความสำเร็จที่ไม่เกี่ยวข้อง หลีกเลี่ยงการนำเอาความสำเร็จในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่กำลังจะทำการสมัครออกไป ไม่ว่ามันจะเคยเป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม ลองคิดดูว่าหากคุณกำลังจะทำการสมัครงานตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการตัดต่อวิดีโอ แต่คุณกลับเล่าความสำเร็จในเรื่องของการเป็นประธานสมาคมศิษย์เก่า แทนที่จะเล่าให้ฟังว่าเคยทำงานด้านภาพและเสียงให้กับสมาคมศิษย์เก่า คุณว่าเรื่องราวแบบไหนที่จะทำให้คุณกลายเป็นที่สนใจมากกว่า ได้เวลาที่ต้องเรียบเรียงเรื่องราวในชีวิตให้เหมาะกับงานที่ต้องการแล้ว 2.ภาษาเขียนแบบรายงาน เลิกการเขียนในรูปแบบที่เหมือนการเขียนรายงานได้แล้ว แต่ให้เขียนในภาษาที่เหมือนกับคุณกำลังเล่าเรื่องให้คนที่อยู่ตรงหน้าฟัง เพราะคนที่กำลังอ่าน Resume ของคุณ ก็เหมือนเขากำลังฟังการเล่าเรื่องของคุณจากปากของคุณเองนั่นแหละ เขียนให้เหมือนการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ แล้วเขาก็จะสนใจคุณขึ้นมาจริงๆ 3.เนื้อหาในส่วนอ้างอิง เอาเนื้อหาในส่วนของการอ้างอิงออก ไม่ว่าจะเป็นการอ้างอิงองค์กรและการอ้างอิงบุคคล เพราะการที่คุณใส่ข้อมูลในการอ้างอิงเหล่านั้นเข้าไป ส่วนมากจะเป็นข้อเสียมากกว่าข้อดี เพราะถ้าบริษัทอ่านแล้วสนใจในตัวคุณขึ้นมา เขาจะพยายามหาทางให้ได้มาซึ่งข้อมูลเหล่านั้นเอง หรือไม่ก็รอให้เขาร้องขอข้อมูลเพิ่มเติม เพราะการขอข้อมูลเพิ่มคือการแสดงความสนใจอย่างหนึ่ง เก็บบางอย่างไว้ทำให้ดูน่าสนใจกว่า 4.เป้าหมายในชีวิต เลิกทำตามรูปแบบมาตรฐานทั้งหลายที่มักจะให้คุณต้องใส่เรื่องของ เป้าหมายในชีวิตเข้าไปในอันดับต้นๆ ของประวัติย่อ ขอแนะนำว่าให้เอามันออกไปจากประวัติของคุณเลย เพราะเรามีเวลาน้อยมากในการนำเสนอตัวเองให้กับคนที่กำลังอ่านประวัติเรา เรื่องของเป้าหมายชีวิตไม่ได้ช่วยให้คุณได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นมาเลย ตัดมันออกไปแล้วไปเน้นเรื่องที่เกี่ยวกับงานที่ต้องการดีกว่า 5.ความชอบส่วนตัว การแนะนำตัวผ่านทางหน้ากระดาษครั้งแรก เรื่องของความชอบส่วนตัวว่าคุณมีลูกกี่คน ชอบฟังเพลงแนวไหน กีฬาอะไรที่คุณชอบเล่น หนังแบบไหนที่คุณชอบดู […]

เช็คดี ๆ คุณยังมี 9 พฤติกรรมที่ต้องเลิกทำให้ไวเพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอยู่หรือเปล่า

หากคุณต้องการเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ ต้องกำจัดพฤติกรรมที่คอยขัดขวางความสำเร็จของคุณออกไปจากชีวิต ส่วนจะมีเรื่องไหนบ้างนั้นไปดูกันเลย 9 พฤติกรรมที่ขัดขวางความสำเร็จของผู้ประกอบการ 1.นอนไม่พอ การนอนไม่พอพร้อมจะทำลายทุกอย่างในชีวิตของคุณ แม้ว่าคุณจะสามารถลากตัวเองออกจากเตียงเร็วหรือตื่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติไม่ว่าคุณจะเข้านอนเวลาไหนก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะทำงานได้ดีหรือดีที่สุด การอดนอนทำให้เราหงุดหงิด และทำการตัดสินใจได้ไม่ดี ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดน้อยลง 2.ปาร์ตี้มากเกินไป จริงอยู่ที่หลังจากทำงานหนักก็ต้องมีการผ่อนคลายกันบ้าง แต่บางครั้งการมีปาร์ตี้มากเกินไปมันกลับไม่ส่งผลดีกับชีวิตของคุณ ลองศึกษาชีวิตของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะสิ่งที่เขามักจะทำในตอนเย็นดู แล้วคุณจะพบว่าพวกเขารักที่จะขดตัวนอนอ่านหนังสือดีๆ ตอนกลางคืนหลังอาหารค่ำกับครอบครัวแทนที่จะไปอยู่ในงานปาร์ตี้ 3.คิดและทำทุกอย่างด้วยตัวเอง คนเราไม่ได้เกิดมาพร้อมกับความสามารถทุกอย่างที่ต้องการ เช่นกันในฐานะผู้ประกอบการคุณเองไม่ได้เก่งไปทุกเรื่อง ดังนั้นการมีทีมงานที่จะช่วยเสริมความสามารถที่ขาดหายไปของคุณเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลาที่ต้องขยายกิจการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินก็เป็นตัวเลือกที่ดีถ้าคุณทำเองไม่ได้ เลิกทำทุกอย่างด้วยตัวเองเถอะ เพราะมันจะไม่ส่งผลดีต่อกิจการและตัวคุณเอง 4.กลัวลูกน้องที่ฉลาดและมีประสบการณ์มากกว่า จ้างคนที่อายุน้อยกว่าคุณ จ้างคนที่แก่กว่าคุณ จ้างคนที่ฉลาดและมีประสบการณ์มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ เพลิดเพลินไปกับการกระตุ้นและความภาคภูมิใจของการนั่งในสำนักงานของคุณ ที่ล้อมรอบไปด้วยคนที่มีพรสวรรค์และความสามารถพิเศษมากมายที่เหมาะกับกิจการของคุณ หากคุณต้องการสร้าง กิจการที่ดีที่สุดคุณก็ต้องมีทีมที่ดีที่สุด เอาอีโก้ของคุณทิ้งไป 5.อ้างเรื่องไม่มีเงิน เมื่อกิจการของคุณมาถึงจุดที่จะต้องขยายตัว ข้ออ้างเรื่องไม่มีเงินเพื่อที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นนั้น มักจะเป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้พบกับความสำเร็จ ถ้าคุณฝันที่จะมีกิจการอย่างที่คุณต้องการ คุณต้องกล้าที่จะลงทุน เพราะถ้าคุณไม่กล้าก็อย่ามาเป็นผู้ประกอบการเลย กลับไปอยู่กับความฝันลมๆ แล้งๆ ของคุณเถอะ 6.เป็นคนใจร้อน อย่างไรก็ตามการใจร้อนเกินไปก็สามารถฆ่ากิจการของคุณได้เช่นกัน หนึ่งในคำแนะนำที่ดีและได้ยินบ่อยมากที่สุด จากผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จคือการใช้เวลาในการสร้างความสัมพันธ์ และเลือกนักลงทุนอย่างชาญฉลาด อย่าใจร้อนและเร่งความสำเร็จมากเกินไป ให้ทำงานอย่างต่อเนื่องทุกวัน แล้วคอยดูผลงาน 7.หาข้ออ้าง […]

5 อาชีพ จับเสือมือเปล่า-ลงทุนน้อย แต่ทำรายได้เดือนละ 1 ล้านบาท

อาชีพที่สร้างรายได้เดือนละ 1 ล้านบาท ทำอะไรก็รวย ไม่ใช่หมอ หรือ วิศวกรอีกต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อดีตดาวรุ่งพุ่งแรง ปัจจุบันเจ๊ง! ไปก็หลายราย วันนี้ เรามี 5 อาชีพที่คนๆ ทั่วไป ก็ทำได้ มีเงินในกระเป๋า 500 บาทหรือ 1 แสนบาท ก็สร้างรายได้หลักล้านได้ ดังนี้ 1. เจ้าของแฟรนไชส์ อาชีพที่โครตรวย รายได้ขั้นต่ำ 1 ล้านบาท ยกตัวอย่างเจ้าของแฟรนไชส์ “ชาย 4 บะหมี่เกี๊ยว” ที่เริ่มต้นธุรกิจด้วยเสื่อผืนหมอนใบ แต่มีฝีมือด้านการทำก๋วยเตี๋ยว ก็มาขายก๋วยเตี๋ยวที่รสชาติอร่อย พอขายดีก็มีคนอยากรู้สูตร จากนั้นก็ขายสูตรจนกลายมาเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่เติบโตมานานหลายสิบปี แต่ก็ยังรวยขึ้น รวยขึ้น และรวยขึ้น เช่นเดียวกับแฟรนไชส์เครื่องดื่มที่ฮิตมาก ตระกูลชาต่างๆ ขายแก้วละ 20-25 บาท แต่เมื่อเอารายได้มารวมกันแล้ว ทำเงินให้กับเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์เหล่านั้นได้อย่างมหาศาล ยกตัวอย่างเช่น เจ้าของแฟรนไชส์ธุรกิจเครื่องดื่ม ชา แบรนด์หนึ่ง ตั้งราคาขาย แฟรนไชส์ละ […]

5 วิธีลดความเสี่ยงธุรกิจล้มตายจากพิษโควิด-19 อยากรอดต้องทำ!

ตอนนี้ไม่ว่าธุรกิจคุณจะเป็นธุรกิจใหญ่แค่ไหน หรือเพิ่งสร้างเมื่อวาน ต่างต้องได้รับผลกระทบกับโควิด-19 กันทั้งนั้น ซึ่งพิษธุรกิจนี้ร้ายแรงถึงขั้นทำให้ธุรกิจระดับโลกมากมายต้องชัตดาวน์ตัวเองลง รวมถึงเหล่า SME เองก็ต้องหามาตรการรัดเข็มขัดช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ กันทั้งสิ้น เพื่อเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์นี้ ซึ่งลำพังแค่การลดค่าใช้จ่ายอย่างเดียวไม่ใช่ทางรอดสำหรับวิกฤตในครั้งนี้ แต่คุณต้องเตรียมวิธีรับมือมันทุกหนทาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาร้ายแรงขึ้นกว่าเดิม จากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น หากคุณอยากจะพาตัวเอง และธุรกิจให้หลุดพ้นจากวิกฤตโควิด-19 ต้องลงมือทำ 5 สิ่งนี้! 1. มองหาลูกค้าใหม่ และรักษาลูกค้าเก่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นก็ตาม คือการรักษาลูกค้า และหาลูกค้าเพิ่มให้ได้ เพราะธุรกิจจะขับเคลื่อนได้ต้องมีกระแสเงินสด หรือสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อรับของมา ขายไป หรือผลิตสินค้าขึ้นมาให้นำมาขายเป็นเงินกลับไปจ่ายลูกน้องได้ ซึ่งแน่นอนว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่มีใครอยากใช้เงิน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณจะต้องยอมแพ้ เพราะหน้าที่ของคุณคือการสร้างมูลค่าให้กับตัวเองเพิ่มขึ้น จนเขาอยากที่จะซื้อ ต่อให้ต้องลงทุนเพิ่มในจุดใด ถ้ามันช่วยให้ธุรกิจขายได้ง่ายขึ้น ก็ควรจะทำ 2. มองหาโอกาสใหม่ให้ธุรกิจเดินหน้า การลองผิดลองถูกในช่วงนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรเสี่ยงที่สุด แต่มันมีการลองผิดลองถูกมากมายที่ไม่ได้เสียเงินอะไร แต่อาจช่วยให้ธุรกิจคุณมีทางรอดขึ้นมาได้ เช่น ธุรกิจร้านอาหารที่อาจเข้าร่วมกับบริการเดลิเวอร์รีเพื่อส่งอาหารถึงที่ ซึ่งทั้งหมดนี้คือเรื่องของการปรับตัว หรือร้านแอร์อาจเพิ่มบริการล้างแอร์และฆ่าเชื้อโรคไปด้วยเสริมเข้าไป เป็นเหมือนสิ่งกระตุ้นให้ลูกค้าอยากใช้บริการยิ่งขึ้น พร้อมรับงานผ่านเว็บไซต์ หรือทำการตลาดออนไลน์มากกว่าปกติเสริมไปด้วย ก็จะช่วยเปิดโอกาสกระตุ้นให้ธุรกิจน่าจับตามองได้ 3. สร้างจุดเด่นให้เหนือกว่าคู่แข่ง แม้ทุกธุรกิจจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทั้งหมด แต่การแข่งขันก็ยังมีอยู่ […]

พฤติกรรมของผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนไปในยุค New Normal

อีกไม่นานเราก็คงจะไม่ต้องมานั่งคุยกันผ่านวิดีโอคอล แล้วก็ออกไปกินข้าวนอกบ้านได้โดยไม่ต้องคอยโทรสั่งอาหารทุกมื้อ ความวิตกกังวลในเรื่องของสุขภาพและการเงินจะค่อย ๆ เบาบางลงกว่าตอนนี้ แน่นอนว่าหลังจากนี้ไปวิธีการทักทายของผู้คนก็อาจจะเปลี่ยนไปตลอดกาล เราจะไม่ทักทายกันด้วยการแตะเนื้อต้องตัวกันอีกต่อไปแล้ว วิธีการทำงาน วิธีการเล่น และวิธีการกินของเราจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การระบาดครั้งใหญ่ของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคกำลังทำการปรับตัวครั้งใหญ่ ทั้งในขณะที่เกิดการระบาด และหลังจากการระบาดลดน้อยลง ผู้บริโภคจะมีพฤติกรรมใหม่ในการซื้อของ ทำให้นักการตลาดเองจะต้องตามให้ทันในสิ่งธรรมดาที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ที่เรียกว่า The New Normal คงไม่มีใครบอกได้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราพอจะทำได้นั่นก็คือ การเรียนรู้จากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โลกเคยพบเจอกับหายนะครั้งใหญ่มาหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ครั้งนี้ก็เช่นกันนี่คือความเปลี่ยนแปลงที่เราพอจะคาดการณ์ได้ ย้อนกลับไปในปี 1918 สหรัฐฯ เคยต่อสู้กับการระบาดครั้งใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ และมันส่งผลให้ผู้บริโภคจำนวนมากต้องเปลี่ยนไปเลือกใช้สินค้าที่มีราคาคุ้มค่าเป็นหลัก แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้กำลังจะเกิดขึ้นซ้ำอย่างไม่ต้องสงสัย การปรับตัวของผู้คนที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้จะกลายเป็นตัวตั้งต้นให้กับ New Normal ที่กำลังจะเกิดขึ้น พฤติกรรมบางอย่างจะถูกฝังแน่นจนกลายเป็นพฤติกรรมปกติ ผลิตภัณฑ์และบริการบางอย่างจะคงอยู่กับเราตลอดไป 3 มิติพื้นฐานที่สำคัญที่ธุรกิจควรพิจารณาเพื่อการเริ่มต้นใหม่ 1. ความพึงพอใจที่เกิดขึ้น จากการที่ผู้บริโภคถูกกักตัวอยู่กับบ้านเป็นเวลานาน มันทำให้พวกเขาเริ่มจะหาความพึงพอใจในระยะเวลาที่ต้องอยู่กับบ้านได้มากขึ้นแล้ว ดังนั้นหลังจากที่มีการปลดล็อกพฤติกรรมบางอย่างจะยังคงอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของการประหยัด ผู้บริโภคจำนวนมาสูญเสียรายได้ไปอย่างมากมายในช่วงเวลาของการกักตัว ทำให้หลังจากนี้ไปผู้บริโภคจะจับจ่ายใช้สอยในสิ่งที่คุ้มค่าเท่านั้น โดยเฉพาะบรรดาสินค้าแบรนด์ใหญ่ราคาสูงอาจจะต้องปรับตัวรับกับเรื่องนี้ ในอดีตที่ผ่านมาในช่วงเวลาแบบนี้มักจะมีสินค้ามีแบรนด์แต่ราคาจับต้องได้ออกมาให้เลือกซื้อกัน คาดการณ์ความพึงพอใจของผู้บริโภคที่จะยังคงอยู่ในยุคของ New Normal -แอลกอฮอล์ -การทำสมาธิ […]

กันไว้ดีกว่าพลาด…มาดู 12 ข้อควรระวังสำหรับ SME หน้าใหม่ มีอะไรบ้าง

ทุกวันนี้ ใคร ๆ ก็อยากจะเปลี่ยนตัวเองมาเป็นผู้ประกอบการกันทั้งนั้น แล้วการเริ่มต้นเรื่องนี้ควรจะต้องเตรียมตัวหรือเตรียมรับมือกับเรื่องอะไรบ้าง มาดูกันว่า 12 ข้อควรระวังที่เรานำเอามาฝากนี้ มีข้อไหนที่คุณเจอมาแล้วกับตัวเอง แล้วข้อไหนที่สามารถป้องกันได้ก่อนที่มันจะเกิด ดังต่อไปนี้ 12 ข้อควรระวังสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ 1.ไม่เคยพูดคุยกับผู้ใช้งาน – แล้วมันจะกลายเป็นสินค้าที่มีความต้องการได้อย่างไร 2.ไม่เร็วพอ – ช่วงเริ่มต้นทุกอย่างต้องเร็วและแม่นยำ ไม่อย่างนั้นจะแข่งกับใครได้ 3.จ้างคนไม่เก่ง – หากต้องเพิ่มทีมงานเอาคนที่เก่งกว่าหรือไม่ก็ต้องเอาแบบที่สูสีกับคุณ 4.จ้างคนเร็วเกินไป – ต้องมองจังหวะให้ออกว่าตอนไหนควรจะจ้างคนเพิ่ม มาผิดเวลาก็เสียของ 5.จ้างคนช้าเกินไป – ถึงเวลาต้องขยายทีมงานก็ต้องทำ อย่าช้าจนล้ากันไปหมด 6.โกหกตัวเอง – อันนี้อันตรายมากอะไรดีไม่ดีก็ต้องรีบแก้ อย่าเข้าข้างตัวเองว่าทุกอย่างกำลังดี 7.ไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับความยากลำบาก – ถ้ายังรักสบายก็คงเป็นผู้ประกอบการไม่ได้ 8.ออกงานมากเกินไป – อย่าไปร่วมงานข้างนอกมากเกินไป จนไม่มีเวลาทำงาน 9.ส่งงานไม่ทัน – นี่คือวิกฤตถ้าส่งมอบงานไม่ทัน ก็เท่ากับตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง 10.สนใจคู่แข่งมากเกินไป – เอาเวลาไปพัฒนางานของตัวเองดีกว่าที่จะเฝ้าดูแต่คู่แข่ง 11.ไม่ปกป้องวัฒนธรรมยุคแรก – อย่าลืมว่าเราเริ่มต้นด้วยเรื่องอะไรให้ยึดจุดยืนของเราเอาไว้ให้มั่น 12.มุ่งเน้นไปที่การระดมทุนมากเกินไป – อย่ามุ่งเน้นเรื่องการระดมทุนมากเกินไป […]

9 ข้อที่ต้องทำในการเดินทางด้วยเครื่องบินในช่วงโควิด

อย่างที่ทราบกันแล้วว่าสายการบินหลายแห่งจะกลับมาให้บริการบินภายในประเทศอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ค. นี้ แต่ได้มีการประกาศระเบียบปฏิบัติเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงสำหรับผู้โดยสาร ที่ต้องเดินทางในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่บรรดานักเดินทางจะต้องเตรียมตัวเอาไว้ จะได้ไม่เกิดดราม่าต่าง ๆ ขึ้นมา เพราะการทำตัวผิดระเบียบนั้นรุนแรงขนาดถึงขั้นไม่ออกตั๋วโดยสาร และไม่ให้ขึ้นเครื่องบินกันเลยทีเดียว วิธีทำตัวให้ถูกระเบียบก่อนเดินทางด้วยเครื่องบินในช่วงโควิด 1. ดูแลรักษาสุขภาพให้ดีก่อนเดินทาง เพราะเมื่อไปถึงสนามบินจะมีการตรวจคัดกรองด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรด หากอุณหภูมิสูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพื้นที่สนามบิน 2. ต้องใส่หน้ากากอนามัย เพราะถ้าไม่สวมใส่หน้ากากใด ๆ ก็จะไม่ให้เข้าไปในพื้นที่สนามบิน 3. หลังจากเข้าไปในพื้นที่สนามบินได้แล้วไม่ว่าจะลุก, เดิน หรือนั่ง ให้ทำการเว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1 เมตร 4. คุณต้องเข้าใจว่าการออกตั๋วจะเป็นแบบเว้นที่นั่ง นั่นคือจะไม่มีการนั่งติดกันในช่วงนี้ 5. หากคุณมีอาการตัวร้อน, ไอ และมีน้ำมูก สายการบินมีสิทธิ์ที่จะงดออกบัตรโดยสาร 6. ต้องใส่หน้ากากอนามัย หากไม่มีจะถูกงดออกบัตรโดยสาร 7. ขณะทำการขึ้นเครื่องบิน ให้ทำการเว้นระยะทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถบัส, สะพานเทียบ, การเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ และการใช้ห้องน้ำบนเครื่อง 8. งดอาหารและเครื่องดื่มในระหว่างบิน ทั้งอาหารของสายการบินและอาหารที่ผู้โดยสารนำมาเอง 9. สวมหน้ากากอนามัยตลอดที่อยู่บนเที่ยวบิน […]

ธุรกิจการบินจะถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร หลังไวรัสโควิด-19 ทำทุกอย่างไม่เหมือนเดิม

ธุรกิจด้านการบิน กลายเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มากที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะภาพเครื่องบินของสายการบินต่าง ๆ ที่จอดแน่นิ่ง ไม่ได้ให้บริการเหมือนกับเมื่อก่อน เนื่องจากผู้คนถูกสั่งห้ามไม่ให้มีการเดินทาง หรือถูกประเทศปลายทางไม่ให้เครื่องบินพาณิชย์เดินทางเข้ามา การที่ธุรกิจการบินไม่สามารถให้บริการแบบปกติได้ แน่นอนว่าผลกระทบย่อมตกมาอยู่กับผู้ให้บริการที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย แต่กลับไม่มีรายได้เข้ามาแต่อย่างใด ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากช่วงเวลาที่ผ่านมาบรรดาสายการบินต่าง ๆ มีการปรับแผนการดำเนินงานเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด ไม่ว่าจะเป็น การให้พนักงานหยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง, การขอลดเงินเดือน ตลอดจนการปรับลดพนักงานลง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสายการบินต่าง ๆ เริ่มที่จะกำหนดวันที่จะกลับมาให้บริการอีกครั้ง แต่เรื่องที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ คือ ไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้ธุรกิจการบินเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน มาตรการที่คุมเข้ม ต่อไปก่อนขึ้นเครื่องบิน ผู้โดยสารอาจต้องได้รับการตรวจที่เข้มงวดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การวัดอุณหภูมิของร่างกาย, การใส่หน้ากากอนามัยตลอดช่วงเวลาของการเดินทาง เช่นเดียวกับในส่วนของผู้ให้บริการสายการบินที่ยูนิฟอร์มของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เห็นได้จากสายการบินแอร์เอเชียในประเทศฟิลิปปินส์ ที่เปิดตัวชุดยูนิฟอร์มใหม่ คล้ายกับ PPE ของบุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้ บริการอื่น ๆ บนเครื่องบินก็อาจจะถูกระงับด้วยเช่นกัน ทั้งบริการอาหาร และเครื่องดื่ม การเว้นระยะห่างระหว่างกัน มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการเว้นที่นั่งตรงกลาง เหลือไว้เพียงแค่ที่นั่งริมหน้าต่าง […]

เตรียมตัวอย่างไรและต้องมีหลักฐานอะไรบ้าง เมื่อต้องเจอ “ผู้พิทักษ์สิทธิ์”

หลังจากที่ทางกระทรวงการคลัง ได้เปิดให้ผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ขอทบทวนสิทธิ์ได้นั้น กระทรวงการคลังได้มอบหมาย “ผู้พิทักษ์สิทธิ์” จำนวนกว่า 23,000 คน สับเปลี่ยนลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ไม่เว้นวันหยุดราชการ เพื่อทำหน้าที่ยืนยันตัวตนและตรวจสอบการประกอบอาชีพตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ ผู้พิทักษ์สิทธิ์ ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานสังกัดกระทรวงการคลัง, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และรวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจอื่น ทั้งนี้ ในหลายพื้นที่ผู้พิทักษ์สิทธิ์ได้ร่วมเดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยด้วย ขั้นตอนการปฏิบัติงานของผู้พิทักษ์สิทธิ์ 1. ผู้พิทักษ์สิทธิ์จะโทรศัพท์นัดหมายผู้ทบทวนสิทธิ์ล่วงหน้าทุกราย 2. เมื่อลงพื้นที่ไปพบผู้ทบทวนสิทธิ์ ผู้พิทักษ์สิทธิ์จะมีการแสดงตนอย่างชัดเจน 3. จะมีการใช้แอปพลิเคชัน “ผู้พิทักษ์สิทธิ์” ที่ติดตั้งในโทรศัพท์มือถือของฝ่ายเจ้าหน้าที่ เป็นเครื่องมือในการขอยืนยันตัวตนของผู้ทบทวนสิทธิ์ และถ่ายภาพหลักฐานต่าง ๆ ทุกขั้นตอน 4. ข้อมูลที่สำรวจและจัดเก็บจะถูกส่งตรงจากแอปพลิเคชันกลับมายังฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป การเตรียมความพร้อมของผู้ยื่นทบทวนสิทธิ์ 1. เตรียมหลักฐานที่จำเป็น เมื่อท่านได้ยื่นความประสงค์ขอทวบทวนสิทธิผ่านเว็บไซต์แล้ว ขอให้เตรียมบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง ตลอดจนเอกสารและหลักฐานแสดงการประกอบอาชีพให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายการประกอบอาชีพตามอาชีพที่ได้ลงทะเบียนไว้, ใบอนุญาตประกอบอาชีพ และภาพถ่ายกับสถานประกอบการ เป็นต้น 2. ระวังการแอบอ้าง […]

Multitasking เกินไปใช่ว่าจะดี เสี่ยงงานพัง เสร็จไม่ทันเวลาโดยไม่รู้ตัว

ทุกวันนี้การทำงานที่บ้านเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทุกคนต้องเจอ และหนึ่งในปัญหาตามมาที่เลี่ยงไม่ได้จากการ Work from Home นี้ก็คือ การแยกหน้าที่หรือบทบาทที่แตกต่างกันให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น คุณในฐานะพนักงานออฟฟิศ ต้องทำงานที่มีลูกเล็กอยู่ที่บ้าน นั่นคือ คุณต้องใส่หมวกสองใบ ทั้งพนักงาน และความเป็นพ่อ ซึ่งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำทุกสิ่งให้สำเร็จไปได้ด้วยดีพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางคนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอยู่เยอะมากอยู่แล้วในที่ทำงาน การนำทุกสิ่งกลับมาทำที่บ้านแบบ Multitasking เพื่อหวังจะให้ทุกงานเสร็จไวขึ้นกลับกลายเป็นว่ามันจะยิ่งวุ่นวาย และทำให้ทุกสิ่งซับซ้อนขึ้นกว่าเดิม สมองของมนุษย์เราไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อ Multitasking ลองสังเกตการทำงานของคุณในแต่ละครั้งดูว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ทำงานเสร็จอย่างรวดเร็วทันเดดไลน์ หรืออาจจะก่อนเดดไลน์ด้วยซ้ำนั้น ส่วนใหญ่มาจากการโฟกัสแค่งานตรงหน้าทีละชิ้น ไม่ใช่การทำงานหลากหลายไปพร้อม ๆ กัน สาเหตุที่เป็นอย่างนั้นเพราะ สมองของเราไม่ได้ถูกพัฒนามาให้เป็นแบบนั้น มีการวิจัยออกมาแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ จาก University of Sussex พบว่า คนที่ทำงานหลายอย่างพร้อม ๆ กัน จะทำให้สมองที่ตอบสนองต่อความเห็นอกเห็นใจคนอื่นถูกกด และการควบคุมอารมณ์ รวมถึงสมาธิต่าง ๆ ลดลง ซึ่งเมื่อสมองส่วนนี้ไม่ได้ถูกใช้งานอย่างเต็มที่ การตัดสินใจ หรือดำเนินงานต่างๆ ก็มีประสิทธิภาพที่น้อยลงเช่นกัน เป็นเหตุให้การทำงานแบบ Multitasking นั้นยิ่งกลับทำให้งานเสร็จได้ช้าลงกว่าเดิม ยิ่ง […]

ธุรกิจหยุดชะงัก อยากหาเงินมาช่วยโปะค่าใช้จ่าย มือถือเครื่องเดียวก็ทำรายได้ต่อเดือนสบาย ๆ ด้วย 6 วิธีนี้

ช่วงนี้ทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากไวรัสระบาดโควิด-19 ที่ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงินไปมาก บางธุรกิจถึงกับรายได้เป็นศูนย์ ต้องพักกิจการลง แต่ค่าใช้จ่ายไม่ลดตาม ลำพังแค่นั่ง นอนอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่กลับกันจะให้ลงทุนในช่วงนี้ที่กระแสธุรกิจกำลังน่าเป็นห่วงก็คงไม่ใช่ทางออกที่ดีเช่นกัน ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหาแหล่งรายได้เสริมมาช่วยค้ำจุนค่าใช้จ่าย หรือหารายได้มาโปะในส่วนของธุรกิจที่หยุดชะงักไป 6 อาชีพนี้เป็นตัวเริ่มต้นที่น่าสนใจ เพราะไม่ต้องลงทุนอะไรก็สามารถทำรายได้หลักหมื่นด้วยสมาร์ตโฟนแค่เครื่องเดียว 1. ถ่ายภาพขายออนไลน์ ตอนนี้ทุกธุรกิจออฟไลน์กำลังหยุดชะงัก และหลาย ๆ คนก็มองหาแหล่งรายได้เสริมที่จะเข้ามาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายไปได้ ซึ่งธุรกิจออนไลน์นั่นเองที่ตอบโจทย์ เพราะไม่ว่าใครก็สามารถใช้บริการได้จากทุกที่ ไม่ต้องเสี่ยงติดไวรัส ไม่ต้องกลัวว่าจะสัมผัสตัวกัน หรือจะต้องออกจากบ้าน คนเลยหันมาซื้อขายออนไลน์เยอะมาก เป็นผลพวงให้คอนเทนต์ภาพนั้นเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้นด้วย ซึ่งธุรกิจถ่ายภาพขายนี้กลุ่มลูกค้าหลักก็คือ คนทำธุรกิจออนไลน์นั่นเอง เราสามารถถ่ายภาพอะไรก็ได้ให้สวยงามด้วยโทรศัพท์มือถือ แล้วสมัครสมาชิก ส่งขายไปตามเว็บภาพต่าง ๆ เช่น shutterstock ซึ่งทุกวันนี้สมาร์ตโฟนแต่ละตัวก็ออกแบบมาให้กล้องมีความคมชัดมากแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องลงทุนอะไรเพิ่มเติม แค่มีมือถือสักเครื่อง กับจินตนาการล้ำ ๆ ก็ถ่ายภาพขายออนไลน์ได้เลย สร้างรายได้แบบ Passive Income ด้วย 2. ดูโฆษณาเรื่อย ๆ ก็ได้เงิน ทุกวันนี้แค่การดูโฆษณาก็สามารถสร้างรายได้ได้แล้ว บนโลกของแอปพลิเคชัน มีการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ไว้ตอบโจทย์มากมาย […]

ตอบ 12 ข้อสงสัยที่ถูกสอบถามมากที่สุดของมาตรการเยียวยา 5,000 บาท

ที่ผ่านมารัฐบาลได้เปิดโอกาสให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เพื่อขอรับเงินเยียวยาจำนวน 5,000 บาท อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวได้มีการซักถามของประชาชนเข้ามาอย่างมากมาย ดังนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สคส.) จึงรวบรวม 12 คำถามที่พบมากที่สุดเกี่ยวกับเงินเยียวยา 5,000 บาท ซึ่งมีดังต่อไปนี้ 1. ผู้ที่ไม่ได้มีเจตนาขอยกเลิกสิทธิ์แต่ได้กดปุ่มยกเลิกสิทธิ์ไปในช่วงก่อนหน้า จะสามารถเริ่มขอทบทวนสิทธิ์ได้เมื่อใด ตอบ ขณะนี้หากยกเลิกการลงทะเบียนแล้ว จะไม่สามารถลงทะเบียนหรือเข้าไปแก้ไขข้อมูลใด ๆ ได้ อย่างไรก็ดี ในระยะต่อไปกระทรวงการคลังจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่ยกเลิกการลงทะเบียนโดยเข้าใจผิด สามารถขอทบทวนสิทธิ์ได้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตรวจสอบและคัดกรองอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ จะประกาศให้ทราบโดยทั่วกันอีกครั้ง 2. เงินเยียวยา 5,000 บาท ในรอบเดือนพฤษภาคม 2563 จะเริ่มทำการโอนเข้าบัญชีเมื่อใด ตอบ ผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินเยียวยาในรอบเดือนพฤษภาคมจะตรงวันกับวันที่ได้รับเมื่อเดือนเมษายน เช่น ได้รับวันที่ 8 เมษายน ก็จะได้วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 และ 8 มิถุนายน 2563 สำหรับรอบ 2 และ […]

หาคำตอบ คนทำธุรกิจถูกคิดอัตราค่าไฟฟ้าอย่างไร

หลายวันที่ผ่านมาประเด็นเรื่อง “ค่าไฟฟ้า” ที่พบว่าบิลค่าไฟในเดือนที่ผ่านมาสูงกว่าปกติอย่างน่าตกใจ ซึ่งในเรื่องนี้ทางการไฟฟ้านครหลวงได้ออกมาชี้แจง คลายข้อสงสัยให้กับผู้ใช้ไฟได้เป็นที่กระจ่างเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งรัฐบาลก็ได้ออกมาตรการเยียวยาเพิ่มเติมลดค่าไฟฟ้า 3 เดือน ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า 22 ล้านราย ในส่วนผู้ประกอบกิจการนั้นวิธีการคิดอัตราค่าไฟฟ้าจะแตกต่างจากผู้ที่อยู่อาศัยตามบ้าน ซึ่งผู้ประกอบการจะถูกคิดค่าไฟฟ้าอย่างไรมาดูกัน ตามข้อมูลของการไฟฟ้านครหลวง จะแบ่งอัตราค่าไฟฟ้าออกเป็น 8 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ 1.บ้านอยู่อาศัย 2.กิจการขนาดเล็ก 3.กิจการขนาดกลาง 4.กิจการขนาดใหญ่ 5.กิจการเฉพาะอย่าง 6.องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร 7.กิจการสูบน้ำเพื่อการเกษตร 8.ผู้ใช้ไฟฟ้าชั่วคราว จะเห็นว่าผู้ที่ทำธุรกิจจะเข้าข่ายอยู่ในประเภท 2-5 ซึ่งแต่ละประเภทจะถูกคิดอัตราค่าไฟไม่เหมือนกัน ดังนั้น เรามาลงรายละเอียดกันว่ามีวิธีคิดค่าไฟอย่างไร กิจการขนาดเล็ก สำหรับใช้ไฟฟ้าเพื่อประกอบธุรกิจ ธุรกิจรวมที่อยู่อาศัย อุตสาหกรรม หน่วยราชการ สำนักงาน หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สถานที่ทำการเกี่ยวกับกิจการของต่างชาติ และสถานที่ทำการขององค์การระหว่างประเทศ ตลอดจนบริเวณที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความต้องการพลังไฟฟ้าเฉลี่ยใน 15 นาทีที่สูงสุด ต่ำกว่า 30 กิโลวัตต์ โดยต่อผ่านเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าเครื่องเดียว กิจการขนาดกลาง สำหรับการใช้ไฟฟ้าเพื่อประกอบธุรกิจ อุตสาหกรรม […]

6 เทคนิคประหยัดไฟบ้านช่วง Work From Home

จากมาตรการลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาลที่ให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถเลือกทำงานจากที่บ้านหรือ Work from home ได้ แต่สิ่งที่ตามมาก็คือแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าในบ้านที่สูงขึ้น จากการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจากการทำงานที่บ้านนั่นเอง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) จึงขอแนะนำเทคนิคดี ๆ เกี่ยวกับการใช้งานไฟบ้านให้คุ้มค่า ในช่วงที่หลายคนต้องทำงานจากที่บ้าน เทคนิคการใช้ไฟฟ้าในช่วง Work from home 1. ปิดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายแบบต่าง ๆ เมื่อไม่มีการใช้งาน หรือไม่มีการเชื่อมต่อ ปิดเมื่อเลิกใช้จะใช้งานจึงค่อยเปิด เพราะทุกครั้งที่มีการเชื่อมต่อก็หมายถึงการใช้พลังงานไฟฟ้านั่นเอง 2. ใช้แสงธรรมชาติช่วย โดยเฉพาะการทำงานในช่วงกลางวัน หากมีการเลือกใช้แสงธรรมชาติแล้วจะทำให้ช่วยประหยัดการใช้ไฟฟ้าไปได้อย่างมากมาย เริ่มเปิดไฟจากหลอดไฟเมื่อถึงเวลากลางคืนเท่านั้นจะดีกว่า 3. ฟังเพลงใส่หูฟังประหยัดกว่า การใช้หูฟังเพื่อการฟังเพลงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะการฟังเพลงแบบนี้ประหยัดไฟได้มากกว่าการเปิดจากเครื่องเสียงขนาดใหญ่ อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนอีกเรื่องก็คือช่วงเวลาแบบนี้มีคนอยู่บ้านด้วยกันจำนวนมาก การเลือกฟังเพลงส่วนตัวเงียบ ๆ น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า 4. ตั้ง Laptop ให้เป็น Sleep Mode เมื่อไม่ได้ใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยหน้าจอกินไฟแบบไม่ได้ใช้งาน อีกเรื่องคือการตั้งค่าความสว่างของหน้าจอไม่ให้สว่างเกินความจำเป็น นอกจากจะประหยัดไฟแล้วยังถือว่าเป็นการถนอมสายตาไปด้วยในตัว 5. เลือกมุมทำงานมุมเดียวในบ้านเป็นประจำ และกำหนดเวลาในการทำงานเหมือนอยู่ที่ทำงาน […]

บันได 5 ขั้นวางแผนการเงิน ฉบับเจ้าของธุรกิจมือโปร

นับตั้งแต่ต้นปี 2020 เป็นต้นมา เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความผันผวน และยากจะคาดเดา เพราะต้องเจอกับความไม่แน่นอนต่าง ๆ มากมาย หลายเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดก็เกิด เช่น ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในออสเตรเลีย การกลับมาของปัญหาฝุ่น PM2.5 รวมไปถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังรุนแรงอยู่ในตอนนี้ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจทั่วโลกที่หยุดชะงัก ผู้ประกอบการหลายรายกำลังอยู่ในช่วงยากลำบากอย่างมาก อย่างไรก็ดี ใครที่กำลังรู้สึกท้อใจกับการทำธุรกิจ เวลานี้อาจจะเป็นจังหวะที่ดีในการคิดทบทวน และกลับมาวางแผนอย่างรอบคอบ ทั้งเรื่องธุรกิจ ชีวิต และครอบครัว เพราะเรื่องไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เราจึงขอแนะนำ บันได 5 ขั้นวางแผนการเงิน ฉบับเจ้าของธุรกิจมือโปร คู่มือวางแผนการเงินเชิงรุกเพื่อเจ้าของธุรกิจโดยเฉพาะ 1. กำหนดเป้าหมายการกำหนดเป้าหมายทางการเงิน เจ้าของธุรกิจต้องวางแผนอย่างชัดเจน ต้องระบุจำนวนเงินได้ว่าจะจัดสรรจำนวนเท่าไหร่ กระจายไปส่วนไหนบ้าง เช่น เงินสำรองเพื่อธุรกิจ เงินออมสำหรับครอบครัว ฯลฯ จากนั้นต้องมีวิธีการที่จะทำให้สำเร็จได้ เรามีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนเท่าไหร่ แล้วถ้าอยากเก็บได้เพิ่ม จะมีช่องทางไหนทำเงินอีกได้บ้าง นอกจากนี้ เจ้าของธุรกิจต้องรู้ศักยภาพของตนเอง สภาพแวดล้อมการใช้จ่าย เพราะเป้าหมายที่ดีต้องสอดคล้องกับการทำให้เป็นจริงได้ สุดท้ายต้องกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน โดยอาจกำหนดเป้าหมายใหญ่ขึ้นอีกหน่อย เพื่อรู้สึกท้าทายความสามารถ และคุ้มค่ากับการลงมือทำ 2. สำรวจความเสี่ยงเพราะโลกปัจจุบัน มีเรื่องใหม่ […]

เผยแนวทางผ่อนคลายมาตรการ หากมีการเปิด “ห้างสรรพสินค้า” อีกครั้งต้องปฏิบัติอย่างไร

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 แถลงข่าวสถานการณ์ประจำวันที่ 17 เมษายน 2563 พบว่า พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 28 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 2,700 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ดังนั้น ข้อมูลล่าสุดของประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 2,700 ราย รักษาหายกลับบ้าน 1,689 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 964 ราย เสียชีวิตรวม 47 ราย ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในไทยเพิ่ม 28 ราย รวมยอดสะสม 2,700 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว นพ.ทวีศิลป์ ได้พูดถึงแนวทางการผ่อนคลายมาตรการกึ่งล็อคดาวน์ โดยยกตัวอย่างการห้างสรรพสินค้าขึ้นมาว่า หากมีการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งจะต้องมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร โดยคำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการมีดังต่อไปนี้ ด้านสถานที่ เปิดร้านที่มีบริเวณชัดเจน สามารถจัดบริเวณนั่งรอรับบริการห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร เปิดร้านที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิต เช่น ร้านโทรศัพท์ ธนาคาร […]

5 เหตุผลที่ธุรกิจคุณควรหันมาใช้ ZOOM ในการทำงาน มากกว่าการเข้าออฟฟิศ

หลังจากมีการ Work from home เกิดขึ้นในหลายๆ สำนักงานออฟฟิศ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการต้องหาเครื่องมือที่เข้ามาช่วยในการติดต่อสื่อสารทางไกล ให้เข้าใจกันและกันได้ง่ายขึ้น ซึ่งไม่มีการสื่อสารใดจะจับใจความและแปลความหมายได้ตรงตัวไปกว่าการพูดคุยแบบเห็นหน้า ดังนั้นแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับ VDO Conference จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ และแอป ZOOM เองก็ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ถึงขนาดมียอดดาวน์โหลดใหม่รายวันที่สูงเกินกว่า 2 ล้านครั้งต่อวันทีเดียวในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้าน ซึ่งเมื่อเทียบกับยอดดาวน์โหลดในเดือนมกราคมก่อนหน้านั้น ZOOM มียอดดาวน์โหลดทั่วโลกเพียง 56,000 ครั้งเท่านั้น แต่การมีชื่อเสียงเพียงข้ามคืนของ ZOOM ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย หรือเพราะโรคระบาดนี้ผลักดัน แต่เกิดจากความพยายามพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนมาตลอดระยะเวลา 9 ปี ที่บ่มเพาะเอาความแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นมาชูโรง และเอาชนะแพลตฟอร์มวิดีโอคอลสำคัญๆ ที่เป็นยักษ์ใหญ่ทั่วโลกอย่าง Google Hangouts หรือ Skype ของ Microsoft ไปได้ โดยเหตุผลที่ทำให้ ZOOM กลายเป็นที่สนใจ และทุกคนต้องโหลดมาใช้งาน จนกลายเป็นแอปพลิเคชันที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกนั้นมาจากผลพวงของ 5 ข้อดีเหล่านี้ 1. เข้าถึงง่าย ใครๆ […]

Work from home แบบไหนได้งานที่สุด แถมงานเสร็จไว คุณภาพเกินมาตรฐาน

การทำงานที่บ้านเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ได้ผลดีมาก หลายบริษัทในประเทศไทยได้ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โดยการให้พนักงาน Work from home กันไปบ้างแล้ว ซึ่งถึงแม้การ Work from home จะเป็นเหมือนสิ่งที่ดี ที่ทำให้พนักงานไม่ต้องฝ่ารถติดเสียเวลาหลายชั่วโมง แต่การทำงานอยู่บ้านก็ไม่ใช่ว่าจะต้องได้งานที่สำเร็จลุล่วงอย่างรวดเร็วตรงเวลาเสมอไป เพราะการทำงานที่บ้านมีปัจจัยในการรบกวนการทำงานมากมาย ที่จะทำให้งานไม่เดิน หรือเสร็จไม่ตรงกำหนดอย่างที่ควรจะเป็น เพราะฉะนั้นการทำงานที่บ้านให้งานเสร็จไว ไม่เสียงาน หรือไม่โดนรบกวน พร้อมทั้งทำงานได้อย่างมีความสุขนั้นต้องเกิดจากการบริหารจัดการ และแบ่งเวลาของตัวเองให้ดี พักได้แต่ต้องพอเหมาะ และมีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัดมากกว่าตอนทำงานที่ออฟฟิศเสียอีก ซึ่ง 5 เทคนิคเหล่านี้ช่วยได้ สาเหตุหลักที่ทำให้ Work from home ไม่ได้ประสิทธิภาพ งานไม่เดินอย่างที่ควร 1. บางคนคิดว่า Work from home คือวันหยุด การ Work from home เป็นเรื่องใหม่ของคนไทยที่หลายคนยังไม่ชิน และมีความคิดว่ามันเป็นเหมือนวันหยุด ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตรงนี้ทางบริษัทต้องย้ำให้พนักงานทุกคนเข้าใจให้ชัด ว่านี่คือการทำงาน อาจเพิ่มมาตรการตรวจการ วัดผลงานกันทุกวัน เพื่อให้เกิดการทำงานจริงแม้ไม่มีใครควบคุม 2. ไม่มีการวางแผนใด ๆ เพราะการอยู่บ้านทำงานด้วยตัวเองนั้นมีอิสระมากเกินไป […]

9 ข้อแนะนำของร้านสะดวกซื้อ สร้างความมั่นใจปลอดภัยจากโควิด-19

ร้านสะดวกซื้อ ไม่ว่าจะเป็น ร้านโชห่วย, ซูเปอร์มาร์เก็ต และมินิมาร์ท กลายเป็นสถานที่สำคัญในช่วงของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของประชาชนเพื่อเข้าไปซื้ออาหาร รวมถึงสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน การเป็นสถานที่ที่ยังไม่ถูกสั่งปิดให้บริการ ทำให้ในแต่ละวันย่อมมีผู้เดินทางเข้า-ออกกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ และลูกค้าที่มาใช้บริการ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการสร้างความเชื่อ แสดงถึงความปลอดภัยอย่างแท้จริง ข้อมูลจากสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ กรมอนามัยแนะนำว่าร้านสะดวกซื้อควรมีมาตรการดังต่อไปนี้ 1.มีจุดคัดกรอง 2.มีบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ทั้งทางเข้า และทางออก 3.เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร 4.ทำความสะอาดตะกร้า รถเข็นใส่สินค้า ตู้น้ำ ฯลฯ อยู่เป็นประจำ 5.จัดวางสินค้าเป็นหมวดหมู่ 6.จัดเก็บ “อาหารสด” ในอุณหภูมิที่เหมาะสม 7. “อาหารสำเร็จรูป” ต้องติดฉลากข้อมูลวันหมดอายุให้ชัดเจน 8.หมั่นล้างมือบ่อย ๆ 9.สวมหน้ากากอนามัยทั้งผู้ซื้อผู้ขาย เช่นเดียวกับผู้บริโภคที่ก่อนจะเดินทางไปร้านสะดวกซื้อ ควรมีการวางแผนให้เรียบร้อยก่อนว่ามีรายการสินค้าอะไรที่ต้องเลือกซื้อบ้าง เพื่อความสะดวกรวดเร็ว และลดการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

เอาให้ชัด! เช็คสถานะการลงทะเบียน “เราไม่ทิ้งกัน” ขึ้นแบบไหนได้แบบไหนไม่ได้

ข้อมูลจาก Facebook Page Krungthai Care เปิดเผยการอ่านค่าของการตรวจสอบสถานะได้แบบง่าย ๆ ว่าได้ขึ้นหน้าจอแบบไหนแสดงว่าได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท เข้าไปที่เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เลือกเมนู “ตรวจสอบสถานะ” จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนตัว อาทิ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน, หมายเลขโทรศัพท์ และ วันเดือนปีเกิด หากขึ้นข้อความว่า : อยู่ระหว่างปรับปรุงสถานะการลงทะเบียนของท่าน (ไม่สามารถยกเลิกการลงทะเบียนได้) ความหมาย คือ “ได้รับสิทธิ์ รอการโอนเงิน” หากขึ้นข้อความว่า : อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ความหมาย คือ “อยู่ในกระบวนการคัดกรอง” หากขึ้นข้อความว่า : ไม่สามารถทำรายการต่อได้ (ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง) ความหมาย คือ “ข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง สามารถลงทะเบียนใหม่ได้” อ้างอิง: Krungthai Care

4 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ “พาหะเงียบ” คนที่เป็นโควิด-19 แต่ไร้อาการใด ๆ

แม้ว่าจีนมีจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศอยู่ในระดับต่ำ อันเป็นผลจากมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด แต่ผู้ป่วยจากต่างประเทศและบรรดาพาหะไร้อาการของโรคนั้นกลับกลายเป็นประเด็นใหญ่ในหมู่ผู้ที่หวั่นวิตกว่าจะเกิดการติดเชื้อใหญ่ระลอกที่สอง 4 ข้อควรรู้เกี่ยวกับผู้ที่เป็นพาหะซึ่งไม่แสดงอาการ 1. แพร่เชื้อได้มากแค่ไหน? การติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการมีอยู่ 2 สองประเภท ประเภทแรกคือ “กลุ่มก่อนเกิดอาการ” (pre-symptomatic) หมายถึงผู้ป่วยที่ยังไม่พัฒนาอาการใด ๆ แต่ที่จริงแล้วอยู่ในระยะฟักตัว (incubation) คนกลุ่มนี้ต้องถูกแยกออกมาและจัดการในลักษณะเดียวกับผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นโรค ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มที่ทั้งไม่แสดงอาการและไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยา (pathological changes) ในผลเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) ซึ่งเป็นพาหะที่ไม่แสดงอาการโดยแท้จริง พวกเขาไม่ถูกนับเป็นผู้ป่วย แต่มีผลทดสอบกรดนิวคลีอิกออกมาเป็นบวก พาหะที่ไม่แสดงอาการจะมีความสามารถในการแพร่เชื้อในระดับหนึ่ง แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในระดับต่ำและต่ำกว่าผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 2. การติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการจะก่อให้เกิดการระบาดซ้ำได้หรือไม่? คำสั่งปิดการเดินทางขาออกของนครอู่ฮั่น ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีน ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 เม.ย. หลังผ่านพ้นการปิดเมืองไป 76 วัน จึงมีการมุ่งความสนใจไปที่ความเสี่ยงของการแพร่เชื้อในที่ทำงานมากขึ้น การติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการไม่ใช่อะไรที่พิเศษนักสำหรับโรคโควิด-19 โรคติดเชื้อต่างๆ อาทิ โรคหัด ไข้หวัดใหญ่ และโรคซาร์ส (SARS) ล้วนมีสัดส่วนของผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการในระดับหนึ่ง และไม่มีพาหะเงียบรายใดที่ก่อให้เกิดการระบาดเป็นวงกว้างในสังคม เมื่อพบพาหะที่ไม่แสดงอาการ จะดำเนินการสังเกตการณ์แบบแยกเชื้อและการตรวจสอบทางระบาดวิทยาอย่างละเอียดและเหมาะสมแก่เวลา และจะต้องยกระดับการควบคุมและการคัดกรองให้ละเอียดขึ้นในพื้นที่สำคัญและในกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิด เราหวังว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยติดตามพาหะที่ไม่แสดงอาการและลดโอกาสการแพร่เชื้อได้ […]

1 … 15 16 17 … 74