จับตา! อุตสาหกรรมหนังไทย ยุคสื่อดิจิทัลครองเมือง
สื่อดิจิทัลที่เกิดขึ้นถาโถมโรมรันดั่งคลื่นสึนามิคลั่ง เข้ามาอยู่เกือบจะทุกภาคส่วนธุรกิจ แย่งส่วนแบ่งการตลาดไปมากโข โดยเฉพาะจากสื่อภาพยนตร์ ละคร รายการ ทีวี วิทยุ และหนังสือ บางรายที่เปิดกิจการยืนหยัดมานานถึงกับปิดตัวหลั่งน้ำตากันไป จากข้อมูลสถิติระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว 2559 อุตสาหกรรมหนังไทยมีส่วนแบ่งการตลาดที่ค่อนข้างจะน่าใจหาย นั่นคือ ยอดลดลงถึงร้อยละ 15 เท่านั้น เพราะผู้บริโภค (คนดูหนัง) เปลี่ยนไปจากเดิมมาก ซึ่งไม่กระทบเฉพาะอุตสาหกรรมหนังไทยเท่านั้น แต่คลื่นสึนามิลูกนี้ส่งแรงกระเพื่อมซัดทะลวงไปถึงทุกวงการเลยทีเดียว วงการภาพยนตร์ถือเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ การถ่ายทำหนังแต่ละเรื่องจะมีการใช้งบประมาณค่อนข้างสูง มีทีมงานและผู้เกี่ยวข้องนับร้อยชีวิต ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ในภาคการส่งออกหนังไทยไปยังตลาดต่างประเทศ มีประมาณ 500 บาทต่อปี ซึ่งประเด็นนี้จำเป็นต้องอาศัยการช่วยเหลือจากภาครัฐในการผลักดันให้อุตสาหกรรมหนังไทยเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ขณะเดียวกัน คู่แข่งสายตรงของหนังไทยคือ หนังต่างประเทศ ที่เข้ามากวาดรายได้แย่งส่วนแบ่งตลาดจากแฟนคลับหนังเหล่านั้น หลัก ๆ ก็จะมีหนังฮอลลีวู้ดและเกาหลี ส่วนหนังจากประเทศอื่นก็แชร์กันมาในปริมาณไม่มากนัก เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา กองถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศที่ยกมาถ่ายทำในไทย มีมูลค่าการลงทุนราว 3,000 ล้านบาท ตามแผนโปรโมทท่องเที่ยวของ ททท. แหล่งข่าวในสายงานภาพยนตร์ให้ข้อมูลว่า หากจะยกระดับอุตสาหกรรมหนังไทยให้มีเม็ดเงินที่เติบโต มียอดการผลิตที่เพิ่มขึ้น เทียบเท่าฮอลลีวู้ดหรือเกาหลีนั้น รัฐจะต้องให้การสนับสนุนดังต่อไปนี้ ลดภาษีเกี่ยวกับภาพยนตร์ […]


