News
ต้องไป ! 6-9 ต.ค.พาณิชย์ขนธุรกิจเด่นร่วมงาน “แฟรนไชส์ สร้างอาชีพ”
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์นำผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ในการส่งเสริมของกรมฯเข้าร่วมนำเสนอสินค้าและเจรจาธุรกิจในงาน “มหกรรมแฟรนไชส์สร้างอาชีพครั้งที่ 18” ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 6-9 ตุลาคม 2559 ณ เซ็นทรัล เวสต์เกต สำหรับงานในครั้งนี้เป็นการรวบรวมหลากหลายธุรกิจแฟรนไชส์และธุรกิจที่น่าลงทุนในประเภทต่าง ๆมานำเสนอแก่ผู้สนใจลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ อาทิธุรกิจประเภทอาหารเครื่องดื่ม ธุรกิจความงามและสปาธุรกิจการศึกษา และธุรกิจบริการ เป็นต้น ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้สนใจลงทุนและผู้เข้าร่วมงานจะสามารถเจรจาซื้อ-ขายธุรกิจได้โดยตรงจากเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์และเลือกซื้อแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับความสนใจ ของตนเอง การนำผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์เข้าร่วมงานมหกรรมแฟรนไชส์สร้างอาชีพ ครั้งที่ 18 ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อผลักดันผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีศักยภาพ ให้สามารถขยายตลาดได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยกรมฯจะนำธุรกิจแฟรนไชส์เข้าร่วมเปิดตลาดในงานแสดงสินค้าระดับใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ สำหรับในประเทศไทยมีกำหนดจัดขึ้นทั้งหมด 4 ครั้ง ที่ผ่านมาได้นำแฟรนไชส์เข้าร่วมงานแล้วจำนวน 2 ครั้ง รวม 96 ราย โดยครั้งแรกได้พาผู้ประกอบการจำนวน 44 ราย ไปแสดงธุรกิจที่งาน Thailand Franchise & Business Opportunities 2016 ครั้งที่ 12 (TFBO) และครั้งที่ 2 เข้าร่วมงาน RetailEX ASEAN 2016 จำนวน […]
ชี้ SMEs เจอภาวะเสี่ยงค้าระหว่างปท.แถมเมินทำประกันส่งออก
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ เอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศยังเพิ่มขึ้น เพราะจากข้อมูลขององค์กรรับประกันเอทราดิอุส ได้คาดว่าสถานการณ์ความเสี่ยงการล้มละลายในประเทศพัฒนาแล้วของปี 59 และปี 60 อยู่ในช่วงเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 52 แต่ปัจจุบันผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอียังไม่เห็นความสำคัญของการทำประกันการส่งออกเท่าที่ควร เนื่องจากกังวลเรื่องต้นทุนค่าใช้จ่าย ทั้งนี้การทำประกันการส่งออก มีค่าเบี้ยประกันคิดเป็นสัดส่วนเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนและให้ความคุ้มครองที่แน่นอนว่า ธุรกิจส่งออกจะไม่ขาดสภาพคล่องหรืออาจถึงขั้นต้องหยุดกิจการ เมื่อผลิตและส่งออกไปแล้วไม่ได้รับชำระเงินจากผู้ซื้อในต่างประเทศ เพราะการติดตามหนี้ในต่างประเทศเป็นเรื่องยุ่งยากมาก สำหรับช่วง 8 เดือนของปี 59 มีผู้ส่งออกยื่นขอรับค่าสินไหมทดแทนกับธนาคารรวมกว่า 12.55 ล้านบาท สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากผู้ซื้อไม่ชำระเงินค่าสินค้า 98% และผู้ซื้อล้มละลายอีก 2% แบ่งตามมูลค่าของประเภทสินค้า 50% เป็นข้าว รองลงมาได้แก่ อาหารกระป๋อง 20% เส้นไหมสำหรับทอพรม 15% อัญมณีและเครื่องประดับ 12% และยางรถยนต์ 3% แบ่งตามประเทศผู้ซื้อ ได้แก่ เยอรมนี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา และนอร์เวย์
ธพว.หนุนนโยบายรัฐทุ่ม 40 ล.ร่วมทุนเกษตรแปรรูป 2 กิจการ
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประทศไทย ( ธพว.) หรือ SME Development Bank เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารฯได้เปิดโครงการกองทุนร่วมลงทุนพันธกิจ SMEs เชิงเกษตรและที่เกี่ยวข้องวงเงิน 100 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการเติบโตของธุรกิจ SMEs ที่มีศักยภาพ และสนับสนุนธุรกิจ SMEs ในกลุ่ม S – Curve ตามนโยบายรัฐนั้น คณะกรรมการร่วมลงทุน (Venture Capital Committee) ได้อนุมัติหลักการให้ธพว.เข้าร่วมลงทุนธุรกิจ SMEs เชิงเกษตรและเกษตรแปรรูป 2 กิจการ คือ บริษัท ฟาร์มเห็ดระยอง แอนด์ วีวีไบโอเทค จำกัด 20 ล้านบาท และบริษัทโจ-ลี่ แฟมิลี่ จำกัด 20 ล้านบาท เช่นกัน ทั้งนี้บริษัท ฟาร์มเห็ดระยอง แอนด์ วีวีไบโอเทค จำกัด เป็นผู้ประกอบการธุรกิจผลิตและจำหน่ายเห็ดออรินจิ ภายใต้ตรา “Super Mushroom”ตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง เป็นผู้ผลิตเห็ดออรินจิ 1 ใน 3 ของประเทศไทยที่มีมาตรฐานและคุณภาพสูงได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง วางจำหน่ายผ่าน Modern Trade ภัตตาคารและร้านค้าอาหารชั้นนำ ด้วยความโดดเด่นของความสดใหม่มากกว่าเห็ดออรินจิที่นำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งปลอดสารพิษเนื่องจากเพาะปลูกในระบบปิดที่มีมาตรฐานและความปลอดภัย โดยได้รับการรับรองจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การเข้าร่วมทุนของธพว.จำนวนเงิน 20 ล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี บริษัทฯจะนำเงินไปใช้เพื่อปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับการผลิต รองรับการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น รวมถึงมีเงินทุนหมุนเวียนในกิจการเนื่องจากโอกาสทางธุรกิจมีความต้องการของผู้บริโภคสูงอย่างต่อเนื่องเป็นไปตามกระแสความนิยมอาหารเพื่อสุขภาพ ประกอบกับภาครัฐได้ส่งเสริม SMEs โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมการเกษตรและเกษตรแปรรูปในรูปแบบต่าง […]
ดราม่าระอุ!ชาวเนตล่ารายชื่อ ให้อาหารCPในเซเว่นแจงคุณค่าและส่วนผสมที่ก่อให้แพ้!
เป็นประเด็นสดๆร้อนๆของสาวชาวเน็ตคนหนึ่งที่ออกมาตั้งกระทู้รวบรวมรายชื่อสนับสนุนในหัวข้อที่ว่า บังคับ! ให้อาหารของCPที่ลงขายใน7-11 บอกคุณค่าทางโภชนาการ และส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ โดยเธอได้ให้เหตุผลที่ต้องออกมารวมรายชื่อว่าดังนี้ เบื่อไหมเมื่อเวลาคุณอยากจะลดน้ำหนักหรือควบคุมแคลอรี่อาหารแล้วบังเอิญอยากกินไส้กรอกหรือข้าวกล่องCPที่วางขายใน7-11สักชิ้นหรือสักกล่องนึง แต่อาหารที่คุณจะกินนั้นกลับไม่บอกคุณค่าทางโภชณาการ เบื่อไหมที่ข้าวกล่องCP ไม่บอกรายละเอียดข้อมูลอาหารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้อย่างระเอียด เบื่อไหมเมื่อเวลาที่คุณพลิกไปที่ด้านหลังอาหารพวกไส้กรอกCPกลับเจอสิ่งที่เขียนแค่ เนื้อสัตว์ เกลือ น้ำตาล เครื่องเทศ แต่ไม่มี% บอกว่ามีเนื้อหมูกี่ % เนื้อไก่กี่ % เกลือเท่าไหร่ เราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี และได้รับข้อมูลที่ผู้บริโภคคนนึงสมควรได้รับก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะข้อมูลบางอย่างเช่น ข้อมูลรายละเอียดอาหารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ ถ้าทางCPไม่บอกอย่างละเอียด อาจจะทำให้คนที่กินได้รับอันตรายและเสียชีวิตลงได้!!! เราเชื่อว่าถ้าทางCPบอกข้อมูลพวกนี้ให้ครบถ้วน ฐานผู้บริโภคจะแน่นหนาขึ้นอย่างแน่นอน และมีเปอร์เซ็นต์ที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วย เราเชื่อว่าถ้าทุกคนร่วมกันรณรงค์แคมเปญนี้ จะสามารถทำให้การใช้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นและดีขึ้น ในขณะที่คุณกำลังควบคุมแคลอรี่ หรือควบคุมอาหารอยู่ ทุกคนจะมีอัตราเสี่ยงของการเจ็บป่วยน้อยลง (ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่เรื่องการแพ้อาหารก็ตาม) ซึ่งสิ่งที่เธอบรรยายออกมานั้นเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมานานแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ถูกแก้ไขซะทั้งหมด >>> หลายครั้งที่เรามักไม่มั่นใจกับข้าวกล่องในเซเว่นเพราะกระแสข่าวที่ออกมา >> แล้วคุณล่ะคิดยังไงกับประเด็นนี้


