08:32 น. เลื่อนเก็บภาษีน้ำหวานไม่มีกำหนด หวั่นกระทบผู้ประกอบการ


ขอบคุณภาพจาก : มูลนิธิภิวัฒน์สาธารณสุขไทย

น้ำหวาน

ที่ประชุมร่วม 3 ฝ่าย คือ คณะกรรมาธิการด้านการเก็บภาษี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผู้แทนจากคณะรัฐนตรี และผู้แทนจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีข้อสรุปให้ชะลอการเก็บภาษีน้ำหวานออกไปไม่มีกำหนด

เนื่องจากที่ประชุมได้หารือและพิจารณาผลดีผลเสียอย่างละเอียด โดยให้ใช้กฎหมายที่มีอยู่จากหน่วยงานที่รับผิดชอบในปัจจุบัน ดำเนินการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มไปก่อน

เนื่องจากกังวลว่า จะส่งผลกระทบกับผู้ผลิตน้ำตาลทั้งประเทศ เพราะเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และจะส่งผลไปยังบรรดาผู้ประกอบการเป็นวงกว้าง รวมทั้ง เอสเอ็มอี ซึ่งจะทำให้การบริหารเศรษฐกิจมีความยากลำบากมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ที่ประชุมจะเลื่อนการเก็บภาษีน้ำหวานออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่กระทรวงการคลัง ก็จะยังคงศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีไว้ต่อไป เพื่อเป็นข้อมูลให้กับฝ่ายบริหาร

ทั้งนี้ สปท. ได้มีมติเสนอให้รัฐบาล ปรับขึ้นภาษีเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกินเกณฑ์มาตรฐาน กระทั่งอาจส่งผลต่อสุขภาพ อาทิ น้ำอัดลม ชาเขียว กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง นมเปรี้ยว นมถั่วเหลือง น้ำผลไม้

โดยจัดเก็บภาษี 2 อัตรา ตามความเข้มข้นของน้ำตาลคือ ปริมาณน้ำตาลมากกว่า 6-10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จัดเก็บภาษีในอัตราที่ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 20%ของราคาขายปลีกและปริมาณน้ำตาลมากกว่า 10 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จัดเก็บภาษีในอัตราที่ทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นไม่น้อยกว่า 25%ของราคาขายปลีก

ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนลดการบริโภคเครื่องดื่มรสหวานลง และเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ โดยปัจจุบันเครื่องดื่มในท้องตลาดเกือบทั้งหมด มีน้ำตาลมากกว่า 6 กรัมต่อมิลลิลิตร กระทั่งสร้างภาระให้ประเทศ ต้องมีค่าใช้จ่ายจากโรคเหล่านี้สูงมาก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ทางด้านภาษีให้กับประเทศได้มากกว่าปีละ 10,000 ล้านบาท