พาณิชย์ดันสินค้าในประเทศยกระดับ SME ไทย


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือประชุมร่วมกับ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ได้เห็นชอบตั้งอนุกรรมการ 2 ชุด คือ ด้านการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมและการค้า และด้านการแก้ไขปัญหาภาคอุตสาหกรรมและการค้า เพื่อดึงความร่วมมือภาครัฐกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เพื่อทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มที่และใกล้ชิดมากขึ้น ส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์พร้อมร่วมมือตามนโยบายเมดอินไทยแลนด์ หรือจัดซื้อจัดจ้างสินค้าในประเทศ

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรม (สอท.) เปิดเผยว่า หากโครงการเมดอินไทยแลนด์เป็นรูปธรรม จะทำให้เกิดประโยชน์กับ SME มาก แม้จะมีมาตรการกีดกันทางการค้าและสถานการณ์เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ก็จะทำให้ SME ปรับตัวได้ทัน เนื่องจากสถานการณ์ยอดขาย SME ยังไม่ดีนัก

นอกจากนี้ ส.อ.ท.ได้เสนอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยสนับสนุนเมดอินไทยแลนด์ โดยขอให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐที่จะต้องใช้สินค้าไทย และงบประมาณในการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์โครงการเมดอินไทยแลนด์เพื่อรณรงค์ให้คนไทยใช้สินค้าไทย ซึ่ง ส.อ.ท.จะเร่งทำแผนเมดอินไทยแลนด์ คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ส.ค.นี้ หากโครงการประสบความสำเร็จเชื่อว่าจะช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ไทยให้สามารถแข่งขันกับสินค้าจากต่างประเทศได้ และยังช่วยลดผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไทยยังคงรักษาดุลการค้าไว้ได้ เพราะมีการใช้สินค้าไทยมากขึ้น

นายสุพันธุ์ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่ภาคเอกชนให้ความสำคัญคือแนวทางในการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าและภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งต้องการให้ภาครัฐเดินหน้าผลักดันการเจรจาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) และการเข้าร่วมสมาชิก CPTPP ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้การค้าในทุกภาคส่วนมีการเติบโตไปในทิศทางที่ดี

“ปัจจุบันยอดขายของ SME ยังไม่ดีนัก ต้องมีโครงการเข้ามากระตุ้น ขณะที่ GDP ปีนี้คาดว่าจะโต 4.3-4.8% ซึ่งเป็นการเติบโตจากการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นหลัก” นายสุพันธุ์ กล่าว