สคบ. คุมเข้มออกร่างสัญญา ควบคุมธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสอง


สคบ. ทำร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา กำหนดให้รถยนต์ใช้แล้วหรือรถมือสอง เป็นธุรกิจที่ต้องควบคุมสัญญา เพื่อให้ผู้ประกอบการทำตามกฏหมายและไม่เอาเปรียบผู้บริโภคหลังได้รับการร้องเรียนหนัก

นายอุฬาร จิ๋วเจริญ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เผยว่า สคบ.กำลังอยู่ระหว่างจัดทำร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา กำหนดให้รถยนต์ใช้แล้ว หรือรถยนต์มือสอง เป็นธุรกิจที่ต้องควบคุมสัญญา เพื่อควบคุมธุรกิจรถยนต์มือสองทั่วประเทศ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายไม่เอาเปรียบผู้บริโภค เพิ่มเติมจากเดิมที่มีประกาศให้รถยนต์ใช้แล้วเป็นสินค้าควบคุมฉลาก และหลักฐานการรับเงิน และเพิ่มเติมจากเดิมที่ สคบ. ได้ออกประกาศให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจควบคุมสัญญา ซึ่งออกประกาศครั้งแรกในปี 2555 มีการแก้ไขในปี 2558 และ 2561

เนื่องจากตลาดของรถยนต์มือสองขยายตัวมากขึ้น และผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็มักซื้อรถยนต์มือสองอยู่เป็นประจำ สคบ.จึงได้กำหนดแนวทางการควบคุมธุรกิจดังกล่าวที่เข้มงวดและชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์มากที่สุด และไม่ทำให้ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มือสอง โดยจะควบคุมเรื่องของการชำระเงิน การทำสัญญา การคืนเงินจองในกรณีที่ผู้บริโภคกู้เงินไม่ผ่าน

ระยะเวลาการรับประกันรถยนต์หลังการขาย ซึ่งจะมีการระบุเป็นสัญญาไว้ชัดเจน พร้อมกันนี้ตามกฎหมายที่จะออกมายังระบุถึงแนวทางที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องปฏิบัติ หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษ เบื้องต้นจะพยายามผลักดันกฎหมายฉบับนี้ออกมาให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการว่าด้วยสัญญา พิจารณาเห็นชอบ

ที่ผ่านมา สคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค เช่น กรณีเมื่อได้วางเงินจองไปแล้ว แต่พอยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน บริษัทไฟแนนซ์ หรือลิสซิ่งต่างๆ และไม่ได้รับการอนุมัติ ได้เจอปัญหาที่ทางผู้ประกอบธุรกิจไม่ยอมคืนเงินให้ ทำให้เกิดความเดือดร้อนเสียเงินไปอย่างไม่เป็นธรรม โดยบางรายอ้างว่าผู้บริโภคผิดสัญญาจึงไม่ยอมคืนเงิน หรือบางรายก็เงียบเฉย ผู้บริโภคแจ้งไปเพื่อขอรับเงินคืนก็บ่ายเบี่ยง จนทำให้เกิดการร้องเรียน หรือสอบถามมายัง สคบ. อย่างต่อเนื่อง